ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติ การสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2519
เป็นปีที่ 31 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งการสื่อสารแห่งประเทศไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ ยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519
มาตรา 2* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติมาตรา 4 มาตรา 12 และมาตรา 13 จะให้ใช้บังคับเมื่อใด ให้ รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่พระราช บัญญัตินี้ใช้บังคับ *[รก.2519/115/369/28 กันยายน 2519]
มาตรา 3 ภายใต้บังคับมาตรา 12 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติทุนไปรษณีย์ พ.ศ. 2504
มาตรา 4 พระราชบัญญัติไปรษณีย์ พุทธศักราช 2477 พระราชบัญญัติโทรเลข และโทรศัพท์ พุทธศักราช 2477 และบรรดากฎและข้อบังคับที่ได้ออกตามพระราชบัญญัตินั้น ในส่วนที่ว่าด้วยการไปรษณีย์และการโทรคมนาคม ให้คงใช้บังคับต่อไป ทั้งนี้ เท่าที่ไม่ขัดหรือ แย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ เพื่อประโยชน์แห่งการนำพระราชบัญญัติและกฎข้อบังคับดังกล่าวในวรรคหนึ่ง มาใช้บังคับ ให้คำบางคำในพระราชบัญญัติ กฎ และข้อบังคับนั้นมีความหมายดังต่อไปนี้
คำว่า กรม และ กรมไปรษณีย์โทรเลข ในมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 29 มาตรา 30 มาตรา 31 มาตรา 32 มาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 43 มาตรา 50 มาตรา 52 มาตรา 53 มาตรา 55 มาตรา 61 มาตรา 67 มาตรา 69 มาตรา 74 มาตรา 75 มาตรา 76 มาตรา 79 และมาตรา 81 ให้หมายความถึง การสื่อสารแห่งประเทศไทย คำว่า กรม ในมาตรา 54 ให้หมายความถึง ผู้ว่าการ คำว่า รัฐบาล ในมาตรา 37 ให้หมายความถึง การสื่อสารแห่งประเทศไทย คำว่า รัฐมนตรี ในมาตรา 22 ให้หมายความถึง คณะกรรมการ คำว่า อธิบดี ในมาตรา 9 มาตรา 11 มาตรา 17 มาตรา 21 มาตรา 27 มาตรา 33 มาตรา 35 และมาตรา 51 ให้หมายความถึง คณะกรรมการ คำว่า อธิบดี ในมาตรา 12 มาตรา 22 มาตรา 25 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 42 มาตรา 48 มาตรา 73 และมาตรา 78 ให้หมายความถึง ผู้ว่าการ
คำว่า เจ้าพนักงาน พนักงานเจ้าหน้าที่ และ เจ้าพนักงานไปรษณีย์ ให้ หมายความถึง พนักงาน (2) ในพระราชบัญญัติโทรเลขและโทรศัพท์ พุทธศักราช 2477 คำว่า กรม และ กรมไปรษณีย์โทรเลข ในมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 14 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 20 และมาตรา 38 ให้หมายความถึง การสื่อสาร แห่งประเทศไทย คำว่า รัฐบาล ในมาตรา 12 และมาตรา 13 ให้หมายความถึง การสื่อสาร แห่งประเทศไทย คำว่า รัฐมนตรี ในมาตรา 11 ให้หมายความถึง คณะกรรมการ คำว่า อธิบดี ในมาตรา 7 และมาตรา 8 ให้หมายความถึง ผู้ว่าการด้วยความ เห็นชอบของคณะกรรมการ คำว่า อธิบดี ในมาตรา 11 ให้หมายความถึง ผู้ว่าการ คำว่า เจ้าพนักงาน พนักงานโทรเลข พนักงานโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่โทรเลข และ เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ ให้หมายความถึง พนักงาน
มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้ การสื่อสารแห่งประเทศไทย หมายความว่า การสื่อสารแห่งประเทศไทยที่จัดตั้ง ขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้ ลูกจ้าง หมายความว่า ลูกจ้างการสื่อสารแห่งประเทศไทย พนักงาน หมายความว่า พนักงานการสื่อสารแห่งประเทศไทย ผู้ว่าการ หมายความว่า ผู้ว่าการการสื่อสารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการ หมายความว่า คณะกรรมการการสื่อสารแห่งประเทศไทย รัฐมนตรี หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด 1
การจัดตั้ง ทุน และเงินสำรอง
________
มาตรา 7 ให้จัดตั้งการสื่อสารขึ้น เรียกว่า การสื่อสารแห่งประเทศไทย มี วัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการและนำมาซึ่งความเจริญของกิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคม เพื่อ ประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน และดำเนินธุรกิจอันเกี่ยวกับกิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคม และธุรกิจอื่นที่ต่อเนื่องใกล้เคียงกัน หรือซึ่งเป็นประโยชน์แก่กิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคม ทั้งนี้ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนิติบุคคลอื่นโดยเฉพาะ
มาตรา 8 ให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยเป็นนิติบุคคล
มาตรา 9 ให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพ มหานครและจะจัดตั้งสำนักงานสาขาหรือตัวแทนขึ้น ณ ที่อื่นใดภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ก็ได้ ส่วนการจัดตั้งสำนักงานสาขาหรือตัวแทนภายนอกราชอาณาจักรต้องได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรี ก่อน
มาตรา 10 ให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยมีอำนาจกระทำกิจการต่าง ๆ ภายใน ขอบแห่งวัตถุประสงค์ตามมาตรา 7 และอำนาจเช่นว่านี้ให้รวมถึง
(1) ถือกรรมสิทธิ์ ครอบครองที่ดินและทรัพย์สินอื่น ๆ มีทรัพยสิทธิต่าง ๆ สร้าง ซื้อ เช่า ให้เช่า ให้เช่าซื้อ ยืม ให้ยืม จัดหา จำหน่าย ทำการแลกเปลี่ยน โอนและรับโอนด้วย ประการใด ๆ ซึ่งที่ดิน ทรัพย์สินอื่นหรือสิทธิรับทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ และดำเนินการเกี่ยวกับ เครื่องใช้บริการและความสะดวกต่าง ๆ ของกิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคม
(2) ให้บริการต่าง ๆ เกี่ยวกับกิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคม
(3) กำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าดำเนินธุรกิจต่าง ๆ และค่าบริการอื่น ๆ ของกิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคม และจัดระเบียบเกี่ยวกับวิธีชำระค่าต่าง ๆ ดังกล่าว
(4) จัดระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้บริการไปรษณีย์และโทรคมนาคม และความสะดวกต่าง ๆ ของกิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคม
(5) กู้ ยืม เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร ออกพันธบัตร หรือตราสารอื่นใดเพื่อการ ลงทุน ให้กู้ ให้ยืมเงิน โดยมีหลักประกันด้วยบุคคลหรือด้วยทรัพย์
(6) ร่วมการงานหรือสมทบกับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์แห่งกิจการของการสื่อสาร แห่งประเทศไทย รวมทั้งการเข้าเป็นหุ้นส่วนหรือถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลใด ๆ
มาตรา 11 ทุนของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย (1) ทุนประเดิมตามมาตรา 12 (2) เงินและทรัพย์สินอื่นที่รับโอนตามมาตรา 13 (3) เงินที่ได้รับจากงบประมาณแผ่นดินที่จ่ายให้ภายหลังเพื่อดำเนินงานหรือขยายกิจการ
มาตรา 12 ให้โอนเงินทุนไปรษณีย์ทั้งหมดตามพระราชบัญญัติทุนไปรษณีย์ พ.ศ. 2504 รวมตลอดถึงสิทธิหน้าที่และความผูกพันต่าง ๆ ที่มีอยู่ในวันที่มาตรานี้ใช้บังคับ ไปเป็น ของการสื่อสารแห่งประเทศไทย เว้นแต่เงินทุนไปรษณีย์ที่ได้จัดสรรเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2520 สำหรับสำนักงานเลขานุการกรม กองสื่อสารระหว่างประเทศ กอง แผนงาน และสำนักงานบริหารความถี่วิทยุ กรมไปรษณีย์โทรเลข
ให้พระราชบัญญัติทุนไปรษณีย์ พ.ศ. 2504 ยังคงใช้บังคับกับทุนไปรษณีย์ที่มิได้ โอนไปเป็นของการสื่อสารแห่งประเทศไทยตามวรรคหนึ่ง จนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2520 เงินทุนไปรษณีย์ตามวรรคสอง ที่ยังคงเหลืออยู่เมื่อวันสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2520 ให้ส่งคืนคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
มาตรา 13 ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ ข้าราชการ และลูกจ้างของ กรมไปรษณีย์โทรเลข นอกจากสำนักงานเลขานุการกรม กองสื่อสารระหว่างประเทศ กองแผนงาน และสำนักงานบริหารความถี่วิทยุ ไปเป็นของการสื่อสารแห่งประเทศไทย
มาตรา 14 ทรัพย์สินของการสื่อสารแห่งประเทศไทยซึ่งใช้เพื่อดำเนินการและ เพื่อประสิทธิภาพแห่งการไปรษณีย์และโทรคมนาคมสาธารณะ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
มาตรา 15 ให้ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ ผู้ว่าการ และ พนักงาน เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 16 ให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้รับสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ บรรดา ที่กฎหมายให้ไว้แก่กรมไปรษณีย์โทรเลขในส่วนที่ว่าด้วยการให้บริการและการปฏิบัติการด้าน ไปรษณีย์และโทรคมนาคม
มาตรา 17 ให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้รับยกเว้นจากการเสียภาษีอากรตาม ประมวลรัษฎากร
มาตรา 18 เงินสำรองของการสื่อสารแห่งประเทศไทยให้ประกอบด้วยเงินสำรอง ธรรมดาซึ่งตั้งไว้เผื่อขาด เงินสำรองเพื่อไถ่ถอนหนี้ และเงินสำรองอื่น ๆ เพื่อความประสงค์แต่ละ อย่างโดยเฉพาะ ตามที่คณะกรรมการจะเห็นสมควร
มาตรา 19 เงินสำรองธรรมดาจะนำออกใช้ได้ก็แต่โดยมติของคณะกรรมการ ด้วยความเห็นชอบจากรัฐมนตรี
มาตรา 20 ให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคาร แห่งประเทศไทยหรือธนาคารอื่น ตามระเบียบของกระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการ
| หน้าถัดไป »