ศิลปะ หัตถกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม สันทนาการ >>
ประวัติของกีฬาแบดมินตัน
วิธีการแข่งขัน
อุปกรณ์ในการเล่นแบดมินตัน
อุปกรณ์ในการเล่นแบดมินตัน
ไม้แร็กเกต
ไม้แร็กเกตมีหลายประเภท เช่น ไม้ล้วน ๆ ไม้ผสมโลหะ และโลหะล้วน ๆ
มีขนาดและน้ำหนักไม่เท่ากันแล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
ไม้แร็กเกตที่ดีต้องขึงเอ็นตึง ไม้ไม่บิดเบี้ยว เมื่อเอามือกดเอ็นไม่หย่อน
หรือในการตรวจสอบดูว่า เอ็นตึงหรือไม่ โดยใช้เอ็นตีฝ่ามือ ฟังเสียงเอ็นนั้น
หรือใช้หลังเล็บกรีดเอ็นจากล่างขึ้นบนแล้วฟังเสียงเอ็นนั้น
เสียงสูงย่อมหมายถึงตึงมาก แสดงว่าขึงเอ็นตึงดีแล้ว
จากการวิจัยและทดสอบมีข้อยืนยันเกี่ยวกับชนิดของเอ็นที่ใช้ขึงแร็กเกตว่า
ขนาดของเอ็นเส้นเล็ก จะมีแรงสปริงดีกว่าเอ็นเส้นใหญ่
ไม้แร็กเกตแบดมินตันมีน้ำหนักเบาประมาณ 4 - 5.5 ออนซ์
โดยปกติความยาวของไม้แร็กเกตแบดมินตันจะมีความยาวประมาณ 26 นิ้วฟุต
และเป็นอุปกรณ์ที่มีความละเอียดอ่อน
การเลือกไม้แร็กเกตแบดมินตันจึงควรทำด้วยความรอบรู้เพื่อประหยัดทั้งทรัพย์
และสูงด้วยประสิทธิภาพที่จะนำไปใช้
ไม้แร็กเกตที่มีน้ำหนักมากจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มแรงเหวี่ยงขณะตีลูก
แต่มีข้อเสียที่ทำให้ไม่คล่องตัวเท่าที่ควร
ความสำคัญของการเลือกไม้แร็กเกตแบดมินตัน
ขึ้นอยู่กับความสมดุลของน้ำหนักถ่วงระหว่างหัวไม้ กับปลายไม้มากกว่าสิ่งอื่น
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกไม้แร็กเกตนี้คือ "ความรู้สึกขณะสัมผัส หมายถึง
ขณะจับไม้ขึ้นอยู่กับขนาดของด้านจับ และแรงกระจายน้ำหนักของไม้
หัวไม้จะหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับการถือไม้ของผู้เล่น
แร็กเกตบางอันมีน้ำหนักเฉลี่ยสมดุลกันทั้งด้านหัวและด้ามจับ
วิธีการเลือกไม้แร็กเกตควรจะเลือกหลาย ๆ ชนิด
จนกว่าจะพบหน้าไม้มีความสมดุลและถือได้สบาย
ผู้เล่นสามารถควบคุมหน้าไม้และเพิ่มพลังในการตีลูกได้ด้วย
ไม้แร็กเกตถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากซึ่งถ้า
เปรียบแร็กเกตคงเทียบได้กับอาวุธที่สำคัญประจำตัวของนักรบในสนามรบเลยที เดียว
นักรบที่มีความสามารถประกอบกับมีอาวุธที่ดีย่อมชนะการแข่งขันได้ง่าย
ดังนั้นการเลือกหาแร็กเกตที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพสูงไว้เป็นคู่มือในการ
ฝึกหรือเล่น จึงเป็นเรื่องที่ผู้เล่นจะต้องศึกษาให้ละเอียดเสียก่อน
ต้องรู้และเข้าใจถึงคุณภาพแร็กเกตในแต่ละชนิด
สหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ
มิได้ตราข้อกำหนดสำหรับเรื่องน้ำหนักหรือขนาดของไม้แร็กเกตแต่อย่างใด
คงปล่อยให้บริษัทผู้ผลิตไม้แร็กเกตกำหนดและออกแบบรูปร่าง
น้ำหนักและขนาดของไม้แร็กเกตตามรสนิยมของนักแบดมินตันโดยทั่วไป
ลูกขนไก่
ลูกขนไก่เป็นอุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งที่ทำขึ้น อย่างละเอียดอ่อน
คุณภาพของลูกขนไก่มีความสำคัญมาก
เพราะหากนำลูกขนไก่ที่ด้อยคุณภาพมาใช้ในการฝึกซ้อมหรือแข่งขัน
อาจเป็นผลทำให้การฝึกซ้อมหรือแข่งขันไม่ประสบผลเท่าที่ควร
สหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ ได้กำหนดให้ลูกขนไก่ที่ใช้ในการแข่งขัน
อาจจะทำด้วยวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุสังเคราะห์ก็ได้
แต่ต้องมีวิถีการวิ่งเหมือนวัสดุธรรมชาติมีหัวเป็นไม้คอร์กเป็นฐาน
ห่อหุ้มด้วยหนังบาง มีขน 16 ขน ปักบนฐานบนเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ถึง 1
เศษหนึ่งส่วนแปดนิ้ว ความยาวของขน 2 นิ้วครึ่ง ถึง 2 นิ้วเศษสามส่วนสี่นิ้ว
โดยตอนปลายของขนแผ่เป็นวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เศษหนึ่งส่วนสี่นิ้ว ถึง 2
เศษห้าส่วนแปดนิ้ว มีด้ายมัดติดกันจนแน่น มีน้ำหนักตั้งแต่ 4.74 กรัม ถึง 5.50 กรัม
สนาม
สนามจัดเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง
เนื่องจากกีฬาแบดมินตันได้วิวัฒนาการจากกีฬาที่นิยมเล่นกลางแจ้ง
แต่เดิมเคยใช้สนามหญ้าหรือสนามดิน หรือปูนซีเมนต์มาสู่ความเป็นมาตรฐานที่อยู่ในร่ม
ตามประวัติสนามที่เป็นมาตรฐานในร่มแห่งแรกได้ริเริ่มสร้างที่สโมสรยูนิตี้
โดยคุณหลวงธรรมนูญวุฒิกร หรือนายประวัติ ปัตตพงษ์
ซึ่งท่านได้รับการยกย่องจากวงการแบดมินตันว่าเป็น บิดาแห่งวงการแบดมินตันไทย
ท่านมีเป้าหมายเพื่อฝึกผู้เล่นให้เคยชินกับสภาพในร่ม ในระยะแรก ๆ นั้น
สนามแบดมินตันในร่มนิยมทำด้วยปูนซีเมนต์ทาสี หรือวัสดุที่ทำให้เกิดความฝืด
ต่อมาพัฒนาปรับปรุงเป็นพื้นไม้ปาร์เกต์ที่มีความสวยงามยืดหยุ่น และมีความฝืดพอสมควร
ซึ่งพบเห็นมากในปัจจุบันนี้
ในทางตรงกันข้ามต่างประเทศกลับพัฒนาแบดมินตันในร่มไปเป็นพื้นที่เป็นยางผสม พลาสติก
ซึ่งมีความฝืดมากกว่าสนามที่ปูด้วยไม้ปาร์เกต์เสียอีก ทำให้นักกีฬาไทย
พบกับปัญหาในการแข่งขันในต่างประเทศ
และความแตกต่างของพื้นสนามชนิดนี้ทำให้มีการสั่งซื้อมาใช้ในประเทศอยู่หลาย
แห่งจนปัจจุบันนักกีฬา มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับสนามในประเภทนี้
เสา
เสาแบดมินตันจะต้องมีความสูง 5 ฟุต 1 นิ้ว จากพื้นสนาม
เสาจะต้องมีความมั่นคง
พอที่จะรักษาตาข่ายให้ขึงตึงอยู่ได้และจะต้องตั้งอยู่บนเส้นเขตข้างสนาม
ในกรณีที่ปฏิบัติดังกล่าวไม่ได้
จะต้องใช้วิธีหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเส้นเขตข้างอยู่ใต้ตาข่าย ตรงจุดใดก็ได้ เช่น
เสายาว ๆ หรือหาวัตถุอย่างหนึ่งกว้างไม่น้อยกว่า 1.5 นิ้วฟุต
ไว้ที่เส้นเขตข้างให้ตั้งชี้ขึ้นมา ที่ตาข่ายถ้าใช้วิธีนี้กับสนามเล่นประเภทคู่
เสายาว ๆ นี้ต้องปักที่เส้นเขตข้างของสนาม ส่วนสนามการเล่นประเภทเดี่ยว
ก็ปักไว้ที่เส้นเขตข้างของสนามเหมือนกัน
ตาข่าย
ตาข่ายจะต้องทำด้วยดายเส้นละเอียดสีเข้มและมี ขนาดตาเท่า ๆ กัน
มีตากว้างยาว 5 ส่วน 8 ฟุต ตาข่ายต้องขึงให้ตึงจากเสาต้นหนึ่งถึงอีกต้นหนึ่ง
ตาข่ายต้องกว้าง 2 ฟุต 6 นิ้ว ส่วนบนของตาข่ายต้องอยู่ห่างจากจุดกึ่งกลางสนาม 5 ฟุต
และเสาต้องอยู่ห่างจากพื้นสนาม 5 ฟุต 1 นิ้ว ตอนบนของตาข่ายติดแถบสีขาว
พับสองขนาดกว้าง 3 นิ้ว
มีเชือกหรือเส้นลวดตลอดแถบผ้าขาวนี้และขึงตึงอยู่ระดับกับหัวเสาทั้ง 2 ข้าง
ความแตกต่างของตาข่ายที่ขึงด้วยเชือก
กับเส้นลวดนั้นอยู่ที่การสะบัดของลูกขนไก่ ถ้าเป็นเชือก
เมื่อลูกขนไก่กระทบถูกขอบบนสุดของตาข่ายจะมีโอกาสสะบัดพลิกตาข่าย
แต่ถ้าเป็นการขึงด้วยเส้นลวดนั้นความยืดหยุ่นมีน้อย
ดังนั้นเมื่อชนกับลูกขนไก่ที่เกิดจากแรงตีจะไม่ค่อยมีโอกาสพลิก
ซึ่งปัจจุบันสนามที่เป็นมาตรฐานนิยมขึงด้วยลวดสลิงเป็นส่วนมาก
และตาข่ายในบางสถานที่นิยมใช้เส้นด้ายคู่
ซึ่งมีสภาพทนทานกว่าและไม่ผิดกติกาแต่อย่างไร