ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม  >>

หนังตะลุง

ความเป็นมา
องค์ประกอบในการแสดง
โรงและอุปกรณ์ประกอบโรง
รูปหนัง
ขนบนิยมในการเล่น
ครอบมือหนังตะลุง
กลอนและลีลากลอน
ความเชื่อเกี่ยวกับหนังตะลุง
รูปหนังตะลุง
การแกะหนังตะลุง
เครื่องมือการแกะหนัง
นายหนัง
ตัวตลกหนังตะลุง
การเปลี่ยนแปลงเทคนิคการนำเสนอ
การเปลี่ยนแปลงเทคนิคการนำเสนอภาพ
การคงอยู่เคียงคู่ของรูปหนังโบราณและรูปหนังสมัยใหม่
โครงเรื่องและแกนเรื่องของหนังตะลุง

รูปหนัง

หนังตะลุงคณะหนึ่งๆ มีรูปหนังประมาณ 150 - 200 ตัว รูปหนังตะลุงที่ทุกคณะจะต้องมีได้แก่ ฤาษี พระอิศวร ปรายหน้าบท เจ้าเมือง พระ นาง ตัวตลก เทวดา รูปเหล่านี้จะมีหน้าตาทำนองเดียวกันทุกคณะ โดยเฉพาะตัวตลกแทบไม่มีอะไรผิดเพี้ยนกันเลย นอกจากรูปดังกล่าวแล้ว แต่ละคณะจะตัดรูปเบ็ดเตล็ดส่วนหนึ่ง เช่น สัตว์ต่างๆ ต้นไม้ ภูเขา ภูตผี ยานพาหนะ อาวุธ เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนิยายที่ใช้แสดงรูปหนังจะจัดเก็บไว้ใน แผงหนัง โดยวางเรียงอย่างเป็นระเบียบและตามศักดิ์ของรูป นั่นคือ เอารูปเบ็ดเตล็ดและรูปตลกที่ไม่สำคัญซึ่งเรียกรวมกันว่า รูปกาก ไว้ล่าง ถัดขึ้นมาเป็นรูปยักษ์ พระ นาง เจ้าเมือง ตัวตลกสำคัญ รูปปรายหน้าบท พระอิศวร และฤาษี ตามลำดับ ถ้ามีรูปศักดิ์สิทธิ์สำหรับไว้บูชา ไม่ใช่ใช้เล่นด้วย รูปนี้จะเก็บแยกต่างหาก เช่น ใส่ในถุงผ้าซึ่งตัดเย็บขึ้นเฉพาะ เมื่อไปเล่นที่ไหนก็แขวนรูปไว้บนหัวเสาโรง

     

          

โอกาสที่เล่นหรือแสดงหนังตะลุง

สมัยก่อนหนังตะลุงไม่นิยมเล่นในงานมงคล ส่วนใหญ่จะเล่นในงานนักขัตฤกษ์และงานสนุกทั่วไปหรือเล่นเพื่อประกอบพิธีกรรมสำหรับแก้บน แต่ปัจจุบันเล่นได้ทุกงาน เวลาที่เล่นเริ่มตั้งแต่ประมาณ 21.00 นาฬิกา พักเที่ยงคืน 1 ชั่วโมง แล้วเล่นต่อไปจนรุ่งสาง แต่ถ้าในงานนั้นมีการละเล่นหลายอย่าง หนังตะลุงมักจะเล่นตอนมหรสพอื่นเลิกแล้ว นั่นคือเล่นตั้งแต่เที่ยงคืนไปจนสว่าง

 

โอกาสและกำหนดเวลาในการแสดง
โอกาสที่จะแสดงหนังตะลุง คือ งานสมโภชหรืองานเฉลิมฉลอง ส่วนงานมงคลนั้นจะไม่นิยม แต่เดี๋ยวนี้คลายความเคร่งครัดลง สำหรับงานศพสดจะไม่นิยม เพราะ เจ้าของงานอยู่ในอารมณ์เศร้า แต่ถ้าเป็นงานศพกระดูก มีบางท้องถิ่นที่นิยมกัน ในปัจจุบันนี้การแสดงหนังตะลุงมักอยู่ในรูปการจัดหารายได้เป็นส่วนใหญ่ อาจจะหารายได้บำรุงวัด หรือ ไม่ก็เป็นธุรกิจการค้า

การแสดงหนังตะลุงจะแสดงเพียงครึ่งคืน หรือตลอดคืน มักเริ่มแสดงในเวลาประมาณ 20.30 – 21.30 น. ถ้าแสดงตลอดคืนจะมีการพักตอนเที่ยงคืน ไม่เกิน 1 ชั่วโมง การคิดค่าจ้างขึ้นอยู่กับหนังว่ามีชื่อเสียงหรือไม่ ถ้าเป็นคณะที่มีชื่อเสียงราคาค่าจ้างอาจจะถึง 2,000 บาทต่อคืนก็ได้

ก่อนลงมือแสดงจะมีการโหมโรงก่อน หรือ “ลงโรง” หรือ “ตีเครื่อง” เพื่อเริ่มเรียกคนดูแล้วเอารูปปักหน้าจอ อาจจะเป็นรูปปราสาท ก่อนออกรูปหนังนายหนังจะไหว้ครูสวดมนต์คาถาคุ้มครองป้องกันตัว เสร็จแล้วเอารูปปราสาทออกเอารูปฤาษี ออกเชิด ตั้งนโม สวดบทสัคเค ชุมนุมเทวดา ต่อจากนี้ก็ออกรูปลิงดำลิงขาวให้มารบกัน มาระยะหลังมักไม่ค่อยมีการออกรูปลิงดำลิงขาว แต่จะออกรูปฤาษีมาเป็นรูปแรกเลย ฤาษีจะออกมาห้ามปราบสั่งสอน ต่อไปจะออกรูปพระอิศวร หรือรูปโค หลังจากนั้นก็ออกรูปหน้าบท ออกมาขับบทไหว้ครูอาจารย์ บิดามารดา ผู้ที่เคารพนับถือ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้มาคุ้มครองป้องกัน ต่อจากนั้นก็ออกรูปตัวตลกมาบอกเรื่องที่จะแสดงในคืนนั้น แล้วก็เริ่มแสดงเรื่อง โดยออกรูปเจ้าเมือง นางเมือง เรื่องที่แสดงถ้าเป็นในสมัยก่อนมักแสดงเรื่องรามเกียรติ์ แต่ในปัจจุบันนี้ เนื้อเรื่องมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับนิยายสมัยที่มีครบทุกรส

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย