ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติ การประกอบอาชีพงานก่อสร้าง พ.ศ. 2522
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2522
เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการประกอบอาชีพงานก่อสร้าง
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดย
คำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการประกอบ อาชีพงานก่อสร้าง พ.ศ.
2522"
มาตรา 2* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
*[รก.2522/75/36พ./10 พฤษภาคม 2522]
มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้
"งานก่อสร้าง" หมายความว่า งานเกี่ยวกับการก่อสร้าง ดัดแปลง ขยาย ต่อเติม ประกอบ ติดตั้งหรือรื้อถอนซึ่งอาคารหรือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ตามที่กำหนดโดยกฎกระทรวง
"อาคาร" หมายความว่า อาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุม อาคาร
"ผู้รับงานก่อสร้างควบคุม" หมายความว่า ผู้ที่จดทะเบียนเป็นผู้รับ หรือประกอบงานก่อสร้างควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้
"กรรมการ" หมายความว่า กรรมการในคณะกรรมการสถาบัน ผู้รับงานก่อสร้าง
"รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่
(1) ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ
งบประมาณซึ่งประกอบงานก่อสร้างด้วยตนเอง
(2) นิติบุคคลต่างประเทศซึ่งมีสิทธิเข้ามารับงานก่อสร้างในกิจการ
ตามพันธะที่รัฐบาลตกลงกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ สถาบัน
ระหว่างประเทศอื่นหรือรัฐบาลต่างประเทศ
(3) นิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออก กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกิน อัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ ตลอดจนออกกฎกระทรวงกำหนดกิจการอื่นเพื่อ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้ บังคับได้
หมวด 1
สถาบันผู้รับงานก่อสร้าง
_______
มาตรา 6 ให้จัดตั้งสถาบันขึ้นสถาบันหนึ่งเรียกว่า "สถาบันผู้รับงาน ก่อสร้าง" มีอำนาจหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ ให้สถาบันผู้รับงานก่อสร้างเป็นนิติบุคคล
มาตรา 7 สถาบันผู้รับงานก่อสร้างมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
(1) ควบคุมสอดส่องดูแลความประพฤติและมรรยาทของผู้รับงาน ก่อสร้าง
(2) ส่งเสริมการรับงานก่อสร้าง
(3) รักษาผลประโยชน์ของผู้รับงานก่อสร้าง
(4) เผยแพร่และให้การศึกษาเกี่ยวกับงานก่อสร้าง
มาตรา 8 สถาบันผู้รับงานก่อสร้างประกอบด้วยกรรมการสถาบัน ผู้รับงานก่อสร้างและ สมาชิกสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง
มาตรา 9 สมาชิกสถาบันผู้รับงานก่อสร้างมีสองประเภท คือ
(1) สมาชิกสามัญ ได้แก่ผู้มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(ก) เป็นผู้แทนซึ่งได้รับมอบหมายจากห้างหุ้นส่วนสามัญ จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด
บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ประกอบ ธุรกิจงานก่อสร้าง
(ข) มีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์
(ค) ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสียหายซึ่งคณะกรรมการสถาบัน
ผู้รับงานก่อสร้างเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งอาชีพ
(ง) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่ง
ที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุกในคดีซึ่งคณะกรรมการสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง
เห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งอาชีพ
(จ) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความ สามารถ
(ฉ) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(2) สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาการต่าง ๆ ซึ่งสถาบันผู้รับงานก่อสร้างเชิญ ให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา 10 การเข้าเป็นสมาชิก สิทธิ หน้าที่และการขาดจาก สมาชิกภาพ ของสมาชิกสถาบันผู้รับงานก่อสร้างให้เป็นไปตามข้อบังคับของ คณะกรรมการสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง
มาตรา 11 สถาบันผู้รับงานก่อสร้างอาจมีรายได้ดังต่อไปนี้
(1) ค่าจดทะเบียน ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของสถาบัน ผู้รับงานก่อสร้าง
(2) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 5
(3) ผลประโยชน์จากการลงทุนและกิจกรรมอื่น
(4) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้
มาตรา 12 ให้รัฐมนตรีดำรงตำแหน่งนายกพิเศษสถาบันผู้รับงาน ก่อสร้าง และมีอำนาจหน้าที่กำกับกิจการของสถาบันผู้รับงานก่อสร้างตามที่ บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 13 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการ สถาบันผู้รับงานก่อสร้าง"
เรียกโดยย่อว่า "ก.ก.ส." ซึ่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมทางหลวง
อธิบดีกรมโยธาธิการและ กรรมการอื่นซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้แทนของ ก.ว.หนึ่งคน
ผู้แทนของ ก.ส. หนึ่งคน ผู้แทนของสมาคมนายช่างเหมาไทยหนึ่งคน ข้าราชการในหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างสองคน และบุคคลซึ่งที่ประชุมสมาชิกสามัญของ
สถาบันผู้รับงานก่อสร้างเลือกตั้งจากสมาชิกสามัญของสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง
อีกไม่เกินสี่คน เป็นกรรมการ
สมาชิกสามัญซึ่งสถาบันผู้รับงานก่อสร้างเลือกตั้งขึ้นตามวรรคหนึ่ง
ต้องเป็นกรรมการผู้จัดการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการของผู้รับงานก่อสร้างควบคุม
ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นนายกสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง
ให้เลขาธิการสถาบันผู้รับงานก่อสร้างเป็นเลขานุการของ ก.ก.ส.
มาตรา 14 กรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งมีวาระอยู่ในตำแหน่งสองปี กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งแล้วอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่ง กรรมการเกินกว่าสองวาระติดต่อกันไม่ได้
มาตรา 15 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการซึ่ง รัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ขาดจากการเป็นสมาชิกสามัญของสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง สำหรับบุคคล
ซึ่งที่ประชุมสมาชิกสามัญของสถา บันผู้รับงานก่อสร้างเลือกตั้งขึ้น
เมื่อกรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระให้รัฐมนตรี
แต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ถ้าระยะเวลาที่จะดำรงตำแหน่งตาม มาตรา 14
เหลือไม่ถึงหกเดือน จะไม่แต่งตั้งก็ได้
ให้กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งตามวรรคสอง อยู่ในตำแหน่งตามวาระ ของกรรมการที่ตนแทน
มาตรา 16 เมื่อกรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งตาม วาระ ให้กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งนั้นคงอยู่รักษาการต่อไปจนกว่ากรรมการ ที่ได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
มาตรา 17 การประชุม ก.ก.ส.ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อย กว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าการประชุม คราวใดนายกสถาบันผู้รับงานก่อสร้างไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติ หน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการด้วยกันคนหนึ่งเป็นประธาน ในที่ประชุม
ภายใต้บังคับมาตรา 23 มติของที่ประชุม ก.ก.ส.ให้ถือเสียง ข้างมาก
กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งเสียงในการล งคะแนน ถ้าคะแนนเสียง เท่ากัน
ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ให้ ก.ก.ส.จัดให้มีการประชุมอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
มาตรา 18 ให้ ก.ก.ส.มีอำนาจและหน้าที่วางนโยบายและ ดำเนินงานของสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง และรวมถึงอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) ออกข้อบังคับการเข้าเป็นสมาชิกสถาบันผู้รับงานก่อสร้างและ การขาดจากสมาชิกภาพ
(2) ออกข้อบังคับกำหนดค่าจดทะเบียน ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียม ต่าง ๆ
(3) ออกข้อบังคับเกี่ยวกับการประชุมสมาชิกของสถาบันผู้รับงาน ก่อสร้าง
(4) ออกข้อบังคับวางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขอจดทะเบียน การรับ จดทะเบียน
การต่ออายุทะเบียน หรือการเพิกถอนทะเบียน เป็นผู้รับงาน ก่อสร้างควบคุม
(5) ออกข้อบังคับว่าด้วยการรักษามรรยาทแห่งอาชีพผู้รับงานก่อสร้าง ควบคุม
(6) ออกข้อบังคับว่าด้วยการประชุม ก.ก.ส.หรืออนุกรรมการ
(7) ออกข้อบังคับว่าด้วยการค้ำประกันและการให้สินเชื่ อแก่ผู้รับงาน ก่อสร้างควบคุม
(8) ออกข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ ที่อยู่ภายในวัตถุประสงค์ของ
สถาบันผู้รับงานก่อสร้าง และการบริหารกิจการ รวมทั้งกำหนดเบี้ยประชุม
กรรมการและค่าจ้างของพนักงานและลูกจ้างของสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง
(9) ให้คำปรึกษา แนะนำ และขอความร่วมมือจากทางราชการเพื่อ
ควบคุมหรือส่งเสริมการรับงานก่อสร้าง
มาตรา 19 ให้ ก.ก.ส.มีอำนาจแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อทำกิจการ หรือพิจารณาเรื่องต่าง ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของสถาบัน ผู้รับงานก่อสร้าง
มาตรา 20 ในกิจการเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้นายกสถาบัน ผู้รับงานก่อสร้างหรือกรรมการซึ่งนายกสถาบันผู้รับงานก่อสร้างมอบหมาย เป็นหนังสือ เป็นผู้แทนสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง
มาตรา 21 ทุก ๆ ปีให้นายกสถาบันผู้รับงานก่อสร้างจัดให้มีการ ประชุมสามัญประจำปีของสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง เพื่อดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการและปรึกษาหารือกิจการที่อยู่ในวัตถุประสงค์ของสถาบันผู้รับงาน ก่อสร้าง ในกรณีที่จำเป็นจะจัดให้มีการประชุมวิสามัญก็ได้
มาตรา 22 นายกพิเศษสถาบันผู้ รับงานก่อสร้างจะเข้าฟังการ ประชุม
และชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง หรือ
จะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังสถาบันผู้รับงานก่อสร้างในเรื่องใด ๆ ก็ได้
มาตรา 23 มติของ ก.ก.ส.ตามมาตรา 18 (2) (4) (5) (6) และ (8) จะต้องได้รับความเห็นชอบของนายกพิเศษสถาบันผู้รับงานก่อสร้าง ก่อนจึงจะดำเนินการตามมตินั้นได้
ให้นายกสถาบันผู้รับงานก่อสร้างเสนอมติของ ก.ก.ส.ต่อนายก พิเศษสถาบันผู้รับงานก่อสร้างโดยไม่ชักช้า นายกพิเศษสถาบันผู้รับงาน ก่อสร้างอาจยับยั้งมตินั้นได้ ในกรณีที่มิได้มีการยับยั้งภายในสิบห้าวันนับแต่ วันที่ได้รับมติที่นายกสถาบันผู้รับงานก่อสร้างเสนอ ให้ถือว่านายกพิเศษ สถาบันผู้รับงานก่อสร้างให้ความเห็นชอบด้วยมตินั้น
ถ้านายกพิเศษสถาบันผู้รับงานก่อสร้างยับยั้งมติใด ให้ ก.ก.ส. พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ในการประชุมนั้นถ้ามีเสียงยืนยันมติถึงสามในสี่ของ จำนวนกรรมการทั้งคณะ ก็ให้ดำเนินการตามมตินั้นได้
มาตรา 24 ให้นายกสถาบันผู้รับงาน ก่อสร้างแต่งตั้งเลขาธิการ
สถาบันผู้รับงานก่อสร้างคนหนึ่งด้วยความเห็นชอบของ ก.ก.ส.มีหน้าที่
รับผิดชอบในการรักษาทะเบียนผู้รับงานก่อสร้างควบคุมและในกิจการอื่นทั่วไป
เลขาธิการสถาบันผู้รับงานก่อสร้างต้องเป็นกรรมการผู้จัดการ
หรือหุ้นส่วนผู้จัดการของผู้รับงานก่อสร้างควบคุม
| หน้าถัดไป »