ปรัชญา อภิปรัชญา ญาณวิทยา จิตวิทยา ตรรกศาสตร์ >>
ปรัชญา
ประสบการณ์นิยม
สาระสำคัญ
๑. ภววิทยา ภววิทยาของประสบการณ์นิยมที่พัฒนามาจากแนวคิดของประจักษ์นิยมโดยตรง แต่เป็นแนวคิดแบบง่าย ๆ ที่หันมาพิจารณาถึงสิ่งที่เป็นจริงเท่าที่มนุษย์สามารถจะมีประสบการณ์ได้ในชีวิตจริง ๆ ถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีประสบการณ์ได้เป็นความจริงตามสภาพที่เป็นอยู่มีอยู่กล่าวอีก นัยหนึ่งก็คือโลกแห่งประสบการณ์คือโลกแห่งความเป็นจริง ความเป็นจริงนั้นก็คือ ประสบการณ์ของเรานั่นเอง
การที่เราจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งใดนั้นจำเป็นต้องมีการกระทำกิจกรรมด้วยกระบวนการ ที่เหมาะสม จึงจะเกิดผลที่ก่อให้เกิดประสบการณ์ที่จะนำไปสู่ความรู้ความจริง กระบวนการดังกล่าวนี้เรียกว่ากระบวนการกระทำที่ต่อเนื่อง (Transaction) ในการสืบเสาะหาความรู้ความจริงนั้น ปรัชญาสาขานี้เน้นกระบวนการ (Process) เป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการแก้ปัญหาและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๒. ญาณวิทยา ทฤษฎีแห่งความรู้ของปรัชญาสาขานี้ยึดประสบการณ์เป็นหลักโดยถือว่าประสบการณ์เป็นบ่อเกิดแห่งความรู้ เมื่อประสบการณ์มีสภาพไม่คงที่เปลี่ยนแปลงได้ ความรู้อันเกิดจากประสบการณ์มีสภาพชั่วคราวไม่คงที่และเปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกับความรู้จะได้รับการยอมรับว่าถูกต้องตราบเท่าที่ประสบการณ์ของมนุษย์ยังไม่อาจค้นพบความรู้ที่ใหม่กว่าเท่านั้น
ในแง่ของประสบการณ์นิยม การรู้เป็นกระบวนการซึ่งมีขั้นตอนเหมือนกับวิธีการแก้ปัญหาหรือวิธีการทางวิทยาศาสตร์ทางด้านปรัชญาเรียกว่าวิธีการแห่งปัญญา (Intellectual Method) วิธีการดังกล่าวนี้มี ๕ ขั้นตอน คือ
ขั้นตอนที่ ๑ เป็นขั้นตอนที่เกิดสภาวะผิดปกติหรือปัญหาแต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าปัญหานั้นคืออะไร
ขั้นตอนที่ ๒ การกำหนดปัญหา เพื่อให้ชัดเจนว่าปัญหานั้นคืออะไร มีขอบเขตแค่ไหน เป็นขั้นของการวินิจฉัยปัญหา
ขั้นที่ ๓ เป็นการตั้งสมมติฐาน คาดคะเน หรือประมลแนวทางแก้ปัญหาหลาย ๆ วิธี
ขั้นที่ ๔ เป็นขั้นที่ทำการคาดคะเนว่า ถ้าใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ประมวลได้ในขั้นที่ ๓ ผลจะเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร จะเลือกวิธีใดจึงจะได้ผลที่สุด
ขั้นตอนที่ ๕ เป็นขั้นตอนแห่งการปฏิบัติและการทดสอบโดยการนำเอาวิธีแก้ปัญหาไปใช้และประเมินผลว่าวิธีใดแก้ปัญหาได้ดีและถูกต้อ
เกณฑ์ที่ปรัชญาสาขาประสบการณ์นิยม ใช้ประเมินความรู้คือ ผลของการนำความรู้ไปใช้ ถ้าใช้ได้ผลก็ถือเป็นความรู้ที่ถูกต้อง (Truth Ss What Worlds) บรรดาความรู้ตามทฤษฎีแห่งความรู้จึงมีลักษณะเป็นสาธารณะที่เกิดจากการมีประสบการณ์ร่วมกันของมวลมนุษย์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมร่วมกัน
๓. คุณวิทยา ปรัชญาสาขาประสบการณ์นิยมได้ให้ความสนใจเรื่องเกี่ยวกับค่านิยมเชิงจริยะและสุนทรียะเป็นอย่างมาก โดยหลักการแล้วถือว่าค่านิยมเป็นสิ่งที่มนุษย์กำหนด เป็นการกำหนดขึ้นจากประสบการณ์และผลการดำเนินชีวิตภายในกรอบของค่านิยมนั้น ๆ
ทางด้านจริยศาสตร์ ปรัชญาสาขานี้ถือว่าคุณธรรมความดีเป็นเรื่องของการทดสอบ (Public Test) ของคนส่วนใหญ่ ค่านิยมเชิงจริยะไม่ใช่หลักสากลแตกต่างกันไปตามกลเวลาและสถานที่ มนุษย์เป็นผู้กำหนดค่านิยมขึ้นจากประสบการณ์ เพื่อสนองตอบต่อความพยายามในการปรับปรุงสภาพการณ์ของสังคม การประพฤติปฏิบัติตนจะเป็นการกระทำที่ดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการกระทำและผลของการกระทำ ถ้าทำแล้วเกิดผลดีต่อส่วนรวมก็ถือว่าเป็นการทำดีทำถูกต้อง เกณฑ์การประเมินค่านิยมเชิงจริยธรรมมี ๒ เกณฑ์คือ
๑ การทดสอบผล ถ้าเป็นผลดีเหมาะสมก็ถือว่าใช้ได้ และ
๒. สังคมส่วนรวม กล่าวคือ ต้องเป็นผลดีต่อสังคมส่วนรวมด้วย เมื่อเป็นดังนี้คุณธรรมความดีและความถูกต้องจึงขึ้นอยู่กับการทดสอบความเหมาะสมกับสถานการณ์โดยใช้เสียงของคนส่วนใหญ่เป็นเครื่องตัดสิน
ทางด้านสุนทรียภาพ ปรัชญาสาขานี้สนใจศิลปะเพื่อชีวิต ความงาม ความไพเราะของศิลปะและดนตรี จะมีคุณค่าต่อชีวิตก็ต่อเมื่อมีคุณค่าและความหมายต่อการเสริมสร้างประสบการณ์ เมื่อชมงานศิลปะและฟังดนตรีแล้วมีผลอะไรติดตามมา ถ้าก่อให้เกิดประสบการณ์ ๆ ก็ถือว่ามีคุณค่า ศิลปะจะมีค่าหรือไม่มีค่านั้นขึ้นอยู่กับนิยมของคนส่วนใหญ่ (Public Test)
แนวคิดเกี่ยวกับการศึกษา
๑. โรงเรียนและผู้เรียน เน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่จะเอื้ออำนวยให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์ ต่อเนื่อง สิ่งแวดล้อมที่ควรจะไม่แตกต่างไปจากชีวิตจริง ถ้าเป็นไปได้โรงเรียนควรจะมีสภาพเป็นสังคมย่อยที่จำลองแบบสังคมใหญ่ ทั้งนี้เพื่อให้ประสบการณ์ในโรงเรียนมีส่วนสัมพันธ์และเป็นประโยชน์ ต่อการดำเนินชีวิตในสังคม การให้ความรู้เพื่อการใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตเป็นเป้าหมายสำคัญของโรงเรียน ความรู้เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์จึงเป็นอุดมการณ์ทางการศึกษาของปรัชญาสาขานี้
ลักษณะของโรงเรียน จะต้องมุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมเหมือนชีวิตจริงในบ้านและในสังคมเพื่อ ส่งเสริมให้เกดประสบการณ์ต่อเนื่อง
๒. หลักสูตร เน้นการเสริมสร้างประสบการณ์ทางสังคม ลักษณะของหลักสูตรตามแนวปรัชญาสาขานี้แทนที่จะเน้นเนื้อหาสาระ กลับให้ความสำคัญแกกระบวนการในการศึกษาหาความรู้มากกว่า หลักสูตรจึงเป็นการจัดมวลประสบการณ์เพื่อให้ผู้เรียนได้มีโอกาสทำกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ดังกล่าว กลุ่มวิชาที่ได้รับการเน้นเป็นพิเศษคือ สังคมศึกษา ส่วนวิธีการเรียนการสอนตามหลักสูตรแบบนี้คือ การแก้ปัญหา การทำโครงการและกิจกรรมโดยถือความถนัด ความสนในของผู้เรียนเป็นหลัก
๓. การเรียนการสอน การเรียนการสอนตามแนวประสบการณ์นิยมมีลักษณะสำคัญ ๓ ประการคือ
(๑) การเรียนโดยวิธีแก้ปัญหา (Problem Solving) ถือว่าการเรียนรู้ที่ดีคือ การที่ ให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหา โดยได้รู้สภาพการณ์ที่เป็นปัญหา หาวิธีแก้ปัญหาและทดสอบผลการแก้ปัญหาเพื่อจะได้เผชิญกับชีวิตจริงได้โดยอาศัยประสบการณ์จากการเรียนการสอนในโรงเรียนที่ได้ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ดังกล่าวให้
(๒) การเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Learner centered Learning) เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่คำนึงถึงความต้องการ ความถนัด และความสนในของผู้เรียนเป็นหลัก ในการจัดการเรียนการสอน
(๓) เรียนรู้ในขณะที่นำความรู้นั้น ๆ มาใช้ (Learning While Using Knowledge) กระบวนการเรียนรู้และการนำความรู้ไปใช้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน การเรียนการสอนแบบนี้มักจะทำในรูปโครงการและกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้มีการศึกษาค้นคว้าแสวงหาคำตอบและแนวทางแก้ปัญหา ความรู้ที่ค้นคว้าได้จะใช้เป็นพื้นฐานในการแก้ปัญหารือทำโครงการและกิจกรรมนั้น ๆ ให้เสร็จสมบูรณ์
๔. การปลูกฝังค่านิยมทางจริยธรรมและสุนทรียภาพ การปลูกฝังค่านิยมทางจริยธรรมนั้น โรงเรียนจะต้องจัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนให้เหมือนกับสภาพความเป็นจริงในสังคม ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สภาวะทางศีลธรรมจรรยาและแบบอย่างของความประพฤติที่ดีงามที่สังคมยอมรับโดยการผสมผสานเข้ากับการปฏิบัติในขณะที่ดำเนินชีวิตอยู่ในโรงเรียน กล่าวคือให้ผู้เรียนเรียนรู้จากผลของการกระทำของตนเองในชีวิตประจำวันให้มากที่สุด เป็นการเรียนรู้จากชีวิตจริง
ทางด้านสุนทรียภาพนั้น ก็คือหลักการเรียนรู้จากชีวิตจริงเช่นเดียวกัน การปลูกฝังรสนิยมทางสุนทรยะจะต้องก่อให้เกิดประสบการณ์ทางสุนทรียะจากศิลปกรรมที่มีความหมายต่อชีวิตจริง