ประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป>>

ประวัติศาสตร์ชนชาติจีน ฉบับย่อ

10

ราชวงศ์ถัง (พ.ศ. ๑๑๖๑-๑๔๔๙)

ราชวงศ์นี้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้จีนอย่างมาก ทั้งด้านศิลปกรรม วัฒนธรรม และอีกหลายๆ ด้าน หลี่หยวนได้ตั้งตัวเองเป็น พระเจ้าถังเกาจู่ หลังจากรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นแล้ว ก็เกิดการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทขึ้น ระหว่างโอรสหลี่เจี้ยนเฉิง หลี่ซื่อหมิน และหลี่หยวนจี๋ หลี่ซื่อหมินนั้น มีความดีความชอบมาก เนื่องจากรบชนะมาหลายครั้ง ต่อมา ก็เกิดกรณีศึกสายเลือดขึ้นที่ประตูเสียนอู่ (เสียนอู่เหมิน) หลี่ซื่อหมินได้สังหาร หลี่เจี้ยนเฉิง รัชทายาท และหลี่หยวนจี๋ และทำให้พระเจ้าถังเกาจู่ตั้งตนเป็นรัชทายาท และต่อมาพระเจ้าถังเกาจู่ก็สละราชสมบัติ ตั้งตนเองเป็นไท่ซ่างอ๋อง (สมเด็จพระราชบิดา)

หลี่ซื่อหมินขึ้นครองราชย์เป็น ถังไท่จงฮ่องเต้ ได้พยายามฟื้นเศรษฐกิจขึ้นมา ยุคของพระองค์ จัดเป็นยุคทองของราชวงศ์ถังทีเดียว ทรงรู้จักใช้คน ฟังคน มีการขยายอาณาเขตไปอีกมาก ต่อมา มีอยู่ปีหนึ่ง มีภัยพิบัติ พระถังซำจั๋งจึงออกเดินทางไปอินเดีย เพื่อศึกษาและอัญเชิญคัมภีร์ต่างๆ มาที่จีน ต้องเผชิญกับความทุรกันดารของทะเลทราย และภูมิประเทศที่ยากลำบาก (แต่ไม่มีปีศาจนะครับ) จนไปถึงวัดนาลันทา และได้ศึกษาจนเชี่ยวชาญ (สมัยนั้น วัดนาลันทายังไม่ถูกมุสลิมเข้ามาทำลาย) และศึกษาที่อื่นๆ จนแตกฉาน แล้วจึงเดินทางกลับจีน นำความรู้มาเผยแพร่ พอตอนปลายสมัยถังไท่จงฮ่องเต้ พระองค์ได้รับบูเหม่ยเหนียงมาเป็นสนม (ตำแหน่งไฉเหยิน) หลังจากนั้น ถังไท่จงก็สิ้นพระชนม์ เพราะเสวยยาอายุวัฒนะ

ตอนปลายยุคเจินกวน (รัชสมัยของถังไท่จง) เกิดความขัดแย้งในบรรดาองค์ชาย ๓ องค์ ของถังไท่จง สุดท้าย ถังไท่จงได้เลือกหลี่จื้อ ซึ่งอ่อนโยนกว่าคนอื่น (เพื่อกันไม่ให้อีกสองคนถูกฆ่า) เป็นรัชทายาท หลังจากถังไท่จงสิ้นพระชนม์แล้ว หลี่จื้อได้ครองราชย์ นามว่า ถังเกาจงฮ่องเต้ แล้วไปสึกนางบูเหม่ยเหนียงมาเป็นสนมเอก จากนั้น บูเหม่ยเหนียงได้บีบคอลูกตนเอง แล้วป้ายความผิดให้มเหสีหวัง ของถังเกาจง ทำให้ถังเกาจงถอดนางลงเป็นไพร่ แล้วตั้งบูเหม่ยเหนียงเป็นมเหสีแทน นางได้ลอบวางยาพิษสนมเซียวซู่ และพระนางหวัง แล้วเปลี่ยนชื่อแซ่ของทั้งสอง ไปในความหมายที่ไม่ดี ถอดๆ ตั้งๆ รัชทายาทหลายครั้งหลายหน นางได้แทรกแซงการบริหารบ้านเมือง ของถังเกาจงมาตลอด พอถังเกาจงสิ้นพระชนม์ นางก็ได้เปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็นโจว ได้ชื่อว่าบูเช็กเทียน แล้วสังหารองค์ชายแซ่หลี่ ของราชวงศ์ถังกว่า ๕๐ องค์ และคนอื่นๆ อีกมากมายที่ขวางทางนาง ปกครองด้วยความเหี้ยมโหด ใครขวางทางนาง จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก แม้แต่ผู้ที่นางไว้ใจก็ตาม (หากเหลิง) ยกเว้นติเหยินเจี๋ย มหาอุปราชผู้จงรักภักดี กล้าคัดค้านโดยไม่เกรงอาญา (ติเหยินเจี๋ยผู้นี้ ว่ากันว่าตงฉิน และเก่งกาจไม่แพ้เปาบุ้นจิ้นทีเดียว แถมยังตัดสินคดีแบบถี่ยิบ แต่ไม่ดังเท่าเปาบุ้นจิ้น) อย่างไรก็ดี ความโหดเหี้ยมของนางก็ไม่ลามไปถึงนอกวัง นางปกครองบ้านเมืองได้ดี จึงทำให้คนโดยมากไม่เดือดร้อนนัก บูเช็กเทียนเป็นพุทธศาสนิกชนที่จัดว่าใช้ได้คนหนึ่ง (ถ้าไม่ดูพฤติกรรมที่เหี้ยมโหดของนาง) ชอบทำบุญเลี้ยงพระ สร้างวัดวาอาราม แต่งหนังสือทางพุทธศาสนา หลังจากราชวงศ์โจวดำเนินมาสิบปีเศษ บูเช็กเทียนก็ชรามากแล้ว นางคิดจะยกบัลลังก์ให้เชื้อพระวงศ์แซ่อู่ (บู) ของนาง แต่โดนติเหยินเจี๋ยคัดค้านสุดฤทธิ์ และบรรดาขุนนาง อำมาตย์ รวมทั้งองค์หญิงไท่ผิง ราชธิดา และเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์ถังอื่นๆ ได้บีบให้นางลงจากบัลลังก์ในที่สุด ไม่นานหลังจากนั้น นางก็สิ้นพระชนม์ จากนั้น หลี่เสียนขึ้นครองราชย์ ราชวงศ์โจวก็เปลี่ยนกลับเป็นถังเหมือนเดิม

<< ย้อนกลับ | หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย