ประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>

คนเดือนตุลา 2516

>>> ประมวลภาพเหตุการณ์

รวมใจเป็นหนึ่งเดียว

หน้า 21

            การเดินขบวนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย เริ่มขึ้น เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2516 นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนนับแสนคน พรั่งพรูออกมาจากประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 3 ด้าน เหมือนผึ้งแตกรัง เข้าสู่ถนนราชดำเนิน เพื่อเรียกหาแสงสว่างแห่งประชาธิปไตย
                   ขบวนนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชนเคลื่อนไปตามถนนราชดำเนินกลาง นำด้วยรถบรรทุกเล็กสองคัน แต่ละคันมีผู้ประกาศประจำอยู่บนรถ เรียกร้องผ่านเครื่องขยายเสียง ชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมเดินขบวนเรียกร้องรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า เสรีภาพที่แล้วมา เป็นเสรีภาพจอมปลอม
                  ขบวนนิสิตนักศึกษาฯ มีคนเดินถือธงนำหน่าหลายสิบคน และได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินีนาถ และธงเสมาธรรมจักรสีเหลือง อันหมายถึงศาสนา ข้างหน้าและข้างขบวนนักศึกษา มีนักเรียนและนักศึกษาคอยคุ้มกัน เพื่อป้องกันในกรณีที่มีคนมาทำร้าย นิสิตนักศึกษาได้เดินขบวนจับกลุ่มกันไปแต่ละสถาบัน มีหลายขบวนถือหุ่นที่ปักบนไม้กวาด และทำหน้าคล้ายกับบุคคลสำคัญในคณะรัฐบาล หุ่นบางตัวถูกลากไปกับพื้นถนน และมีบ่วงแขวนคอ
                  ขบวนนิสิตนักศึกษาและประชาชนเคลื่อนไปเหมือนสายน้ำที่ไหลไปตามถนนราชดำเนิน ขบวนแล้วขบวนเล่า นานกว่า 2 ชั่งโมงแล้วก็ยังไม่หมดสิ้น การจราจรบนถนนราชดำเนินตั้งแต่ สนามหลวงจนถึงสะพานผ่าฟ้าถูกปิดโดยสิ้นเชิง บนถนนเต็มไปด้วยคลื่น ของนิสิต นักศึกษา และประชาชน
                  การเดินขบวนครั้งนี้ ได้เตรียมการณ์กันอย่างรอบคอบที่สุด มีการจัดขบวนแบบเดียวกับขบวนทัพ แต่ละช่วงมีหน่วยคุ้มกันให้ และก่อนขบวนใหญ่จะเคลื่อนออกไป มีการส่งหน่วยคอมมานโด หรือกองลาดตระเวนออกไปเคลียร์พื้นที่ก่อน โดยมีนักเรียนช่างกลเป็นกำลังสำคัญ นอกจากนั้นยังมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อคอยจัดการกับอุปสรรคที่ขวางหน้าขบวน
                  หน่วยคอมมานโด ดังกล่าวนี้ มีชื่อเรียกันภายในว่า "ฟันเฟือง" หน่วยเคลื่อนที่เร็วเรียกว่า "จ.ทหารช่าง" นอกจากนั้นยังมี "วิษณุ" ซึ่งหมายถึงนักเรียนก่อสร้าง และมี "กนก50" อันหมายถึงหน่วยคุ้มกันรถหน่วยปฎิบัติการณ์การเดินขบวน ซึ่งเป็นกำลังจากโรงเรียนกนกอาชีวะ สำหรับขบวนที่ถือธงนำหน้าซึ่งใช้นักเรียนหญิงส่วนใหญ่ เรียกว่า "กองทัพจักรี"
                  ขบวนนิสิตนักศึกษาฯ ไปหยุดอยู่ที่อนุสาวรีย์ประธิปไตย และในขณะที่เดินขบวนนั้นมีคนนับหมื่นๆคนคอยให้กำลังใจอยู่ตลอดทั้งสองข้างทางถนนราชดำเนินกลาง มีเสียงตะโกนขับไล่จอมพลถนอม จอมพลประภาส และพันเอกณรงค์ ไปตลอดทาง ขบวนทั้งหมดไปปักหลักอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อรอการเจรจาขั้นเด็ดขาด กับรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง

                         ขณะที่นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนเรือนแสน กำลังชุมนุมกันอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนนักศึกษาเข้าเฝ้าฯ ที่ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังจิตรดลา เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. และต่อมาเมื่อเวลา 17.50 น. พลเอกกฤษณ์ สีวะรา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.ท. ประจวบ สุนทรางกูร รองอธิบดีกรมตำรวจ และพล ต.ท.ชุมพล โลหะชาละ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ก็นั่งรถยนต์คันเดียวกันเข้าไปในพระราชวังจิตรลดา ซึ่งที่นั่น นายสัญญา ธรรมศักดิ์ องคมนตรีและอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อยู่ด้วย
                     กรรมการบริหารศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย 9 คน ที่เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้แก่ นายวีระ จันทแจ้ง นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล นายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายสมพงษ์ สระกวี นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง นายพีระพล ตรียะเกษม นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายประยงค์ เต็มชวาลา นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล นายสมนึก รุ่งเจริญกิจกุล นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร นายสมควร มาสมบูรณ์ นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วยเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย นายสมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ และนาย กนก วงศ์ตระหง่าน รองเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยฝ่ายการเมือง เข้าเฝ้าฯ ณศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา ตั้งแต่เวลา 16.00 น.- 17.20 น.

                   เมื่อผูแทนนิสิตนักศึกษา ได้กราบบังคมทูลพฤติการณ์และจุดมุ่งหมาย ของการดำเนินการประท้วงครั้งนี้แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราโชวาท ความว่า

                  คนที่เป็นผู้ใหญ่นั้น เขามีประสบการณ์ ส่วนคนหนุ่มสาวมีพลังแรงทั้งร่างกาย ทั้งความคิด ถ้าหากมาปองดองสมัครสมานกันทำงานอย่างพร้อมเพียง ไม่ผิดใจแคลงใจกัน การบ้านเมืองก็จะดำเนินไปด้วยดี นิสิตนักศึกษาก็เป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบเลือกเฟ้นมาเป็นแน่นอนแล้วว่า มีทั้วสติปัญญาพร้อมมูล จึงควรจะได้รู้ถึงความผิดชอบชั่วดีทุกอย่าง
                 การพิจารณาใดๆ จำเป็นต้องทราบถึงปัญหานั้นตรงไหน หรืออะไรเป็นปัญหา ต่อไปก็แยกออกเป็นประเด็นให้กระจ่างและถูกต้องโดยลำดับ จึงจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงตามจุดหมายอย่างสมบูรณ์
                 เมื่อนิสิตนักศึกษาได้ดำเนินการมาตรงตามเป้นหมาย และได้รับผลตามสมควรแล้ว ก็ขอให้กลับคืนสู่สภาพกปติ เพื่อยังความสงบเรียบร้อยให้เกิดแก่ประชาชนทั่วไป

                     ในขณะที่ผู้แทนนิสิตนักศึกษาจำนวน 9 คน เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้แทนนักศึกษาอีก 3 คน ก็เข้าพบจอมพลประภาส จารุเสถียร ที่สวนรื่นฤดี เพื่อขอให้อนุมัติปล่อยตัว 13 ผู้ต้องหา ซึ่งในที่สุดจอมพลประภาส ก็ยินยอม โดยขอให้ผู้แทนนักศึกษาให้คำมั่นสัญญาว่า จะทำให้การเดินขบวนประท้วงสลายตัวโดยเร็ว
                  เมื่อประมาณเวลา 17.00 น. ทางรัฐบาลได้ออกแถลงการณ์ ผ่านทางสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ใจความสำคัญพอสรุปได้คือ

                    เมื่อเวลา 14.15 น. ได้มีผู้แทนนักศึกษาจำนวน 3 คน พบกับจอมพลประภาส จารุเสถียร ที่กองบัญชาการปราบจลาจลสวนรื่นฤดี โดยทางรัฐบาลได้อำนวยความสะดวกในการเข้าพบ โดยจัดรถเก๋งติดเครื่องปรับอากาศไปรับ และมีรถวิทยุของตำรวจนครบาลขับนำหน้าจนกระทั้งถึงกองบัญชาการ
                  อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาล ได้เจราจาต่อรองกับผู้แทนนักศึกษาดังกล่าวไปแล้ว โดยจะยอมปล่อยตัวผู้ต้องหาที่จับกุมทันที โดยไม่มีเวื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้โดยมีข้อแม้ว่า ข้อเรียกร้องอย่างอื่น ของนักศึกษาที่ยื่นเสนอรัฐบาลเป็นอันพับไป ผู้แทนนักศึกษาทั้ง 3 นาย รับเงื่อนไขแล้ว และได้กลัยไปปรึกษาหารือกัน แต่จนกระทั้งเวลา 16.45 น. ก็ยังไม่ปรากฎว่าจะมีคำตอบของผู้แทนนักศึกษา หรือมาติดต่อกับทางราชการแต่อย่างไร

                   ขณะที่ตัวแทนนักศึกษาเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอีกส่วนหนึ่งเข้าพบจอมพลประภาสนั้น นิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เริ่มกระสับกระส่าย เพราะไม่รู้ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมการเดินขบวนต้องทำงานอย่างหนัก ครั้นถึงเวลา 16.30 น. ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้แทนที่เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งไม่อาจที่จะรับเงื่อนไขของจอมพลประภาสได้ ดังนั้นเมื่อเวลา 16.45 น. ผู้ควบคุมการเดินขบวนจึงได้สั่งเตรียมพร้อม ให้หน่วยกำลังทุกหน่วยเข้าประจำที่ ประกาศให้กอลกำลังส่วนหน้า ประกอบด้วยนักเรียนช่างกลไทยสุริยะ ช่างกลสยาม ช่างกลบางซ่อน และนิสิตหญิง 100 คนถือธงชาติ ธงเสมาธรรมจักรเดินนำ มีการแจกถุงพลาสติกคลุมศีรษะแก่กองกำลังส่วนหน้า เพราะมีข่าวว่า ตำรวจ ทหาร อาจจะใช้แกสน้ำตา และขอให้เตรียมผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำป้องกันแกสน้ำตาด้วย
               การเคลื่อนขบวนครั้งใหม่นี้ ปรากฎว่านายเสกสรร ประเสริฐกุล ต้องทำหน้าที่อย่างหนัก ทั้งต้องทำหน้าที่ในการสั่งการกองกำลังทั้งหมดด้วย ขบวนเคลื่อนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเวลา ประมาณ 17.30 น.

<< ย้อนกลับ | หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย