ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
คำอธิบายคำวิงวอนในบทเร้าวิงวอนพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์
พระหฤทัยพระเยซู ถูกแทงด้วยหอก
นักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสาร เล่าเหตุการณ์นี้อย่างตรงไปตรงมาว่า ทหารคนหนึ่งใช้หอกแทงด้านข้างพระวรกายของพระองค์ โลหิต และน้ำก็ไหลออกมาทันที (ยน 19:34)หลายคนคงคิดว่านี่คือการกระทำที่ผิดมนุษย์ที่สุดในบรรดาเหตุการณ์ทั้งหมดระหว่างพระทรมานของพระคริสตเจ้า การถูก แขวนคอ คว้านไส้ และสับเป็นสี่ท่อน เป็นสิ่งที่กระทำกันเป็นประจำในประเทศอังกฤษ ระหว่างช่วงเวลา 150 ปี ของการเบียดเบียนชาวคาทอลิก แต่มีเจตนาเพียงเพื่อจะสร้างความหวาดกลัวเท่านั้น มนุษย์มีความรู้สึกที่ฝังลึกว่าควรเคารพศพผู้ตาย แม้ว่าขณะที่ยังมีชีวิต บ่อยครั้งที่มนุษย์กระทำต่อกันเหมือนสุนัขป่า เหมือนสุภาษิตละตินที่ว่า homo homini lupus แต่มนุษย์จะมองเห็นบางสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ในตัวของศัตรูทันทีที่เขาตาย และไม่อยู่ในสภาพที่จะต่อสู้ได้อีกต่อไป การดูแลเอาใจใส่สุสานของเรา และเงินที่เราใช้จ่ายไปในการบำรุงรักษาสุสานเป็นพยานยืนยันความจริงข้อนี้ ระหว่างการฝังศพ ถ้าสัปเหร่อจัดการกับศพอย่างไม่ระมัดระวัง ผู้ที่อยู่รอบข้างจะส่งเสียงประท้วง แต่ถ้าจะให้ความเป็นธรรมแก่ ลองจินัส (นี่คือชื่อที่ใช้เรียกทหารโรมัน ผู้แทงหอกทะลุสีข้างของพระเยซูเจ้า ขณะที่ทรงถูกตรึงกางเขน) เราก็ควรแก้ตัวแทนเขาว่า เขากำลังปฏิบัติหน้าที่ และเราอาจต้องถึงกับขอบคุณที่เขาไม่หักขาของพระองค์
ด้วยพระญาณสอดส่องของพระเจ้า การกระทำครั้งนี้จึงกลายเป็นประวัติศาสตร์ เพราะทำให้ปิตาจารย์ของพระศาสนจักรมีวัตถุดิบให้เขียนถึง และเทศน์สอน เพราะท่านเหล่านั้นได้เห็นความหมายทางฌานอันลึกซึ้งในพระโลหิต และน้ำที่ไหลออกมาจากสีข้างของพระองค์ บางคนเห็นว่าบาดแผลที่สีข้างนี้เป็นที่หลบภัย(โปรดทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในบาดแผลของพระองค์ นักบุญอิกญาซิโอ แห่งโลโยลา) ในยามที่เกิดปัญหา และมีภัย บางคนเห็นว่าเป็นทางที่นำไปสู่สวรรค์ และมีคนอื่น ๆ ที่มองเห็นพระหฤทัยของพระเจ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรัก การแทงที่สีข้างเป็นสิ่งที่ต้องกระทำก่อนที่ผู้บังคับบัญชากองร้อยจะออกใบรับรองว่าอาชญากรที่ถูกตรึงกางเขนนี้สิ้นใจแล้ว และการลงโทษได้สำเร็จลงแล้ว
ในศตวรรษที่18 มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางว่า หอกของทหารทำให้เกิดบาดแผลที่พระหฤทัยของพระเยซูเจ้าหรือไม่ โดยคุณพ่อ เดอ กัลลีเฟท์ เป็นผู้สนับสนุนทฤษฎีนี้ แต่จากหลักฐานของนักบุญยอห์น ที่จงใจให้รายละเอียดในพระวรสารของท่าน ดูเหมือนจะเป็นไปได้มากกว่าว่า พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพราะพระหฤทัยฉีก นักเขียนที่โด่งดังชื่อ จูเซปเป ริชีออตติ เขียนไว้ในหนังสือชื่อ Life of Christ ว่า นักกายวิภาควิทยาผู้มีความรู้ชาวอังกฤษ ได้พยายามอธิบายสาเหตุของพระโลหิต และน้ำ โดยตั้งสมมุติฐานว่า พระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแตกสลายจริง ๆ ก่อนที่จะถูกแทงด้วยหอก เขาอ้างว่า ถ้าหัวใจฉีกขาด จะเกิดการตกเลือดภายในถุงหุ้มหัวใจ และการแยกตัวของโลหิต เม็ดโลหิตแดงจะจมลงข้างล่าง และเซรั่มที่เป็นน้ำจะลอยอยู่ข้างบน ดังนั้น เมื่อถุงหุ้มหัวใจถูกเปิดออก ของเหลวทั้งสองชนิดจึงไหลออกมาแยกจากกัน (ส่วนล่างที่เป็นโลหิตจะไหลออกมาก่อน และตามมาด้วยส่วนบนที่เป็นน้ำ) ดังนั้น นักกายวิภาคจึงคิดว่าความตายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของพระเยซูเจ้าเกิดจากการฉีกขาดของหัวใจอันเป็นผลมาจากความทุกข์ทรมานด้านจิตใจ พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์เพราะหัวใจสลายอย่างแท้จริง อันมีสาเหตุมาจากความทุกข์ระทม (หน้า 643) Jerome Commentary กล่าวถึงจุดนี้ไว้เพียงประโยคเดียวว่า ปรากฏการณ์นี้มีคำอธิบายทางการแพทย์ (เทียบ A.F. Save 1954, 448-453)
แต่มีคำอธิบายนัยสำคัญทางฌานของเหตุการณ์นี้ไว้มากกว่านี้ ยอห์นถือว่านี่คือเครื่องหมายมากกว่า เมื่อพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์ และถวายคืนพระจิต ดังที่บ่งบอกไว้ใน ข้อ 30. งานสร้างชีวิตของพระศาสนจักรจึงเริ่มต้นขึ้น ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า พระศาสนจักรเกิดขึ้นจากบาดแผลที่สีข้างของพระคริสตเจ้า เป็นที่เชื่อถือกันมานานแล้วว่า น้ำและโลหิตคือเครื่องหมายของความรอด (6:53-57) และเป็นไปได้มากที่สุดว่า ยอห์นคาดหมายให้ผู้อ่านพระวรสารคิดถึงศีลล้างบาป และศีลมหาสนิทโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการแปลความหมายของปิตาจารย์โดยทั่วไป (Jerome Commentary 63:172)
นักปราชญ์สองคนของพระศาสนจักรตะวันตก คือนักบุญอัมโบรส และออกัสติน ก็แสดงความสนใจเป็นอย่างยิ่งกับทั้งบาดแผลที่สีข้าง และโลหิตและน้ำที่ไหลออกมาจากบาดแผลนั้น นักบุญออกัสตินเชื่อว่าการเปิดสีข้างของพระคริสตเจ้าด้วยหอก เป็นการเปิดประตูชีวิต ซึ่งก่อกำเนิดศีลศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร ประการที่สอง พระศาสนจักรเองก็มีแหล่งกำเนิดมาจากพระเจ้าผ่านทางบาดแผลศักดิ์สิทธิ์นั้น เอวาถูกสร้างขึ้นจากซี่โครงที่ถูกดึงออกมาจากสีข้างของอาดัมฉันใด พระศาสนจักรซึ่งเป็นเอวาทิพย์ (mystical Eve) ก็ถูกสร้างขึ้นจากสีข้างของพระคริสตเจ้าซึ่งเป็นอาดัมคนที่สอง และทรงเป็นบิดาแท้จริงของมนุษยชาติฉันนั้น
คำสอนข้อที่766 ของพระศาสนจักรคาทอลิกบรรจุคำอ้างจำนวนมากจากหลายแหล่ง ต้นกำเนิด และการเจริญเติบโตของพระศาสนจักรมีสัญลักษณ์เป็นพระโลหิตและน้ำ ที่ไหลออกมาจากสีข้างที่ถูกเปิดออกของพระเยซูผู้ถูกตรึงกางเขน (Lumen Gentium 3) เพราะขณะที่พระคริสตเจ้าบรรทมหลับในความตายบนไม้กางเขน ศีลศักดิ์สิทธิ์อันน่าพิศวงของพระศาสนจักรทั้งมวลได้หลั่งไหลออกมาจากสีข้างของพระองค์ (Sacrosanctum Concilium, ข้อ 5) เช่นเดียวกับเอวา ที่ถูกสร้างขึ้นจากสีข้างของอาดัมที่กำลังนอนหลับ พระศาสนจักรก็เกิดจากพระหฤทัยที่ถูกแทงของพระคริสตเจ้าผู้ทรงกำลังบรรทมหลับในความตายบนไม้กางเขน (นักบุญอัมโบรส ใน Luc. 2, 85-89)
นอกจากความเกี่ยวข้องทางฌานที่ปิตาจารย์ และปราชญ์แห่งพระศาสนจักรทั้งสองคนนี้ย้ำไว้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพระหฤทัยกับบาดแผลที่สีข้าง คือเหตุผลที่นักบุญเบอร์นาร์ด เขียนถึงบาดแผลที่สีข้างของพระเยซูเจ้าด้วยความรักยิ่ง หัวใจของนักบุญเบอร์นาร์ดเองดูเหมือนจะผูกพันกับพระหฤทัยของพระคริสตเจ้า ท่านร้องว่า ข้าพเจ้าได้พบหัวใจของกษัตริย์ของข้าพเจ้า และพี่ชายของข้าพเจ้า และของพระเยซูเจ้าผู้เป็นเพื่อนรักของข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะปรารถนาอะไรมากไปกว่านี้อีกในสวรรค์ หรือแสวงหาสิ่งใดมากไปกว่านี้บนโลก? โอ มันช่างประเสริฐ และน่ายินดีอะไรเช่นนี้ ที่ได้พำนักอยู่ในพระหฤทัยนี้! แม้ว่านักบุญเบอร์นาร์ด มีส่วนในการเผยแพร่ความศรัทธาต่อบาดแผลทั้งห้าของพระคริสตเจ้า แต่บาดแผลที่สีข้างไม่ได้มีความสำคัญอย่างโดดเด่นในความศรัทธานี้
คำยืนยันของนักบุญยอห์นผู้นิพนธ์พระวรสาร เกี่ยวกับบาดแผลที่สีข้างของพระเยซูเจ้าที่เกิดจากหอกของลองจินัส ควรกระตุ้นให้เราศึกษาความหมายของบาดแผลนี้ ซึ่งมีสัญลักษณ์ของตนเอง คือเป็นทั้งสัญลักษณ์ของความรัก และพระหรรษทาน นักบุญเบอร์นาร์ดเขียนไว้ในบทเทศน์ที่ 6 ใน Canticles ของท่านว่า พระเยซูเจ้าทรงยอมให้พระอุระของพระองค์ถูกหอกแทงจนเปิดออก เพื่อว่าบาดแผลภายนอกบนพระกายของพระองค์จะเผยความลับในพระหฤทัยของพระองค์ ซึ่งเท่ากับพูดว่าบาดแผลที่มองเห็นได้จะเตือนเราให้ระลึกถึงบาดแผลแห่งความรักที่มองไม่เห็นของพระองค์ หยดโลหิต และน้ำที่ไหลออกมาจากบาดแผลบอกเล่าอย่างชัดเจนถึงความใจกว้างของพระองค์ที่ได้สละพระองค์เพื่อความรอดของเรา ถ้าชาวยิวเชื่อว่าชีวิตอยู่ในโลหิต การหลั่งโลหิตจนถึงหยดสุดท้ายก็แสดงนัยว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นยัญบูชาเพราะความรักของพระองค์ต่อมนุษย์
จากสิ่งที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เราอาจสรุปได้ว่าบาดแผลนี้เป็นสัญลักษณ์ของพระหรรษทาน เพราะพระหรรษทานมีศีลศักดิ์สิทธิ์เป็นช่องทาง และศีลศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นช่องทางอันดับแรก และสำคัญที่สุดคือศีลล้างบาป ถ้าจะเพิ่มความคิดเห็นใด ก็คงเป็นความคิดเห็นจากนักบุญออกัสติน ว่า พระโลหิตหลั่งออกมาเพื่อลบล้างบาป น้ำผสมกับเหล้าองุ่นแห่งความรอด ทั้งสองสิ่งนี้ผสมกันกลายเป็นน้ำสำหรับอาบเพื่อชำระให้บริสุทธิ์ และเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น และสิ่งนี้นำเราจากศีลล้างบาปไปสู่ศีลมหาสนิท ซึ่งนำต้นธารแห่งพระหรรษทานมาสู่เรา คือพระเยซูคริสตเจ้า
» พระหฤทัยพระเยซู บุตรแห่งพระบิดานิรันดร
» พระหฤทัยพระเยซู ที่พระจิตทรงตกแต่งในครรโภทรแห่งพระมารดาพรหมจารี
» พระหฤทัยพระเยซู ร่วมสภาวะกับพระวจนาตถ์แห่งพระเจ้า
» พระหฤทัยพระเยซู ทรงมหิทธิศักดิ์ไม่มีขอบเขต
» พระหฤทัยพระเยซู วิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
» พระหฤทัยพระเยซู ตำหนักแห่งพระเจ้าสูงสุด
» พระหฤทัยพระเยซู เคหะของพระเจ้า และประตูสวรรค์
» พระหฤทัยพระเยซู เตาไฟโชติช่วงแห่งความรัก
» พระหฤทัยพระเยซู เครื่องรองรับความยุติธรรม และความรัก
» พระหฤทัยพระเยซู เปี่ยมด้วยคุณงาม และความรัก
» พระหฤทัยพระเยซู ขุมฤทธิ์กุศลทั้งปวง
» พระหฤทัยพระเยซู สมแก่คำสรรเสริญทุกประการ
» พระหฤทัยพระเยซู ราชา และศูนย์รวมแห่งดวงใจทั้งหลาย
» พระหฤทัยพระเยซู ขุมพระปรีชาญาณ และความรู้ทั้งปวง
» พระหฤทัยพระเยซู ที่ประทับแห่งพระเทวภาพครบบริบูรณ์
» พระหฤทัยพระเยซู ที่สบพระทัยแห่งพระบิดา
» พระหฤทัยพระเยซู ที่เราได้รับทานจากความบริบูรณ์ของพระองค์
» พระหฤทัยพระเยซู ความปรารถนาแห่งเนินเขานิรันดร
» พระหฤทัยพระเยซู ทรงอดทน และเมตตากรุณา
» พระหฤทัยพระเยซู ความมั่งคั่งสำหรับทุกคนที่มาวิงวอนพระองค์
» พระหฤทัยพระเยซู ธารแห่งชีวิต และความศักดิ์สิทธิ์
» พระหฤทัยพระเยซู ทรงชดเชยบาปของเรา
» พระหฤทัยพระเยซู ถูกสบประมาทอย่างท่วมท้น (Loaded with opprobrium)
» พระหฤทัยพระเยซู แหลกราญด้วยอาชญากรรมของเรา
» พระหฤทัยพระเยซู นอบน้อมจนสิ้นพระชนม์
» พระหฤทัยพระเยซู ถูกแทงด้วยหอก
» พระหฤทัยพระเยซู ธารความทุเลาบรรเทา
» พระหฤทัยพระเยซู ชีวิต และการคืนชีพของเรา
» พระหฤทัยพระเยซู สันติภาพ และการคืนดีของเรา
» พระหฤทัยพระเยซู ยัญบูชาไถ่บาปมนุษย์
» พระหฤทัยพระเยซู ความรอดของผู้วางใจในพระองค์
» พระหฤทัยพระเยซู ความวางใจของผู้ที่ตายในพระองค์


