วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน ศรีสุวรรณเกี้ยวนางเกษรา
หน้า 2
พระธิดาทราบความแล้ว แสร้งทำเฉไฉว่าพราหมณ์น้องต้องการบอกว่ารักพี่เลี้ยง แล้วก็ขอซื้อแหวนที่ศรีสุวรรณให้มา จากพี่เลี้ยง พร้อมกับบอกว่าจะตอบเพลงยาวที่ส่งมาให้สาสมกับที่จ้วงจาบ นางสี่พี่เลี้ยงจึงบอกว่า แหวนวงนั้นขอถวายให้แต่ขอแลกเปลี่ยนภูษาศรี ที่ทรงไปอุทยานเมื่อวานนี้ พระธิดาแกล้งทำไขสือว่าจะให้ แต่ห้ามเอาไปให้ใคร แล้วพระธิดาก็ทรงกลอนอักษรสนอง
ครั้นค่ำลงทรงกลอนอักษรสนอง
เขียนจำลองลงแผ่นกระดาษหนัง
ให้หักใบเต่าร้างที่กลางวัน
มาห่อทั้งดอกรักอักขรา ฯ
วันรุ่งขึ้นสี่พี่เลี้ยงก็ออกไปพบพราหมณ์มาณพทั้งสามและศรีสุวรรณ ที่สวนขวัญแจ้งเหตุการณ์ที่ผ่านมา แล้วมอบของที่พระธิดาฝากมาให้ แล้วลากลับไป ศรีสุวรรณนำกลอนอักษรสารของพระธิดามาอ่านให้สามพราหมณ์ฟัง
ศุภสารฉานสนองใบตองอ่อน
ซึ่งวิงวอนว่าไม่ขาดสวาทหวัง
ก็ขอบใจไมตรีดีกว่าชัง
ไม่ปิดบังบอกวงศ์พงศ์ประยูร
อันบุรีรัตนามหาสวรรค์
สารพันโภคัยทั้งไอศูรย์
ฯลฯ
ซึ่งเสี่ยงทายหมายมาดสวาทมา
มิเมตตาชีวันจะบรรลัย
ทั้งรำพันสรรเสริญเห็นเกินนัก
ถึงจะรักก็ไม่รักจนตักษัย
ที่ข้อนั้นครั้นละเชื่อก็เหลือใจ
เขาว่าไว้หวานนักก็มักรา
ถ้ารักนักมักหน่ายคล้ายอิเหนา
ต้องจากเยาวยุพินจินตรา
แม้นพระองค์ทรงเดชเจตนา
จงตรึกตราตรองความตามบุราณ
เสด็จกลับกรุงไกรไอศวรรย์
จึงจัดสรรทูตถือหนังสือสาร
มาทูลองค์ทรงศักดิ์จักรพาล
โปรดประทานก็จะได้ดังใจจง
ฯลฯ
ฝ่ายศรีสุดาพี่เลี้ยงคนหนึ่ง เคืองแค้นพี่เลี้ยงอีกสามคนซึ่งเป็นที่หมายปองของสามพราหมณ์มาณพ จึงไปฟ้องพระธิดาแล้วกล่าวหาสามพี่เลี้ยง ทั้งสองฝ่ายจึงโต้เถียงกัน พระธิดาต้องออกปากห้าม
เจ้าพราหมณ์น้อยอ่อนห้ามหรือพราหมณ์ใหญ่
เข้าเคียงไหล่โลมนางอยู่กลางสวน
ทำเกลียวกลมสมยอมซ้อมสำนวน
มาก่อกวนเกาแก้ที่แผลคัน
ฯลฯ
พระบุตรีกริ้วกราดตวาดว่า
นี่ใครมาหาให้พี่ตีหมากผัว
เฝ้าหวงหึงอึงไปช่างไม่กลัว
ไม่มีชั่วตัวดีทั้งสี่คน
อย่าทะเลาะกันที่นี่ให้มีฉาว
ไปว่ากล่าวถากถางกันกลางถนน
เหมือนไก่เห็นตีนงูเขารู้กล
มาพลอยบ่นปนแปดข้าน่ารำคาญ ฯ


