ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
คำอธิบายคำวิงวอนในบทเร้าวิงวอนพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์
พระหฤทัยพระเยซู แหลกราญด้วยอาชญากรรมของเรา
อีกรูปแบบหนึ่งของบทเร้าวิงวอนข้อนี้คือ พระหฤทัยพระเยซู บอบช้ำเพราะความผิดของเรา เราต้องพิจารณาทั้งสองรูปแบบนี้ เพื่อจะเข้าใจความโศกเศร้า และความเจ็บปวดภายในพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า บทเร้าวิงวอนข้อก่อนหน้านี้เน้นที่การถูกดูหมิ่นที่พระเยซูเจ้าต้องทนรับ ในข้อนี้ เราจะเน้นความโศกเศร้าของพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า
โยเซฟ เดอ กีเบิร์ต S.J. เขียนไว้ในหนังสือชื่อ The Jesuits : Their Spiritual Doctrine and Practice ว่า ผลงานเกี่ยวกับกิจศรัทธาต่อพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ที่เด่นกว่าผลงานอื่น ๆ ทั้งหมดในศตวรรษที่ 18 คือผลงานของคุณพ่อโยเซฟ กัลลีเฟท์ S.J. เขาเป็นบุตรฝ่ายจิตของนักบุญโคลด ลา โกลอมบีแอร์ และเป็นเพื่อนนักศึกษาของครัวเซต์ เขาได้เริ่มต้นทำงานเผยแพร่การถวายเกียรติแด่พระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแล้ว เมื่อเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยชาวฝรั่งเศสของอธิการใหญ่คณะเยสุอิตในกรุงโรม เขาได้เตรียมการอภิปรายต่อหน้าสมณกระทรวงว่าด้วยพิธีกรรมในปี ค.ศ. 1726-27 รวมทั้งประพันธ์ผลงานชื่อกิจศรัทธาต่อพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการอภิปรายนี้ ในผลงานชิ้นนี้กัลลีเฟท์ ได้อธิบายเกี่ยวกับต้นกำเนิด ลักษณะ ความดีเด่น และการปฏิบัติกิจศรัทธานี้ (หน้า 397)บุรุษผู้มีความคิดลุ่มลึกนี้บอกเราว่า ในพระทรมานของพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงรับทนความเจ็บปวดในพระหฤทัยของพระองค์มากกว่าส่วนอื่นใดในพระกายอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ด้วยเหตุผลว่าความเจ็บปวดภายในของพระผู้ไถ่นั้นหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าความเจ็บปวดภายนอก และความเจ็บปวดภายในนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่พระหฤทัยของพระองค์
ประโยคหนึ่งซึ่งพระเยซูเจ้าตรัสขณะที่พระองค์เสด็จเข้าไปในสวนเกทเสมนี น่าจะทำให้เราเข้าใจว่าความทุกข์ทรมานของพระองค์หนักเพียงไร ใจเราเป็นทุกข์แทบสิ้นชีวิต (มธ 26:28) ซึ่งเท่ากับกล่าวว่า เราเศร้าใจอย่างยิ่ง และมีความเศร้าระทมท่วมท้นจนเราแทบจะสิ้นชีวิต เรารับทนความทุกข์ทุกอย่าง และความเจ็บปวดภายในจากความตายที่ใกล้เข้ามา ความรุนแรงของความเจ็บปวดภายในนี้มากพอจะฆ่าเราได้ ในตอนท้ายของคำบรรยายการประจญพระเยซูเจ้าในทะเลทราย นักบุญลูกา ได้เติมรายละเอียดอย่างหนึ่งซึ่งหลายคนมองข้ามเมื่ออ่านคำบรรยายนี้ ปีศาจจึงแยกจากพระองค์ไป รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เมื่อเสด็จเข้าไปในสวนมะกอกเทศ พระเยซูเจ้าทรงรู้ว่าการที่ทรงเลือกไถ่กู้มนุษยชาติด้วยการตายบนไม้กางเขนนั้น พระองค์จะต้องถูกประจญจากปีศาจในที่สุด อีกนัยหนึ่งคือ การประลองกำลังกับปีศาจกำลังใกล้เข้ามา และพระเยซูเจ้าทรงเริ่มกลัว และหนักใจ หรือทรงรู้สึกหดหู่ และกังวล พระเยซูเจ้าทรงกลัวความตาย และความเจ็บปวดก่อนตายที่พระองค์ทรงรู้ล่วงหน้า คำว่า ความเจ็บปวดก่อนตาย (agony) มาจากคำภาษากรีกว่า agon ซึ่งหมายถึงการประลองกำลังแบบตัวต่อตัว เช่นมวยปล้ำ ซึ่งคู่ต่อสู้ยึดจับตัวกันและกันด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากเหงื่อที่ไหลโทรมกาย พระเยซูเจ้าทรงหวั่นไหวกับภาพนิมิตนี้ พระองค์ทรงรักชีวิต และทรงยึดเหนี่ยวชีวิตนี้ด้วยทุกเส้นใยของพระหฤทัย มิใช่เพราะชีวิตนี้เป็นสมบัติอันมีค่า แต่เพราะเป็นสมบัติยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ความปรารถนาในการทำลายล้างนี้ไม่เคยทำให้วิญญาณของพระองค์หดหู่มาก่อน แต่บัดนี้ ความตายกำลังคืบคลานใกล้วิญญาณอันงดงามของพระองค์ (โปรแฮสก้า, ภาค 3, 101)
เราควรจะหยุดพักเพื่อพิจารณาต้นเหตุของความเศร้าของพระเยซูเจ้า ประการแรกคือความรู้อย่างชัดเจนล่วงหน้าเกี่ยวกับพระทรมานของพระองค์ เราไม่จำเป็นต้องคิดว่าพระองค์ทรงรู้เรื่องนี้เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า แต่เพราะพระองค์ได้ทรงรำพึงอย่างถี่ถ้วนถึงบทขับร้อง 4 บท ของผู้รับใช้ผู้ทนทรมานของพระยาเวห์ ซึ่งพระองค์ทรงเรียนรู้จากประกาศกอิสยาห์ และซึ่งพระองค์ทรงรู้น้ำพระทัยของพระบิดาที่ประกาศให้ทราบเมื่อพระองค์ทรงรับพิธีล้าง โดยทั่วไป ความกลัวการทรมานจะร้ายแรงกว่าความเป็นจริง ธรรมชาติมนุษย์อันบอบบางของพระองค์ตกใจกลัวความเจ็บปวดที่พระองค์จะต้องประสบ เราสามารถกล่าวได้ว่าพระเยซูเจ้าทรงมองเห็นความเจ็บปวดก่อนตายของพระองค์ในสวนมะกอกเทศนี้เอง ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงไม่กระวนกระวายบนไม้กางเขน และแทบจะแสดงชัยชนะขณะที่ทรงร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง และสุดกำลังว่า สำเร็จบริบูรณ์แล้ว
ต้นเหตุประการที่สองคือภาพนิมิตอันน่ารังเกียจของบาปของมนุษย์ พระองค์ถูกท่วมทับด้วยคลื่นของความชั่วร้ายอันมหาศาลเท่ามหาสมุทร และเลวร้ายเกินจินตนาการ ขอให้ลองจินตนาการถึงบุคคลหนึ่งซึ่งคุ้นเคยกับชีวิตที่สะอาด อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัย แต่ในทันใดเขาต้องจมอยู่ในท่อระบายน้ำของเมือง และถูกบังคับในมุดลงไปใต้น้ำเสียนี้ ความหนักหนาเช่นเดียวกันนี้บดขยี้พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จนกระทั่งพระโลหิตไหลซึมออกมาเป็นหยดสีแดงเหมือนเหงื่อจากขุมขนบนผิวหนังของพระองค์
ต้นเหตุประการที่สามคือความรู้สึกขัดข้องใจ และคำถามที่เกิดขึ้นตลอดเวลาว่า ทั้งหมดนี้จะได้ประโยชน์อะไร รวมทั้งความคิดว่า ความทุกข์ทรมานที่พระองค์ทรงรับทนเพื่อมนุษย์จะต้องสูญเปล่าสำหรับคนหลายคน ตามปกติความอกตัญญูจะก่อให้เกิดความขมขื่นในตัวคนทั่วไป แต่เราไม่ควรคิดว่าพระเยซูเจ้าทรงรู้สึกขมขื่นเช่นนั้น พระองค์ทรงยอมรับทนความทุกข์ทรมานเพราะความรัก แต่พระองค์ทรงรู้ด้วยว่าจะเป็นการสูญเปล่าสำหรับมนุษยชาติส่วนใหญ่ คำของผู้เขียนบทสดุดีคงสะท้อนก้องในจิตสำนึกของพระองค์ และสร้างความบอบช้ำให้แก่พระหฤทัยอันอ่อนโยนของพระผู้ไถ่
คำว่า บอบช้ำ ที่ใช้กันโดยทั่วไปอาจมีความหมายตั้งแต่รอยข่วนจนถึงกระดูกหัก และพจนานุกรมระบุไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า หมายถึงรอยช้ำจากการบาดเจ็บบนเนื้อหนังของบุคคลหนึ่ง อันมีสาเหตุมาจากการถูกตี หรือกดทับ และเนื้อมีสีคล้ำโดยที่ผิวหนังไม่ปริแตก บาดแผลที่เลือดไหลจะทำให้ผู้มองเห็นรู้สึกสงสารทันที แต่รอยช้ำมักไม่มีคนสังเกตเห็น และความเจ็บปวดภายในอาจรุนแรงมากขึ้นเพราะผู้อื่นเมินเฉย ความอกตัญญูของมนุษย์นี้เองที่พระเยซูเจ้าทรงย้ำหลายครั้งในการประจักษ์แก่วิญญาณที่ศรัทธาหลายคนในประวัติศาสตร์
ความทุกข์ทรมานในสวนมะกอกเทศนี้ติดตามมาทันทีด้วยการทรยศของยูดาส ซึ่งเป็นทั้งศิษย์และเพื่อนของพระองค์ วิญญาณอันบริสุทธิ์สูงส่งของพระเยซูเจ้าต้องเผชิญหน้ากับผู้ตกเป็นทาสของสัญชาตญาณอันน่ารังเกียจ เหตุการณ์นี้เป็นเงามืดปกคลุมพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าตลอดพระทรมานของพระองค์ เมื่อพระเจ้าผู้ทรงมาเกิดเป็นมนุษย์ทรงถูกจุมพิตโดยบุคคลที่ขายวิญญาณให้ปีศาจ
เมื่อพระเยซูเจ้าเข้าไปในสวนมะกอกเทศ และบอกให้ศิษย์ของพระองค์ตื่นเฝ้าอยู่กับพระองค์ เป็นเพราะในช่วงเวลาอันมืดมิดที่สุดนี้ พระองค์ทรงต้องการเพื่อน แต่อัครสาวก ซึ่งเพียงครู่เดียวก่อนหน้านี้เพิ่งจะยืนยันว่าพวกเขาพร้อมจะสละชีวิตเพื่อพระองค์ กลับทิ้งให้พระองค์อยู่อย่างโดดเดี่ยว และเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น พวกเขาหลบหนี และทิ้งพระองค์ไว้ตามลำพัง หัวหน้าของเขาเหล่านี้ถึงกับปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระอาจารย์ ศิษย์ทุกคนทิ้งพระองค์ แล้วหนีไป และเปโตรเริ่มสบถสาบานอย่างแข็งขันว่า ข้าพเจ้าไม่รู้จักคนที่ท่านกำลังพูดถึง (มก 14:50, 71)
เมื่อแม้แต่เพื่อน และศิษย์ยังเป็นเช่นนั้น จึงไม่น่าประณามศัตรูของพระองค์ที่ร้องตะโกนด่า ท้าทาย และเยาะเย้ยพระองค์ทุกวิถีทาง ความเจ็บปวดของพระเยซูเจ้าในสวมมะกอกเทศช่วยลดระยะเวลาของความเจ็บปวดขั้นสุดท้ายบนไม้กางเขน สิ่งที่น่าพิศวงที่สุดคือพระเยซูเจ้าทรงผ่านประสบการณ์ทั้งหมดนี้โดยไม่ทรงปริปากบ่น คำเดียวที่ช่วยให้เข้าใจวิญญาณของพระองค์คือเสียงร้องของพระองค์ว่า เรากระหายซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะพิษไข้ การสูญเสียน้ำในร่างกาย ความเจ็บปวดของพระหฤทัยทางกาย แต่ท้ายสุด เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เป็นเพราะความกระหายหาความรัก
จึงสมควรที่ผู้ศรัทธาต่อพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์จะยอมรับหน้าที่เป็นเครื่องบูชาด้วยความจริงใจอย่างสิ้นสุดใจ
» พระหฤทัยพระเยซู บุตรแห่งพระบิดานิรันดร
» พระหฤทัยพระเยซู ที่พระจิตทรงตกแต่งในครรโภทรแห่งพระมารดาพรหมจารี
» พระหฤทัยพระเยซู ร่วมสภาวะกับพระวจนาตถ์แห่งพระเจ้า
» พระหฤทัยพระเยซู ทรงมหิทธิศักดิ์ไม่มีขอบเขต
» พระหฤทัยพระเยซู วิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
» พระหฤทัยพระเยซู ตำหนักแห่งพระเจ้าสูงสุด
» พระหฤทัยพระเยซู เคหะของพระเจ้า และประตูสวรรค์
» พระหฤทัยพระเยซู เตาไฟโชติช่วงแห่งความรัก
» พระหฤทัยพระเยซู เครื่องรองรับความยุติธรรม และความรัก
» พระหฤทัยพระเยซู เปี่ยมด้วยคุณงาม และความรัก
» พระหฤทัยพระเยซู ขุมฤทธิ์กุศลทั้งปวง
» พระหฤทัยพระเยซู สมแก่คำสรรเสริญทุกประการ
» พระหฤทัยพระเยซู ราชา และศูนย์รวมแห่งดวงใจทั้งหลาย
» พระหฤทัยพระเยซู ขุมพระปรีชาญาณ และความรู้ทั้งปวง
» พระหฤทัยพระเยซู ที่ประทับแห่งพระเทวภาพครบบริบูรณ์
» พระหฤทัยพระเยซู ที่สบพระทัยแห่งพระบิดา
» พระหฤทัยพระเยซู ที่เราได้รับทานจากความบริบูรณ์ของพระองค์
» พระหฤทัยพระเยซู ความปรารถนาแห่งเนินเขานิรันดร
» พระหฤทัยพระเยซู ทรงอดทน และเมตตากรุณา
» พระหฤทัยพระเยซู ความมั่งคั่งสำหรับทุกคนที่มาวิงวอนพระองค์
» พระหฤทัยพระเยซู ธารแห่งชีวิต และความศักดิ์สิทธิ์
» พระหฤทัยพระเยซู ทรงชดเชยบาปของเรา
» พระหฤทัยพระเยซู ถูกสบประมาทอย่างท่วมท้น (Loaded with opprobrium)
» พระหฤทัยพระเยซู แหลกราญด้วยอาชญากรรมของเรา
» พระหฤทัยพระเยซู นอบน้อมจนสิ้นพระชนม์
» พระหฤทัยพระเยซู ถูกแทงด้วยหอก
» พระหฤทัยพระเยซู ธารความทุเลาบรรเทา
» พระหฤทัยพระเยซู ชีวิต และการคืนชีพของเรา
» พระหฤทัยพระเยซู สันติภาพ และการคืนดีของเรา
» พระหฤทัยพระเยซู ยัญบูชาไถ่บาปมนุษย์
» พระหฤทัยพระเยซู ความรอดของผู้วางใจในพระองค์
» พระหฤทัยพระเยซู ความวางใจของผู้ที่ตายในพระองค์