ประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป>>

ประวัติศาสตร์ชนชาติจีน ฉบับย่อ

24

หลังจากยึดอำนาจได้ไม่นาน พรรคก๊กมินตั๋งก็ส่งข่าวไปยังดร.ซุนยัดเซ็น เชิญให้กลับมาเป็นประธานาธิบดีคนแรก ในช่วงแรกๆ ของการปกครองแบบสาธารณรัฐ รัฐบาลยังคงให้ซวนถ่งพำนักอยู่ในพระราชวังได้ และคงพระราชทินนาม "ซวนถ่ง" ไว้ โดยให้อยู่ในส่วนของวังหลัง ไม่ให้มายุ่มย่ามกับท้องพระโรง ซึ่งเดิมใช้ว่าราชการ และไม่ให้รับขันทีเพิ่ม (แต่ก็ยังมีการแอบรับอยู่) โดยรัฐจะจ่ายเงินเดือนให้ ต่อมา ฝ่ายรัฐบาลได้มีมติยกเลิกอภิสิทธิ์ของราชวงศ์ชิงทั้งหมด ยกเลิกพระราชทินนาม กลับไปใช้ชื่อ "ฟู่อี้" ตามเดิม กลายเป็นสามัญชน แล้วขับออกจากพระราชวัง มิหนำซ้ำ ยังส่งทหารไปปล้นสดมภ์ และทำลายสุสานราชวงศ์ชิงอีกด้วย

หลังจากนั้น ฟู่อี้ก็ได้อพยพไปอยู่ที่เมืองเทียนสิน แล้วย้ายไปเมืองฉางชุน ทางแมนจูเรีย ด้วยความช่วยเหลือจากทหารญี่ปุ่น ซึ่งพยายามหาทางรุกรานจีน จากนั้น ได้ร่วมมือกับทหารญี่ปุ่น ตั้งประเทศ "แมนจูกัว" ขึ้น ฟู่อี้ได้ตั้งตัวเป็น จักรพรรดิคังเต๋อ กลายเป็นหุ่นเชิดของทหารญี่ปุ่น ในการรุกรานและก่อกรรมทำเข็ญกับชาวจีน (ดังในหนัง จับคนมาทำเชื้อโรค) ในระหว่างนั้น ในประเทศจีน พรรคก๊กมินตั๋งบริหารงานผิดพลาด มีการต่อต้านอย่างมาก เจียงไคเช็คก็ได้ฆ่าคนจีนไปมากมาย จนในที่สุด พรรคก๊กมินตั๋งก็พ่ายแพ้พรรคคอมมิวนิสต์ ในสงครามภายในจีน ทำให้เจียงไคเช็คต้องพาพรรคก๊กมินตั๋ง หลบไปอยู่ที่ไต้หวัน ตั้งการปกครองแบบประชาธิปไตยขึ้นที่นั่น จีนก็เปลี่ยนการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามเพราะถูกทิ้งระเบิดปรมาณู จักรพรรดิคังเต๋อหรือฟู่อี้หลบหนีไปรัสเซีย และถูกจับตัวโดยทหารรัสเซีย แล้วส่งกลับจีนในฐานะอาชญากรสงคราม ถูกส่งตัวไปขังที่สถานควบคุมอาชญากรสงคราม แล้ว "ดัดแปลง" (หรือล้างสมอง) จนกลายเป็นสามัญชนธรรมดา และได้รับนิรโทษกรรมพิเศษ ต่อมา มีการปฏิวัติวัฒนธรรม ฟู่อี้และหลี่ซู่เสียน ภรรยาคนสุดท้าย ก็ยังไม่วายถูกลากไปเกี่ยวด้วย แต่โชคดีที่ไม่ร้ายแรงมาก เหตุร้ายผ่านไปได้ด้วยดี จนในที่สุด อ้ายซินเจี๋ยหลอ ฟู่อี้ ก็ป่วยเป็นไตวายและจบชีวิตลงเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐

<< ย้อนกลับ

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย