ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติ การจำนองเรือและบุริมสิทธิทางทะเล พ.ศ. 2537
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2537
เป็นปีที่ 49 ในรัชกาลปัจจุบัน
หน้า 2
หมวด 2
บุริมสิทธิทางทะเล
______
สิทธิเรียกร้องตาม (2) หรือ (4) ที่เกิดจากมลพิษน้ำมัน วัตถุกัมมันตรังสี กัมมันตภาพรังสีและวัตถุนิวเคลียร์ ไม่ก่อให้เกิดบุริมสิทธิ ทางทะเลเหนือเรือลำนั้น
มาตรา 23 ให้เจ้าหนี้บุริมสิทธิทางทะเลมีสิทธิได้รับชำระหนี้อัน ค้างชำระแก่ตนจากเรือที่อยู่ภายใต้บังคับแห่งบุริมสิทธิทางทะเล ก่อนเจ้าหนี้ อื่น ๆ ทั้งนี้ ไม่ว่าลูกหนี้แห่งสิทธิเรียกร้องจะเป็นเจ้าของเรือหรือไม่ก็ตาม
มาตรา 24 บุริมสิทธิทางทะเลตามพระราชบัญญัตินี้ให้มีผลใช้ได้ โดยไม่ต้องจดทะเบียน และให้ได้ผลก่อนสิทธิจำนองตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งบุริมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในกรณีที่มีบุริมสิทธิทางทะเลหลายรายแย้งกัน ให้บุริมสิทธิทางทะเล เหล่านั้น ได้ผลก่อนหลังตามที่เรียงลำดับไว้ในมาตรา 22 เว้นแต่บุริมสิทธิทาง ทะเลในมูลค่าตอบแทน การช่วยเหลือกู้ภัยให้ได้ผลก่อนบุริมสิทธิทางทะเลอื่น ๆ เหนือเรือที่มีอยู่แล้วก่อนเริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัยนั้น ในกรณีที่บุคคลหลายคนมีบุริมสิทธิทางทะเลในลำดับเดียวกัน ให้บุคคลเหล่านั้นได้รับชำระหนี้ตามอัตราส่วนแห่งจำนวนเงินที่ตนเป็นเจ้าหนี้ ในกรณีที่บุริมสิทธิทางทะเลในมูลค่าตอบแทนการช่วยเหลือกู้ภัย เกิดขึ้นหลายครั้ง ให้บุริมสิทธิทางทะเลที่เกิดขึ้นครั้งหลังสุดได้ผลก่อนตาม ลำดับ ทั้งนี้ ให้ถือว่าบุริมสิทธิทางทะเลในมูลค่าตอบแทนการช่วยเหลือกู้ภัย ได้เกิดขึ้นในวันที่ปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัยได้เสร็จสิ้นลง
มาตรา 25 ในการบังคับตามบุริมสิทธิทางทะเล ให้นำเงินที่ได้ จากการขายเรือชำระค่าฤชาธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการกักหรือยึดและขายเรือ ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเรือนับแต่เวลาที่ได้กักหรือยึดเรือนั้น ค่าใช้จ่ายในการ ส่งตัวคนประจำเรือกลับถิ่นฐาน และค่าใช้จ่ายในการจัดสรรเงินจำนวนดังกล่าว ตามลำดับเสียก่อนแล้วจึงจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้แก่เจ้าหนี้บุริมสิทธิทางทะเล
มาตรา 26 ในกรณีที่มีการโอนสิทธิเรียกร้องซึ่งมูลแห่งสิทธิ เรียกร้องนั้น มีลักษณะตามมาตรา 22 ให้ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าว มีบุริมสิทธิทางทะเลเช่นเดียวกับผู้โอน
มาตรา 27 ในกรณีที่มีบุริมสิทธิทางทะเลเหนือเรือลำใดเกิดขึ้นแล้ว การทำนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์เรือลำนั้นให้แก่บุคคลใด ๆ ต่อไปไม่ทำให้บุริมสิทธิ ทางทะเลที่เกิดขึ้นแล้วนั้นระงับสิ้นไปเว้นแต่กรณีที่ผู้รับโอนได้ดำเนินการแจ้งให้ เจ้าหนี้บุริมสิทธิทางทะเลยื่นข้อเรียกร้องของตนไปยังผู้รับโอนภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าหกสิบวันนับแต่วันที่แจ้ง แต่เจ้าหนี้บุริมสิทธิทางทะเลไม่ได้ยื่น ข้อเรียกร้องของตนไปยังผู้รับโอนภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้บุริมสิทธิทาง ทะเลเป็นอันระงับสิ้นไป
การแจ้งตามวรรคหนึ่ง ให้กระทำโดยประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ รายวันและปิดประกาศไว้ดังนี้ (1) กรณีที่รับโอนกรรมสิทธิ์เรือไทย ให้ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ รายวันภาษาไทยที่มีจำหน่ายในท้องถิ่นที่เมืองท่าขึ้นทะเบียนของเรือนั้นตั้งอยู่อย่างน้อย หนึ่งฉบับกับหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษอย่างน้อยหนึ่งฉบับเป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกัน และให้ปิดประกาศไว้ที่ที่ทำการนายทะเบียนเรือประจำเมืองท่าขึ้นทะเบียนของเรือนั้น กับที่กองทะเบียนเรือ กรมเจ้าท่า (2) กรณีที่รับโอนกรรมสิทธิ์เรือต่างประเทศมาจดทะเบียนเป็นเรือไทย ให้ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยอย่างน้อยหนึ่งฉบับกับหนังสือพิมพ์ รายวันภาษาอังกฤษอย่างน้อยหนึ่งฉบับเป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกัน และให้ปิดประกาศไว้ ที่ที่ทำการนายทะเบียนเรือประจำเมืองท่าขึ้นทะเบียนที่จะจดทะเบียน หรือได้จด ทะเบียนเรือนั้นเป็นเรือไทย กับที่กองทะเบียนเรือ กรมเจ้าท่า
มาตรา 28 นอกจากกรณีตามมาตรา 27 บุริมสิทธิทางทะเลระงับ สิ้นไปเมื่อ (1) พ้นเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่บุริมสิทธิทางทะเลนั้นได้เกิดขึ้น (2) ได้ขายเรือไปตามคำสั่งศาล ในกรณีเช่นนี้ให้เงินที่ได้จากการ ขายเรือนั้นตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งบุริมสิทธิทางทะเลแทน (3) ผู้รับจำนองเอาเรือจำนองหลุด (4) มีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลถึงที่สุดให้ริบเรือนั้น
บทเฉพาะกาล
_______
มาตรา 30 การจำนองเรือไทยที่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นการ จำนองตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี
อัตราค่าธรรมเนียม
_______
1. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง
(1) เรือขนาดไม่เกิน 100 ตันกรอส ครั้งละ 500 บาท
(2) เรือขนาดเกิน 100 ตันกรอส แต่ไม่เกิน 200 ตันกรอส ครั้งละ 1,000 บาท
(3) เรือขนาดเกิน 200 ตันกรอสขึ้นไป ตันกรอสละ 10 บาท แต่ครั้งหนึ่งไม่เกิน ลำละ
20,000 บาท
2. ค่าธรรมเนียมการหมายเหตุแก้ข้อความในสัญญาจำนอง
(1) ไม่เพิ่มทุนทรัพย์ ครั้งละ 20 บาท
(2) เพิ่มทุนทรัพย์ หนึ่งหมื่นบาทแรกหรือต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาท 50 บาท
หนึ่งหมื่นบาทหลัง หมื่นละ 20 บาท เศษของหนึ่งหมื่นบาทให้นับเป็นหนึ่งหมื่นบาท
แต่ฉบับหนึ่งไม่เกิน 500 บาท
3. ค่าธรรมเนียมการคัดสำเนาหลักฐาน
(1) หนึ่งร้อยคำแรกหรือต่ำกว่าหนึ่งร้อยคำ 10 บาท
(2) หนึ่งร้อยคำหลัง ร้อยละ 1 บาท เศษของหนึ่งร้อยคำให้นับเป็นหนึ่งร้อยคำ
4. ค่าธรรมเนียมการออกใบแทนใบทะเบียนเรือไทย ฉบับละ 100 บาท
5.ค่าธรรมเนียมอื่น ครั้งละหรือฉบับละ 50 บาท
____________________________
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันการ จำนองเรือเดินทะเลและบุริมสิทธิเหนือเรือเดินทะเลได้นำบทบัญญัติว่าด้วยจำนอง และบุริมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ แต่โดยที่กิจการเรือ เดินทะเลมีลักษณะเฉพาะที่จำเป็นต้องมีการเคลื่อนที่ไปมาในน่านน้ำของประเทศ ต่าง ๆ เกือบตลอดเวลา การนำบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้ บังคับจึงไม่เหมาะสม จำเป็นต้องแยกการจำนองเรือเดินทะเลและบุริมสิทธิพิเศษ เหนือเรือเดินทะเลออกจากกฎหมายว่าด้วยเรือไทยซึ่งยังคงบังคับตามบทบัญญัติตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยสมควรให้มีกฎหมายสำหรับใช้บังคับกับการ จำนองเรือเดินทะเลโดยตรง และกำหนดบุริมสิทธิทางทะเลขึ้นไว้โดยเฉพาะสำหรับ เรือเดินทะเลเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาพาณิชย์นาวีของไทย และคุ้มครองบุคคล ซึ่งมีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับเรือเดินทะเลได้อย่างเหมาะสม จึงจำเป็นต้องตรา พระราชบัญญัตินี้
« ย้อนกลับ |