วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>

พระอภัยมณี

ตอน ศรีสุวรรณพบนางเกษรา

นางแก้วเกษรา เมื่อถึงคราวจะได้คู่ได้สุบินนิมิต เมื่อตอนใกล้รุ่งจึงเรียกสี่พี่เลี้ยงมาเล่าความฝันให้ฟังว่า

ฉันฝันว่าวาสุกรีอันเกรียงไกร
เข้ามาในแท่นสุวรรณอันบรรจง
เกี่ยวกระหวัดรัดรอบอุราน้อง
ฉันร่ำร้องอยู่บนเตียงจนเสียงหลง
ฯลฯ

พี่เลี้ยงได้ฟังก็รู้ความ แต่จะบอกไปตรง ๆ ก็กลัวจะโกรธ จึงให้อ่านตำราฝัน ทายงูว่าจะได้คู่ ราชธิดาได้ฟังก็เกิดเขินอาย ต่อว่าพี่เลี้ยงที่ให้อ่านตำราฝัน แล้วไม่ยอมพูดด้วย

พี่เลี้ยงทั้งสี่ได้ออกไปพบสามมาณพกับราชกุมาร ดูแลทุกข์สุขเมื่ออยู่กับคนเฝ้าสวนสองคนตายาย แล้วกลับมารอเวลาจนเย็น จึงไปชวนราชธิดาไปชมสวนในเช้าวันรุ่งขึ้น

ฝ่ายพระนุชบุตรีศรีสวัสดิ์
จิตกำหนัดนึกคะนึงถึงบุปผา
บรรทมตื่นแต่งองค์อลงการ์
ผลัดภูษาจัดจีบกลีบประจง

ทรงสะพักสไบกรองลายทองริ้ว
สัมผัสผิวพระนลาฏวาดขนง
สร้อยสังวาลบานพับประดับองค์
ดังอนงค์นางสวรรค์ชั้นโสฬส
ฯลฯ

แต่งองค์เสร็จแล้วจึงไปทูลลาพระบิดาไปเล่นอุทยาน แล้วจึงพากันไปอุทยาน

ศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์พี่เลี้ยงเห็นนางในนับร้อยมาเที่ยวอุทยาน จึงชวนกันมาที่สวนขวัญตามที่ได้นัดแนะพี่เลี้ยงทั้งสี่นางเอาไว้ ได้เห็นพระธิดาเดินทางมาท่ามกลางสี่พี่เลี้ยง ก็ตกตะลึงในความงามของพระธิดาที่เพิ่งรุ่นสาวอายุสักสิบสี่ปี ฝ่ายศรีสุวรรณนั้น

ชำเลืองเห็นพระธิดาพะงางาม
ให้มีความพิสวาสจะขาดใจ
ด้วยคู่สร้างปางหลังแล้วอย่างนั้น
พอเห็นกันก็ให้คิดพิสมัย
ฯลฯ

ส่วนพระธิดานั้น เมื่อเห็นพราหมณ์น้อย

พอเนตรน้องต้องเนตรหน่อกษัตริย์
หวนประหวัดหวาดจิตคิดสงสัย
องค์ระทวยขวยเขินสะเทิ้นใจ
แฝงต้นไม้เมียงชม้อยคอยชายตา
ฯลฯ

ทั้งศรีสุวรรณและราชธิดา เมื่อได้พบเห็นกันดังกล่าวก็เกิดการอาลัยอาวรณ์ซึ่งกันและกัน

ความอาลัยใจวาบให้ปลาบปลื้ม
ตะลึงลืมหลงแลชะแง้หา
พระบุตรีลีลาศชำเลืองมา
ไม่เห็นหน้าพราหมณ์น้อยละห้อยใจ

พระพักตร์ผ่องหมองเหมือนเดือนพยับ
ด้วยจิตจับถึงมิตรพิสมัย
ลืมบรรดาข้าหลวงพวงดอกไม้
ถอนฤทัยทุกข์ถึงคะนึงครวญ
ฯลฯ

พระกอดเข่าเศร้าสร้อยละห้อยหวน
จนหลงครวญขับลำเป็นคำหวาน
โอ้เจ้าแก้วเกษรายุพาพาล
ไม่สงสารพี่บ้างหรืออย่างไร

เมื่อผันแปรแลพบก็หลบพักตร์
จะเห็นรักหรือไม่เห็นเป็นไฉน
บุราณว่ามิตรจิตก็มิตรใจ
จะกระไรอยู่มั่งยังไม่เคย
ฯลฯ

<< ย้อนกลับ || สารบัญ || หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย