ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

เกร็ดความรู้ จากสารานุกรมไทย

ตับ

เป็นต่อมต่อมหนึ่งของระบบการย่อยอาหาร เป็นต่อมที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ตับสดจะมีสีน้ำตาลปนแดงเนื้อแน่นบิดไปมาได้แต่เปราะ ทำให้ฉีกขาดได้ง่าย ปรกติตับจะมีตำแหน่งคงที่อยู่ทางส่วนบนด้านขวาของช่องท้อง มีกระบังลมเป็นขอบเขตทางด้านบน มีกระดูกซี่โครงกล้ามเนื้อระหว่างกระดูกซี่โครง อยู่ทางด้านหน้าด้านข้าง และด้านหลัง มองจากด้านหน้าจะเห็นตับแบ่งออกเป็นสองกลีบ

ตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่มากมายหลายชนิด มีหน้าที่เป็นต่อมขับวัตถุออกจากตับเข้าสู่ลำใส้แล้วออกไปจากร่างกาย เช่น น้ำดี วัตถุบางชนิดที่ใช้วนเวียนอยู่ในร่างกาย โดยไม่ขับออกไป คือเมื่อใช้แล้วก็อาศัยตับทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงลักษณะและส่วนประกอบ กลับมาใช้อีก ตับทำให้เกิดน้ำดี แล้วขับเข้าสู่ลำใส้ประมาณวันละครึ่งถึงหนึ่งลิตร

เซลล์ตับกักเก็บน้ำตาลจากเลือดโดยเปลี่ยนเป็นกลัยโคเจ็น เช่นเดียวกับกรดแอมมิโน จะถูกกักเก็บจากเลือดโดยเปลี่ยนเป็นโปรตีน นอกจากนั้น ยังกักเก็บไขมัน วิตามิน เนื่องจากอาหารที่กินบางครั้งไม่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ตับจึงมีหน้าที่เปลี่ยนและดัดแปลงกลับไปมาระหว่างวัตถุที่ผ่านสู่ตับ ทำให้สามารถส่งวัตถุเหมาะกับความต้องการของร่างกายยิ่งกว่าดูดซึมจากลำใส้ผ่านหลอดเลือดดำปอร์ตัล เช่น ถ้าอาหารที่กินส่วนใหญ่เป็นโปรตีน เกือบไม่มีพวกคาร์โบไฮเดรตเลย เซลล์ตับจะเปลี่ยนโปรตีนเป็นคาร์โบไฮเดรต ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงเป็นปรกติ การเปลี่ยนอีกแแบหนึ่งคือ ไขมันที่ดูดซึมจากลำใส้เข้าสู่กระแสเลือดในลักษณะเป็นหยดเล็ก ๆ จะถูกเซลล์ตับทำให้แตกแยกออกเป็นส่วนประกอบต่าง ๆ ของไขมัน ส่วนที่แยกออกจะไปรวมกับโคลีน และฟอสฟอรัสทำให้เกิดสารที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อที่หุ้มตรีเซลล์

การเปลี่ยนและดัดแปลงที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การทำให้วัตถุที่เป็นพิษที่ดูดซึม จากลำใส้หรือที่เกิดภายในร่างกาย ซึ่งถ้าปล่อยหมักหมมไว้จะเกิดเป็นอันตรายเช่น การเกิดแอมโมเนียจากการเมตาโบลิซัมของกรดแอมมิโน แอมโมเนียจะทำให้เกิดเป็นอันตราย เมื่อถึงจุดเข้มข้นระดับหนึ่ง เซลล์ตับจะกันไม่ให้ถึงระดับความเข้มข้นนั้น โดยเปลี่ยนแอมโมเนียเป็นยูเรียซึ่งเป็นวัตถุไม่เป็นพิษ ยูเรียจะขับออกทางไต

โปรตีนในเลือดส่วนใหญ่จะทำขึ้นโดยเซลล์ตับ เนื่องจากคนกินอาหารตามปรกติวันละสามครั้ง ฉะนั้น การดูดซับน้ำตาล ไขมัน และกรดแอมมิโน จึงแตกต่างกันมากในระยะเวลา 24 ชั่วโมง แต่ร่างกายก็ยังคงได้รับวัตถุที่ต้องการโดยสม่ำเสมอ เช่น ระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งนี้ต้องอาศัยการควบคุมโดยเซลล์ตับ เมื่อมีการดูดซึมน้ำตาลเข้าไปมาก เซลล์ตับจะเก็บน้ำตาลไว้เป็นกลัยโคเจน ขณะที่น้ำตาลได้ถูกใช้โดยร่างกายระหว่างเวลาอาหารซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง เซลล์ตับจะเปลี่ยน กลัยโคเจนที่เก็บไว้เป็นกลูโคสส่งเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดปรกติอยู่เสมอ ถือว่าดับเป็นอวัยวะสำคัญมากของร่างกาย อาจมีหน้าที่มากกว่า 100 อย่าง

>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย