ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

พระวรสารแห่งชีวิต

    ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก

บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย

52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64
65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77

68. ลักษณะเด่นพิเศษประการหนึ่งของภัยคุกคามชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันนี้-ดังที่ได้กล่าวถึงมาแล้วหลายครั้ง-ก็คือ มีแนวโน้มเรียกร้องให้รับรองความชอบธรรมทางด้านกฎหมายสำหรับสิ่งเหล่านั้น ราวกับว่ามันเป็นสิทธิที่ฝ่ายรัฐอย่างน้อยก็ภายใต้เงื่อนไขบางประการ จะต้องยอมรับรู้ว่ามันเป็นสิทธิของพลเมือง ผลที่ตามมาก็คือมีแนวโน้มที่อ้างว่าควรจะเป็นได้ที่จะให้ใช้สิทธิเหล่านั้น ด้วยความช่วยเหลือจากแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัยและโดยไม่ต้องเสียเงินใดๆ ทั้งสิ้น

บ่อยครั้ง มีการอ้างด้วยว่าชีวิตของทารกที่ยังไม่เกิดมาหรือชีวิตของผู้ที่พิการร้ายแรงนั้น เป็นเพียง “ความดีสัมพันธ์” เท่านั้น (relative good) นั่นคือตามทฤษฎีสัดส่วน หรือทฤษฎีการคำนวณที่ชัดเจนแน่นอนนั้น ความดีนี้ควรถูกนำมาเปรียบหรือเทียบเคียงกับความดีอื่นๆ ถึงกับมีการยืนยันด้วยว่าบุคคลที่อยู่ในสถานะการณ์จริงด้วยตัวเองเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องถึงความดีต่างๆ ที่เป็นอยู่นั้น ผลก็คือบุคคลผู้นั้นเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้ถึงศีลธรรมแห่งการเลือกของตนนั้น ดังนั้นฝ่ายรัฐที่ให้ความสนใจต่อความเป็นอยู่ร่วมกันของพลเมืองและความปรองดองกันทางสังคม จึงควรให้ความเคารพต่อการเลือกนี้ จนถึงขั้นที่ต้องอนุญาตให้มีการทำแท้งและการทำการุณยฆาตได้ด้วย

ในเวลาอื่นก็มีการอ้างว่ากฎหมายบ้านเมืองนั้นไม่อาจบังคับให้ประชาชนเจริญชีวิตตามมาตรฐานทางศีลธรรมที่สูงเกินกว่าที่คนพวกนั้นรับรู้และมีส่วนร่วมอยู่นั้นได้ ฉะนั้น กฎหมายก็ควรแสดงออกเสมอถึงความเห็นและความต้องการของพลเมืองส่วนใหญ่ และยอมรับรู้ว่าพวกเขามีสิทธิแม้แต่จะทำแท้ง และทำการุณยฆาต อย่างน้อยก็ในกรณีสำคัญมากบางกรณีได้ ยิ่งกว่านั้น การห้ามและการลงโทษการทำแท้งและการทำการุณยฆาตในกรณีเหล่านี้ ก็อาจนำไปสู่-ตามที่พวกเขาว่านั้น-การแอบทำ ผิดกฎหมายในเรื่องนี้กันมากขึ้นด้วยซ้ำไป นั่นคือ การกระทำเหล่านี้ไม่จำเป็นที่สังคมจะต้องมาคอยควบคุม และอาจจะแอบไปทำกันในแบบที่ไม่ปลอดภัยทางด้านการแพทย์ด้วย จึงเกิดมีคำถามขึ้นมาว่า การสนับสนุนกฎหมายซึ่งไม่สามารถบังคับใช้ได้ในทางปฏิบัตินั้น ไม่เป็นการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายหรือ

ประการสุดท้าย มีแนวคิดแบบลึกซึ้งถึงแก่นที่ไปไกลถึงขั้นที่ว่า ในพหุสังคมสมัยใหม่นี้ ผู้คนทั้งหลายควรจะได้รับอนุญาตให้มีอิสรภาพเต็มที่ที่จะจัดการกับชีวิตของตนเอง รวมทั้งชีวิตที่ยังไม่ถือกำเนิดมานั้นด้วย กล่าวคือมีการอ้างว่ามิใช่เป็นภารกิจของกฎหมายที่จะเลือกระหว่างความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายทางด้านศีลธรรม และยิ่งกว่านั้นอีกที่กฎหมายจะอ้างเอาความคิดเห็นด้านศีลธรรมเฉพาะประการใดประการหนึ่งมาบังคับใช้โดยตัดความคิดเห็นอื่นๆ ทิ้งไปเสีย

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย