สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์

คำประกาศแห่งความเสมอภาค

(The Communist Manifesto)
โดย คาร์ล มาร์กซ์ และ เฟรดริด แองเกลส์

โดยนัยนี้ การเคลื่อนไหวของกระฎุมพีดังกล่าว ก็เปิดโอกาสทอง ให้กับ ความปรารถนา ที่รอคอยมานาน สำหรับนักสังคมนิยมขนานแท้ ที่จะได้มีโอกาส ก่อรูป การเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่จะได้มีโอกาสประกาศ คำประนาม โดยอาศัยทัศนคติ ตามประเพณีเก่า ต่อต้านพวกนิยมเสรี รัฐบาลตัวแทน การแข่งขันของพวกกระฎุมพี เสรีภาพทางการพิมพ์ ของกระฎุมพี การออกกฎหมาย เสรีภาพและความเสมอภาพ ของกระฎุมพี และสรรเสริญมวลชน ผู้ไม่มีอะไรจะได้ และมีแต่จะสูญเสีย ในเวลาวิกฤต นักสังคมนิยมเยอรมัน ต่างลืมไปว่า บทวิจารณ์ของฝรั่งเศส ซึ่งผลสะท้อนของมัน ไร้ความหมายนั้น ได้ตั้งสมมุติฐาน อยู่บนความเป็นอยู่ ของสังคมกระฎุมพีสมัยใหม่ อันมีเงื่อนไข ทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกัน และธรรมนูญการเมือง ที่ปรับตัวเข้ากับ ความเป็นอยู่ของสังคม ดังกล่าวแล้ว ดังนั้นเงื่อนไขแบบเดียวกัน ที่กำลังเป็นที่ต้องการ ในเยอรมันเหล่านี้ พึ่งกำลังจะเกิดขึ้น จากการต่อสู้ ที่กำลังดำเนินอยู่ ในเยอรมัน ขณะนี้เท่านั้น

            สำหรับรัฐบาลสูง อันกอปรด้วยพระ ศาสตราจารย์ เจ้าที่ดิน และเหล่าข้าราชการ ก็กลายเป็นเพียงหุ่นเชิด ที่ยอมอ่อนข้อให้กับชนชั้นกระฎุมพี ผู้ขู่เข็ญคุกคาม
            มันเป็นการสิ้นสุด ที่หวานชื่น หลังจากยาขมของแส้ และกระสุนปืน ซึ่งชนชั้นคนงาน เยอรมัน ได้ถูกปลุกกระตุ้นขึ้น ในเวลานั้น โดยรัฐบาลชุดเดียวกันนี้
            ในขณะที่พวกสังคมนิยมขนานแท้ ได้รับใช้รัฐบาลเป็นอาวุธปราบปรามกระฎุมพี ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นตัวแทนโดยตรงต่อผลประโยชน์ ของพวกปฏิกิริยา หรือพวกยิวเยอรมันนั้นเอง ในเยอรมันชนชั้นกระฎุมพีผู้น้อย อันเป็นชนชั้น ที่สืบทอดมา ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ได้เพาะตัวเพิ่มขึ้นอีก อย่างมั่นคงในรูปแบบต่างๆ กันได้กลายมาเป็น พื้นฐานสังคมอย่างแท้จริง ของสภาพความเป็นอยู่ทางวัตถุ
            ในการรักษาชนชั้นนี้ไว้ ก็เท่ากับรักษาสภาพความเป็นอยู่ ของสังคมในเยอรมัน อำนาจสูงสุด ทางการเมือง และอุตสาหกรรม ของกระฎุมพี ได้คุกคามการทำลายล้างมัน อย่างเด็ดขาด ในทางหนึ่ง โดยผ่านขบวนการ รวบระดมทุน อีกทางหนึ่ง โดยการกำเนิด ชนชั้นกรรมาชีพนักปฏิวัติ ดูเหมือนว่า สังคมนิยมขนานแท้ ได้ฆ่านก ทั้งสองตัวนี้ โดยก้อนหิน ก้อนเดียวก็จริง แต่มันกลับขยายออกไป เหมือนโรคระบาด
            เสื้อคลุมตาข่ายแห่งความคิด ถักร้อยด้วยดอกไม้แห่งวาทศิลป์ และแช่ลงในน้ำค้าง แห่งความรู้สึก ของจิตที่ป่วยไข้ เสื้อคลุมอันดีเยี่ยมนี้เอง ที่พวกสังคมนิยมเยอรมันใช้ห่อ " สัจจะนิรันดร์ " ที่น่าเศร้าสร้อยทั้งหลาย ของมันไว้ และช่วยเพิ่มจำนวน ในการขายสินค้า (ความคิด) ของมัน ต่อปวงชนได้อย่างมหัศจรรย์
            และในชีวิตของมัน สังคมนิยมเยอรมัน ยิ่งยอมรับการเป็นตัวแทน อันทรงเกียรติ ให้แก่ กระฎุมพีผู้น้อยชาวยิวมากยิ่งขึ้น
            มันได้อ้างต่อสาธารณชน ถึงความเป็นชาติแบบฉบับ ของเยอรมัน และการเป็น บุคคลตัวอย่าง ของยิวผู้น้อยชาวเยอรมัน มันได้ตีความอย่างคลุมเครือสูงส่ง และตามแบบ สังคมนิยม ต่อความไร้สาระ อันแสนชั่วร้าย ของบุคคลตัวอย่างนี้ ซึ่งขัดกับลักษณะ ที่แท้จริงของมัน อย่างชิ้นเชิง มันได้ก้าวเข้าสู่ขีดสุด แห่งการเป็นปฏิปักษ์ โดยตรง ต่อแนวโน้ม " ที่การใช้กำลัง ทำลายล้างอย่างรุนแรง " ของคอมมิวนิสต์ และเข้าสู่ขีดสุด แห่งการประนาม การต่อสู้ทางชนชั้นทั้งหลาย อย่างรุนแรง สิ่งตีพิมพ์ดังนี้ ที่เรียกกันว่า เป็นสังคมนิยม และคอมมิวนิสต์ ทั้งหมดมีข้อยกเว้นน้อยมาก ซึ่งในขณะนี้ (1847) หมุนเวียนอยู่ในเยอรมัน ล้วนแล้วแต่อยู่ในขอบข่าย ของวรรณกรรมโสโครก และไร้คุณค่า ชนิดนี้ทั้งสิ้น


                 2. สังคมนิยมอนุรักษ์ หรือสังคมกระฎุมพี
            กระฎุมพีส่วนหนึ่ง มีความปรารถนา ที่จะบรรเทาความขัดแย้ง ในสังคม ทั้งนี้ เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัย ให้แก่ความเป็นอยู่ ของสังคมกระฎุมพี
            ส่วนนี้กอปอด้วย นักเศรษฐศาสตร์ ผู้รักมนุษย์ชาติ ผู้ปรับปรุงสภาพ ของชนชั้นคนงาน สมาชิกสมาคมการกุศล สมาชิกสมาคมต่อต้านผู้ทำร้ายสัตว์ คนคลั่งศาสนา ที่ไม่เสพ ของมึนเมา และนักปฏิรูปสัพเพเหระ อะไรก็ได้เท่าที่จะสามารถนึกเอาได้ ยิ่งไปกว่านั้น สังคมนิยมแบบนี้ ยังได้บรรลุถึงระบบงาน ที่สมบรูณ์อีกด้วย
            เราอาจจะอ้างถึง " Philosphic de la Misere " ของ " พรูดอง " เป็นตัวอย่าง ของรูปแบบนี้ได้
            สังคมนิยมกระฎุมพี ต้องการผลได้ทั้งหมด จากเงื่อนไขของสังคมแบบใหม่ โดยไม่ต้องการ การต่อสู้ และอันตรายซึ่งเป็นผลลัพธ์ ที่ต้องเกิดขึ้นจากการต่อสู้นี้ เขาปรารถนา สภาพความเป็นอยู่ ของสังคมมากกว่า ส่วนที่ปฏิวัติ และแตกแยกออกไปนี้ เขามีความต้องการ เพื่อชนชั้นกระฎุมพีเท่านั้น มิใช่เพื่อชนชั้นกรรมาชีพ พวกกระฎุมพี โดยมาก มักจะฝันถึงโลกที่ดีที่สุด และสังคมนิยมกระฎุมพี ก็พยายามพัฒนา ความคิดที่ สะดวก สบาย แบบนี้ ให้เข้าสู่ระบบที่สมบรูณ์ ไม่มากก็น้อย ในความปรารถนา ที่จะทำให้ กรรมาชีพแบกรับระบบนี้ และเพื่อที่จะก้าวตรง ไปสู่สังคมเยรูซาเลมใหม่ ดังนั้น สิ่งที่เป็น ความปรารถนา ที่แท้จริงเพียงอย่างเดียว ก็คือกรรมาชีพ จะต้องคงอยู่ในโครงครอบ ของสังคม ที่เป็นอยู่ แต่จะต้องสลัด ความเกลียดชังทั้งหมด ที่มีต่อกระฎุมพีออกไปด้วย
            ในรูปแบบสอง ที่ถึงแม้จะไม่ดำเนินเป็นระบบ แต่ก็ปฏิบัติได้ดีกว่า ของสังคมนิยม แบบนี้ก็คือ การพยายาม ที่จะกำจัดความเคลื่อนไหว ปฏิวัติทุกด้าน ออกจากความคิด ของชนชั้นกรรมาชีพ โดยการบอกกล่าวว่า ไม่จำเป็น จะต้องมีการปฏิรูป ทางการเมือง อีกต่อไป แต่จะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ความเป็นอยู่ทางวัตถุ และความสัมพันธ์ ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ต่อพวกเขายิ่งกว่า แต่อย่างไรก็ตาม โดยวิธีการ เปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ความเป็นอยู่ทางวัตถุ สังคมนิยมแบบนี้ ไม่สามารถเข้าใจ ถึงการยกเลิกความสัมพันธ์ ทางการผลิตแบบกระฎุมพี ซึ่งการยกเลิกนี้ จะทำได้ก็แต่ โดยวิธีการปฏิวัติ เท่านั้น มิใช่การปฏิรูป การบริหารงาน ซึ่งวางรากฐาน อยู่บนสภาพ ความเป็นอยู่ ที่ต้องดำเนิน ไปเรื่อยๆ แห่งความสัมพันธ์ แบบนี้ เพราะฉะนั้น การปฏิรูป ที่ไม่มีผลเปลี่ยนแปลง จริงจังอย่างใด ระหว่าง ความสัมพันธ์ของทุน กับแรงงาน เพียงแต่ทำให้ทุ่นค่าโสหุ้ย ในการผลิต และทำให้การบริหาร ของรัฐบาลกระฎุมพีง่ายขึ้น เท่านั้น
            สังคมนิยมกระฎุมพี จะบรรลุถึงการแสดงความคิดเห็น ที่สมบรูณ์ ก็แต่เพียงเมื่อ การแสดงออกนั้น เป็นการแสดงสุนทรพจน์ (ดีแต่พูด) เท่านั้น
            การค้าขายเสรี - เพื่อผลประโยชน์ ของคนงาน การรักษาความสงบ เรียบร้อย - เพื่อผลประโยชน์ ของคนชั้นคนงาน การปฏิรูปคุก - เพื่อผลประโยชน์ ของชนชั้นคนงาน นี่คือข้อสรุป และเป็นข้อสรุป ที่หมายความเช่นนั้น อย่างจริงจัง ของสังคมกระฎุมพี
            ข้อสรุปเหล่านี้ สามารถรวมเข้า เป็นประโยคเดียว กระฎุมพี คือกระฎุมพี - เพื่อผลประโยชน์ ของชนชั้นคนงาน
              3. นักวิจารณ์ - เพ้อฝัน สังคมนิยม และคอมมิวนิสต์
            ในที่นี้ เรามิได้หมายถึงวรรณกรรม ที่เป็นปากเสียง เพื่อการเรียกร้อง ของชนชั้น กรรมาชีพ ในการปฏิวัติสมัยใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ทั้งมวล อันได้แก่งานเขียนของบาโบว์ฟ และคนอื่นๆ
            ความพยายามโดยตรง ครั้งแรกของกรรมาชีพ เพื่อบรรลุถึงจุดมุ่งหมาย ของตนเอง ได้เริ่มขึ้น ในเวลาแห่งการตื่นตัว ของโลก เมื่อสังคมศักดินา กำลังถูกโค่นล้ม การปฏิบัติ ในครั้งนี้ โดยส่วนสำคัญแล้ว นับว่าล้มเหลว ซึ่งเนื่องมาจาก สภาพที่ด้อยพัฒนา ของกรรมาชีพ กอปรทั้งยังขาดเงื่อนไข ทางเศรษฐกิจ อันจำเป็น เพื่อการปลดปล่อยตนเอง ซึ่งเงื่อนไขนี้ ไม่ได้สร้างขึ้น และจะสามารถ สร้างขึ้นได้ก็แต่เพียง ในยุคของกระฎุมพี ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นเท่านั้น วรรณกรรมปฏิวัติ ที่ก้าวเคียงคู่มากับ การเคลื่อนไหวครั้งแรก ของกรรมาชีพนี้ ในส่วนสำคัญแล้ว เป็นลักษณะของปฏิกิริยา เพราะมันได้เสนอให้คนเชื่อ ในความมักน้อย ที่มีอยู่อย่างแพร่หลาย (ความยากจน) และการตั้งระดับเป้าหมาย ของสังคม ในรูปแบบที่หยาบ ที่สุด

<< ย้อนกลับ | หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย