ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติ กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. 2517
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2517
เป็นปีที่ 29 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราช โองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดย คำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติกองทุน สงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. 2517
มาตรา 2* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป *[รก.2517/175/1พ/18 ตุลาคม 2517]
มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ เกษตรกรรม หม ายความว่า การทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ เลี้ยงผึ้ง เลี้ยงไหม เลี้ยงครั่ง เพาะเห็ด การประมง และ เกษตรกรรมอื่นตามที่รัฐมนตรีกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เกษตรกร หมายความว่า ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และให้ หมายความรวมถึงกลุ่มเกษตรกรตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 141 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2515 สหกรณ์การเกษตรและชุมนุมสหกรณ์การเกษตรตาม กฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ ผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้น หมายความว่า ผลิตผลอันเกิดจาก เกษตรกรรมโดยตรงประเภทเมล็ดพืช เส้นใยธรรมชาติและผลิตผลเกษตรกรรม อย่างอื่นที่เกิดจากดอกผล ลำต้น ใบ ราก หัวหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของพืชและ ให้หมายความรวมถึงสัตว์ที่ได้จากการเลี้ยงสัตว์ และสัตว์น้ำที่ได้จากการประมง ตลอดจนผลิตผลพลอยได้อันเกิดจากผลิตผลเกษตรกรรมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดโดยประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ผลิตภัณฑ์อาหาร หมายความว่า ผลิตผลเกษตรกรรมที่ใช้เป็น อาหารหรือส่วนประกอบของอาหารสำหรับคนหรือสัตว์ไม่ว่าจะแปรรูปแล้ว หรือไม่ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษ ตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ค่าธรรมเนียมการส่งออก หมายความว่า เงินที่เรียกเก็บจาก ผู้ส่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้ส่งออก หมายความว่า ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตผล เกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อการค้า และให้หมายความรวมถึง เจ้าของหรือบุคคลอื่นซึ่งครอบครองผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในขณะส่งออก ไปนอกราชอาณาจักรด้วย คณะกรรมการ หมายความว่า คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร
รัฐมนตรี หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่ง เรียกว่า กองทุน สงเคราะห์เกษตรกร ในกระทรวงการคลังประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ตามมาตรา 5 เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายช่วยเหลือหรือส่งเสริมเกษตรกร ในการผลิต การพยุงราคา และการจำหน่ายผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นและ ผลิตภัณฑ์อาหาร ให้กระทรวงการคลังเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของกองทุนสงเคราะห์ เกษตรกร และดำเนินการเบิกจ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรตามพระราช บัญญัตินี้ เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรที่กระทรวงการคลังเก็บรักษาไว้ตาม วรรคสอง ให้กระทรวงการคลังนำไปหาดอกผลได้โดยการฝากออมทรัพย์หรือ ฝากประจำกับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือการซื้อหลักทรัพย์ของรัฐบาล
มาตรา 5 กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรประกอบด้วย
(1) เงินที่ได้รับตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายและกฎหมาย ว่าด้วยการโอนเงินงบประมาณรายจ่าย
(2) เงินค่าธรรมเนียมการส่งออกตามมาตรา 11
(3) ดอกผลของเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร
(4) เงินกู้ที่รัฐบาลกู้เพื่อสมทบกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรโดยอนุมัติ คณะรัฐมนตรี
(5) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้มอบให้ ให้จัดสรรกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรจำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยละห้าสิบ ของรายรับตาม (2) เป็นเงินทุนหมุนเวียน
มาตรา 6 การเรียกเก็บเงินอื่นใดเพื่อการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นและผลิตภัณฑ์อาหารนอกจากอากรขาออก ค่าธรรมเนียมหรือเงินอย่างอื่นที่เรียกเก็บตามกฎหมาย และ ค่าธรรมเนียมการส่งอ อกตามพระราชบัญญัตินี้ จะกระทำมิได้
มาตรา 7 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพาณิชย์โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอำนาจประกาศในราชกิจจา นุเบกษากำหนดชนิดหรือประเภทของผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์ อาหารที่ผู้ส่งออกต้องเสียค่าธรรมเนียมการส่งออก เมื่อปรากฏว่า
(1) การส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้น หรือผลิตภัณฑ์อาหารชนิดใดหรือประเภทใดอาจทำให้ราคาผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหารชนิดนั้นหรือประเภทนั้น มีแนวโน้มสูงขึ้นจนกระทบ กระเทือนต่อการบริโภคภายในประเทศ หรืออาจก่อให้เกิดความขาดแคลน ซึ่งผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหารชนิดนั้นหรือประเภทนั้นภายใน ประเทศ หรือ
(2) ราคาผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหารชนิดใดหรือ ประเภทใดในต่างประเทศสูงกว่าราคาผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์ อาหารชนิดนั้นหรือประเภทนั้นในประเทศมาก ทำให้กำไรจากการส่งออกสูง เกินสมควร การเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกประกาศตามวรรคหนึ่งต้องได้รับ อนุมัติจากคณะรัฐมนตรีและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการส่งออกซึ่งผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์ อาหาร ชนิดหรือประเภทที่กำหนดตามมาตรา 7 รวมทั้งระเบียบการเก็บและ วิธีการชำระค่าธรรมเนียมการส่งออก การเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกประกาศตามวรรคหนึ่งต้องได้รับ อนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
มาตรา 9 ถ้าการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตผลเกษตรกรรม ขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหารที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการส่งออกเกิดขึ้นจากการ ซื้อขายระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์มีอำนาจลดอัตราค่าธรรมเนียมการส่งออกสำหรับผลิตผลเกษตรกรรม ขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหารชนิดหรือประเภทดังกล่าวสำหรับปริมาณที่ซื้อขายกัน แต่ละคราวได้
มาตรา 10 ภายใต้บังคับมาตรา 9 ผู้ส่งออกซึ่งผลิตผลเกษตรกรรม ขั้นต้น และผลิตภัณฑ์อาหารชนิด หรือประเภทที่กำหนดตามมาตรา 7 ต้องเสีย ค่าธรรมเนียมการส่งออกตามอัตรา ระเบียบและวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์กำหนด
มาตรา 11 เงินค่าธรรมเนียมการส่งออกที่เรียกเก็บได้ตาม พระราชบัญญัตินี้ ให้ส่งเข้ากองทุนสงเคราะห์เกษตรกรเพื่อใช้ในกิจการตามที่ บัญญัติไว้ในมาตรา 18 โดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน การจัดสรรเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรเพื่อใช้ในการส่งเสริม
การผลิต การพยุงราคา และการจำหน่ายซึ่งผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือ ผลิตภัณฑ์อาหาร ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนดโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
มาตรา 12 ให้มีคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรคณะหนึ่ง ประกอบด้วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลังและปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ อธิบดี กรมการค้าภายใน อธิบดีกรมบัญชีกลาง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรและ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นกรรมการโดย ตำแหน่ง และกรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งมีจำนวนไม่เกินแปดคน ในจำนวนนี้ให้มีผู้แทนสหกรณ์การเกษตรหนึ่งคน ผู้แทนกลุ่มเกษตรกรหนึ่งคน และเกษตรกรอื่นอีกสามคน คณะกรรมการจะแต่งตั้งกรรมการหรือบุคคลอื่นเป็นเลขานุการและ ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการก็ได้
มาตรา 13 กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งคราวละ สองปี แต่อาจได้รับแต่งตั้งอีกก็ได้
มาตรา 14 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา 13 กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งเมื่อ (1) ตาย (2) ลาออก (3) เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ (4) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแต่เป็นโทษ สำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ในกรณีที่กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการเพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการซึ่ง แต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง แทน หรือให้เป็นกรรมการเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการ ซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการเลขานุการและ ผู้ช่วยเลขานุการ อาจได้รับค่าพาหนะ เบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่าย และค่าตอบแทน หรือเบี้ยประชุม ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
| หน้าถัดไป »