ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

ทฤษฎีวิวัฒนการโลกตามหลักพุทธศาสนา

การไปอุบัติในนรกและสวรรค์

สาเหตุสำคัญที่ทำให้บุคลไปอุบัติในนรกและสวรรค์ก็คือ การประกอบกุศลกรรมคือ ประพฤติสุจริต และประกอบอกุศลกรรมคือ ประพฤติทุจริต ทางกาย วาจา ใจ อนึ่ง ในหนังสือทาง 7 สาย (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ.9) ได้แสดงถึงการกระทำของแต่ละชีวิตไม่ว่าดีหรือชั่ว เป็นเหตุให้ได้กำเนิดต่างกัน กล่าวคือ

1.คนที่มีโทสะมาก จะได้กำเนิดเป็นสัตว์นรก
2.คนที่มีโลภะมาก จะได้กำเนิดเป็นเปรตอสุรกาย
3.คนที่มีโมหะมาก จะได้กำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
4.คนที่รักษาศีล 5 และกุศลกรรมบท 10 ประการ จะได้กำเนิดเป็นสัตว์มนุษย์
5.คนที่มีมหากุศล 8 เช่น ให้ทาน ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า เป็นต้น จะได้กำเนิดในสวรรค์
6.คนที่เจริญสมถภาวนา จนได้บรรลุฌานและไม่เสื่อมจากฌาน จะได้กำเนิดในพรหมโลก
7.คนที่บำเพ็ญวิปัสสนาภาวนา จนบรรลุอริยผล จะถึงความดับทุกข์ คือ นิพพาน.

จะเห็นได้ว่าทาง 7 สายนี้ คนจะดีหรือเลวย่อมเป็นไปตามอำนาจ ของการกระทำของตนเองเท่านั้น มีการให้ผลที่แตกต่างกัน และพระพุทธศาสนายกย่อง “ภาวนา “ ว่าดีที่สุด เพราะเป็นปัจจัยให้บรรลุนิพพาน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา



ส่วนในคริสต์ศาสนา ความดีระดับที่เป็นไปเพื่อการมีชีวิตอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดร์ หรือความดีระดับใดที่จะต้องไปอยู่ในแดนชำระบาปก่อน ก่อนที่จะได้รับการพิพากษาครั้งสุดท้าย แต่ถึงกระนั้นคัมภีร์ของคริสต์ศาสนา ก็ยังระบุไว้ชัดเจนว่าต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งศาสนา โดยเฉพาะบัญญัติข้อที่ว่า “ จงรักพระผู้เป็นเจ้าของเจ้าอย่างหมดหัวใจ มีกำลังและความคิดอยู่เท่าไร ก็ให้รักพระผู้เป็นเจ้าจนหมดสิ้น และจงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง ” และปฏิบัติตามกฏบัญญัติต่าง ๆ นี้ ไม่ใช่เพื่อตัวกฏบัญญัติเอง ซึ่งมักจะทำกันตามตัวอักษร หากแต่ปฏิบัติด้วยชีวิตจิตใจ (spirit ) ความดีความชั่วไม่ได้วัดกันที่การกระทำอย่างเดียว แต่วัดที่เจตนาและความนึกคิดด้วย ดังนั้น บัญญัติแห่งความรักเป๋นบัญญัติที่พระเยซูได้เน้นให้เห็นว่าเป็นบัญญัติที่สำคัญที่สุด ชีวิตและคำสอนของพระองค์อาจสรุปได้ด้วยบัญญัตินี้ ทรรศนะของคริสต์จึงถือว่าระดับของความดีนั้นวัดกันที่การกระทำซึ่งประกอบด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์

คริสต์ศาสนา สอนว่าในโลกมีคนเลวปะปนอยู่กับคนดี ทั้งคนดีและคนเลวมาจากพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกัน แต่พระผู้เป็นเจ้ามิได้ตั้งพระทัยจะสร้างให้เลว พระองค์ตั้งพระทัยให้ดีทุกคน แต่ทรงต้องการให้ดีมาก ๆ จึงให้มีใจเสรี บางคนใช้เสรีภาพเลือกทางผิด ถึงขั้นขัดกับความดีของพระผู้เป็นเจ้า จึงเป็นคนเลว กลายเป็นศัตรูกับพระผู้เป็นเจ้าไปเสีย ลูกของพระผู้เป็นเจ้ากับศัตรูของพระองค์ จึงอยู่ปะปนกันในโลกนี้ โลกนี้จึงเป็นแดนของสองนคร ซึ่งไม่มีอาณาเขตแน่นอน เพราะอาณาเขตอยู่ในจิตใจของแต่ละคน ซึ่งอาจจะเปลี่ยนใจเมื่อใดก็ได้ สองนครดังกล่าวได้แก่นครของพระผู้เป็นเจ้า (the city of god) และนครของโลกนี้ (the city of this world) สมาชิกของนครของพระผู้เป็นเจ้าอาศัยโลกนี้เพื่อสร้างความดี จะได้มีกุศลไปสวรรค์ ส่วนสมาชิกของนครของโลกนี้ไม่คิดถึงชีวิตหน้า คิดแต่เพียงให้มีความสุขในโลกนี้ไปแค่ชั่วชีวิตนี้เท่านั้น ไม่สนใจประกอบทำดีสร้างกุศล มุ่งหาแต่ความสนุกสนานเพลิดเพลินโดยไม่คำนึงถึงบาปบุญคุณโทษใด ๆ ทั้งสิ้น คนดีตายแล้วจะได้ไปสวรรค์ ส่วนคนเลวตายไปจะต้องตกนรก คนดีที่ยังชดใช้กรรมยังไม่หมด จะต้องใช้กรรมในแดนชำระ (purgatory) จนหมดสิ้นเสียก่อนจึงได้ไปสวรรค์

เปรียบเทียบระหว่างศาสนา
คริสต์ศาสนาสอนอย่างไร
การถูกพระเจ้าลงโทษ
สาระสำคัญของอัคคัญญสูตร
วิวัฒนาการคืออะไร
อัคคัญญสูตร
กำเนิดมนุษย์
เหตุแห่งการดูหมิ่น
ข้าวสารีเกิดขึ้น
เกิดเพศหญิงและเพศชาย
เกิดผู้นำในการปกครอง
เบื้องหน้าแห่งความตาย
กำเนิดโลกและความเสื่อม
อายุของโลก
สรุปเนื้อหาในอัคคัญญสูตร
การไปอุบัติในนรกและสวรรค์
ทฤษฎีวิวัฒนาการ
จักรวัตติสูตร
สาเหตุแห่งความเสื่อมของโลก
เหตุแห่งความเจริญของโลก
ความเจริญของอายุมนุษย์
ภิกษุควรมีธรรมเป็นที่พึ่งอย่างไร
ความเสื่อมของอายุสัตว์
สาระสำคัญ

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย