วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน พระอภัยมณีพบนางสุวรรณมาลี
กล่าวถึงพระอภัยมณีกับอยู่กับพระโยคี ก็ได้หัดภาษาฝรั่ง ทั้งจีน จาม จนพูดคล่องทั้งสองคน อยู่ต่อมาเกิดศรัทธาในธรรม จึงขอบวชกับพระโยคี พร้อมกัน
กล่าวถึงสำเภาท้าวสิลราช ถูกลมพัดลอยน้ำไปถึงสิบห้าคืน ก็มาถึงเกาะแก้วพิสดาร จึงพากันไปพบพระโยคี ได้ไต่ถามทุกข์สุขกันแล้ว พระโยคีก็เล่าเรื่องของพระอภัยกับที่ได้มาอยู่ที่เกาะนี้ ท้าวสิลราชได้ไต่ถามพระอภัยมณี ถึงเรื่องหนหลัง พระอภัยก็แจ้งให้ทราบทุกประการ ท้าวสิลราชทราบเรื่องวิชาเป่าปี่ของพระอภัยแล้ว ก็อยากฟัง พระอภัยจึงให้ลาสิกขา แล้วเป่าปี่ให้ฟังแทน
จึงลาศีลทรงภูษาผ้าสไบ
ถือปี่ไปยังสาลาหน้าคีรี
ประณตนั่งบังคลบรมนาถ
อยู่ริมอาสน์อัยกาตาฤๅษี
ภาวนาอาคมให้ลมดี
แล้วเป่าปี่แปลงเพลงวังเวงใจ
ทำแหบหวนครวญว่าสาลิกาแก้ว
ค่ำลงแล้วขวัญอ่อนจะนอนไหน
หนาวน้ำค้างพร่างพรมพนมไพร จ
ะหนาวใจสาลิกาทุกราตรี ฯ
บรรดาผู้ที่ได้ฟังเพลงปี่ต่างก็หลับกันหมด พระอภัยได้เข้าไปชมพระธิดาอย่างใกล้ชิด ก็เกิดความรักแล้วให้หยุดเป่าปี่ จากนั้นจึงไปตีระฆังปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้น พระโยคีบอกให้ไปขอเป็นบุตรพระธิดา ก็มีความยินดี พระธิดาก็รับไว้ จากนั้น ท้าวสิลราชก็ถามทางกลับเมืองจากพระโยคี พระโยคีพิเคราะห์ตามสังเกตุข้างเพทไสย ก็รู้ว่าพระอภัยจะได้คู่ ส่วนท้าวสิลราชและไพร่พลทั้งหลายจะวอดวาย เพราะกรรมตามมาทัน จึงกล่าวคำเป็นท่ามกลางว่า กรุงผลึกนั้นอยู่ทางทิศอีสาน เส้นทางที่ไปนั้นกันดารมาก ให้เอาเสบียงจากเกาะแก้วพิสดารเตรียมไปใช้
ฝ่ายพระอภัยได้ไปขออนุญาตพระโยคี ขอเดินทางกลับไปพร้อมกับพระธิดาและ พระโยคีจึงฝากพวกแขกฝรั่ง ที่ค้างอยู่บนเกาะไปด้วย โดยพระโยคีฝากไปกับท้าวสิลราช โดยที่พระอภัยยังอยู่ในเพศโยคี