ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

เกร็ดความรู้ จากสารานุกรมไทย

สหรัฐอเมริกา

ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศแคนาดา และทางเหนือของประเทศเมกซิโก ทิศตะวันออก จดชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศตะวันตก จดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังมีดินแดนที่เป็นรัฐของประเทศอีกสองแห่ง ซึ่งตั้งแยกออกไปจากพื้นที่ส่วนใหญ่ ของประเทศคือ รัฐอะแลสกา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา และรัฐฮาวาย เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก

สหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ 9,375,720 ตร.กม.  มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สี่ของโลก รองจากประเทศรัสเซีย แคนาดา และจีน มีเขตแดนติดต่อกับประเทศแคนาดา ยาว 8,891 กม. และกับประเทศเมกซิโก ยาว 3,239 กม.

ลักษณะภูมิประเทศ  ในส่วนที่เป็นที่ตั้งของ 48 รัฐ ซึ่งเป็นดินแดนผืนใหญ่ของประเทศนั้น แบ่งออกได้เป็นสามส่วนใหญ่ ๆ คือ

1. เขตเทือกเขาภาคตะวันออก  ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าหนึ่งในสามของประเทศ ประกอบด้วย เทือกเขาสูง สามแนว พาดผ่านทิศเหนือไปทิศใต้ เรียงตามลำดับ จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก คือ แนวตะวันออกสุดเป็นเทือกเขารอกกี ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงใหญ่มากที่สุด ของสหรัฐอเมริกาต่อเนื่องเข้าไปในแคนาดา แนวที่สองเป็นเทือกเขาแคสเคด และเทือกเขาเซียร์รา เนวาดา เป็นแอ่งยกตัวขนาดใหญ่ เรียกชื่อว่า ฮาร์นีย์เบซิน และเกรตเบซิน ตามลำดับ มีแม่น้ำโคลัมเบียไหลผ่านฮาร์นีย์เบซิน และแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านเกรตเบซิน

2. เขตที่ราบภาคกลาง  ครอบคลุมพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศ ตั้งแต่ทะเลสาบเกรตเลกส์ ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รวมห้าแห่ง ที่กั้นเขตแดนระหว่างสหรัฐอเมริกา กับประเทศแคนาดา ทางด้านทิศเหนือจนถึงอ่าวเมกซิโก ทางด้านทิศใต้ภายในบริเวณที่ราบภาคกลาง มีแม่น้ำมิสซิสซิปปี ไหลลงอ่าวเมกซิโก ถือเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดของประเทศ มีแควต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก

3. เขตภูเขาและที่ราบชายฝั่งภาคตะวันออก  ครอบคลุมพื้นที่เกือบหนึ่งในสามของประเทศ ทางตะวันตกสุดเป็นเทือกเขาแอฟพาเลเชียน ซึ่งทอดยาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ กั้นแบ่งเขตกับเขตที่ราบภาคกลาง ถัดไปทางตะวันออกของเทือกเขานี้ เป็นที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีประชากรอยู่อาศัยกัน อย่างหนาแน่นมาก

ประชากร  มีความหลากหลายในด้านเชื้อชาติ และวัฒนธรรม เนื่องมาจากการอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานของชนชาติต่าง ๆ ทั้งจากทวีปยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มของการก่อตั้งอาณานิคม จนถึงตอนต้นของพุทธศตวรรษที่ 25

ในระยะแรกของการก่อตั้งอาณานิคม ชาวยุโรปที่มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิก และการตั้งถิ่นฐานคือ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และฮอลันดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอังกฤษ ได้เข้าไปสร้างอาณานิคมไว้อย่างกว้างขวาง บนที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวยุโรปได้นำทาสชาวนิโกร จากทวีปแอฟริกา เข้ามาใช้เป็นแรงงาน ในอาณานิคมของตน ต่อมาภายหลังเมื่อตั้งขึ้นเป็นประเทศแล้ว ก็เปิดโอกาสให้ชนชาติต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เดินทางเข้าไปตั้งถิ่นฐาน

จากข้อมูลประชากรเมื่อปี พ.ศ.2543  ระบุว่า ในจำนวนประชากร 281 ล้านคน แบ่งเป็นคนเชื้อชาติกลุ่มใหญ่ ๆ รวมสามกลุ่มคือ ชนผิวขาวร้อยละ 75 ชนผิวดำ ร้อยละ 12 ชนชาวเอเชีย ร้อยละ 3.6 และที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 10 เป็นชนเชื้อชาติกลุ่มอื่น ๆ

ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นด้วยการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ในตอนกลางพระพุทธศตวรรษที่ 22 และได้ขยายอาณานิคมออกไปตามลำดับ จนมีจำนวนรวมทั้งหมด 13 แห่ง ต่อมาในปี พ.ศ.2318  อาณานิคมทั้ง 13 แห่ง ได้รวมตัวกันแข็งอำนาจ ทำการสู้รบกับอังกฤษและประกาศอิสรภาพในปีถัดมา และอังกฤษยอมรับรองเอกราชของสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ.2326

ภายหลังการได้รับเอกราชแล้ว สหรัฐอเมริกาได้ขยายอาณาเขตออกไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งโดยการบุกเบิกดินแดนใหม่ ทางตอนกลางและตะวันตกของทวีป  และโดยการขอซื้อ หรือผนวกดินแดนที่เป็นของประเทศอื่น

เหตุการณ์ที่ถือว่ามีความสำคัญมาก ในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐอเมริกาคือ การเกิดสงครามกลางเมือง ระหว่างกลุ่มรัฐฝ่ายเหนือ กับกลุ่มรัฐฝ่ายใต้ ระหว่างปี พ.ศ.2404 - 2408  กลุ่มรัฐฝ่ายใต้ ได้ประกาศจัดตั้งเป็นสมาพันธรัฐอเมริกา แยกตนเป็นอิสระจากการปกครองร่วมกันของสหภาพ และส่งกำลังเข้าโจมตีฝ่ายรัฐบาล ในที่สุดกองกำลังฝ่ายสมาพันธรัฐยอมจำนน ประธานาธิบดีลิงคอล์น ได้ประกาศให้อิสรภาพแก่ทาสทั้งหมด นับเป็นการเลิกทาสในทวีปอเมริกาเหนือ ที่มีมายาวนานกว่า 200 ปี

>>> กลับหน้าหลัก สารานุกรมไทย >>>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย