ปรัชญา อภิปรัชญา ญาณวิทยา จิตวิทยา ตรรกศาสตร์>>

คัมภีร์คอมมิวนิสต์

นิพนธ์วิจารณ์ ฟอยเออร์บัค
แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์
บทบาทของแรงงานในการเปลี่ยนลิงให้เป็นคน
กำเนิดครอบครัวทรัพย์สินส่วนตัว และรัฐ
ว่าด้วยศาสนา
ว่าด้วยการนัดหยุดงาน
สงครามและสังคมนิยม
รัฐกับการปฏิวัติ
แนวชนชั้นในการปลดแอกสตรี
ในวิกฤตเศรษฐกิจกรรมาชีพสู้หรือไม่
ว่าด้วยขบวนการฟาสซิสต์
ทฤษฏีปฏิวัติถาวร
ประชาธิปไตยของแรงงาน
สงครามจุดยืนและสงครามขับเคลื่อน
ปัญญาชน
ระบบทุนนิยม:ถ้าไม่ปฏิวัติก็เท่ากับยอมจำนน
แนะนำทฤษฎีทุนนิยมโดยรัฐของ โทนี่ คลิฟ
การปฏิวัติถาวร "หันเห"

นิพนธ์วิจารณ์ ฟอยเออร์บัค
มาร์คซ์ (1845) โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

มาร์คซ์ ชมนักวัตถุนิยมชื่อ ฟอยเออร์บัค ว่าให้ประโยชน์กับเราตรงที่ท้าทายพวกจิตนิยมที่ไม่สนใจความจริงในโลก แต่มาร์คซ์วิจารณ์เขาต่อไปว่ามักมองอะไรด้านเดียว คือมองว่าโลกเราเป็นแค่วัตถุ และมองความคิดของมนุษย์ว่าถูกกำหนดด้านเดียวจากโลกเท่านั้น โดยไม่ให้ความสำคัญกับความสามารถของมนุษย์ที่จะคิดเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก ในตอนท้ายสุดมาร์คซ์เสนอว่าในอดีตนักปรัชญาวัตถุนิยมได้แต่พยายามอธิบายโลกจริงที่เห็นอยู่ แต่ผู้ไม่เคยสนใจความสามารถของมนุษย์ที่จะเปลี่ยนโลกจะไม่เข้าใจธาตุแท้ของโลกเรา และนักปรัชญาเหล่านี้จะไม่มีทางนำปรัชญาของเขามาใช้ในการสร้างโลกใหม่ได้ถ้าไม่ทำงานในภาคปฏิบัติ พูดง่ายๆ ถึงแม้ว่าทฤษฏีเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ นักวิชาการในหอคอยงาช้างที่ไม่ลงมาปฏิบัติในโลกจริง จะไม่มีวันเข้าใจโลกจริงได้ และจะไม่มีประโยชน์สำหรับขบวนการทางสังคมที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกด้วย

มาร์คซ์มองว่าเวลามนุษย์ปฏิบัติในโลกจริงจะเกิดสองสิ่งขึ้นพร้อมกันคือ ความคิดของมนุษย์กลายเป็นพลังทางวัตถุที่มีตัวตน และ ความจริงทางวัตถุในโลกที่เราสัมผัสถูกแปรไปเป็นความนึกคิดหรือภาพฝัน ทั้งนี้เนื่องจากการกระทำอะไรทั้งหลายของมนุษย์มีสององค์ประกอบที่แยกออกจากกันไม่ได้คือ วัตถุในโลกจริงที่อยู่นอกร่างกายมนุษย์ และกระบวนการทางจิตใจในการสัมผัสและนึกคิดของมนุษย์ เดิมทีพวกวัตถุนิยมกลไกจะมองว่ามนุษย์เป็นแค่วัตถุที่ถูกกระทำในโลกจริง ส่วนพวกจิตนิยมจะมองว่ามนุษย์แยกออกจากโลกจริงและมีพลังทางจิตใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับโลก แต่วิภาษวิธีวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ของมาร์คซ์จะสามารถสังเคราะห์จุดยืนสองขั้วดังกล่าวไว้ด้วยกันได้ คือมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของโลกจริง และในทางปฏิบัติแม้ความคิดของมนุษย์ก็คือสิ่งมีจริงด้วย แต่ในทางกลับกันเวลามนุษย์สัมผัสอะไรหรือนึกคิดถึงอะไรในโลกจริง มันมีการแปรเปลี่ยนความจริงในสมองเราในลักษณะอตวิสัยด้วย มาร์คซ์ กับ เองเกิลส์ไม่ได้ปฏิเสธว่ามีวัตถุจริงที่ไร้จิตสำนึกของมันเอง เช่นก้อนหิน และไม่ได้ปฏิเสธความสามารถของมนุษย์ในการใฝ่ฝันถึงสิ่งที่ไม่มีจริงเลย แต่เขาเสนอว่าการปฏิบัติหรือการทำงานของมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงโลกวัตถุกับกระบวนการความคิด ดังนั้นงานมนุษย์ไม่ใช่แค่สิ่งที่สร้างมูลค่าให้เราเท่านั้น แต่มันมีความสำคัญในทุกแง่ของชีวิตเราและในการเปลียนแปลงมนุษย์และสังคม

งานนิพนธ์วิจารณ์ ฟอยเออร์บัค ของมาร์คซ์ เป็นตัวอย่างที่งดงามของการใช้วิภาษวิธีแบบวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ เพราะมีการมองภาพรวมของสิ่งที่แตกต่างกันและขัดแย้งกัน เช่นโลกจริงภายนอกมนุษย์ กับกระบวนการต่างๆ ภายในมนุษย์เองที่รวมถึงความคิด มาร์คซ์เน้นเสมอว่ามนุษย์ไม่ใช่ปัจเจกโดดเดี่ยวแต่เป็นส่วนหนึ่งของใยสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในสังคม และเราและความคิดของเราเป็นผลผลิตของสังคมนี้ แม้แต่นิยายและความเชื่อเกี่ยวกับศาสนาที่ไม่ตรงกับความจริง เราต้องเข้าใจในลักษณะที่มันเป็นผลผลิตและเชื่อมโยงกับการปฏิบัติจริงในสังคมอย่างมีเหตุผลทั้งๆ ที่มันเป็นเพียงนิยาย พูดง่ายๆ คนที่เชื่อนิยายมีเหตุผลในการเชื่อนิยาย เขาไม่ได้โง่อะไร แต่ในขณะเดียวกันเรามีพลังในการเปลี่ยนสังคมภายนอกได้ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนตัวเราเองและความคิดของเราได้อีกด้วย วิธีการลบล้างนิยายคือการปฏิบัติเพื่อเปลี่ยนสังคมในโลกจริง

หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย