วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>

พระอภัยมณี

ตอน พบศรีสุวรรณ

กล่าวถึงศรีสุวรรณกับแก้วเกษรา ครองนครรมจักร จนมีธิดาอายุได้แปดปีชื่อ อรุณรัศมี

เมื่อศรีสุวรรณจะได้พบหลาน ก็ได้ฝันว่าไฟไหม้ป่า ติดหลังคาบ้านช่องท้องสนาม ตนได้ออกไปดับไฟ แล้วกลับลามมาติดตามเนื้อตัว แล้วว่าพระเชษฐามาช่วยดับไฟได้ แล้วประทานดวงแก้วให้ โหรทำนายว่า ที่สุบินว่าไฟไหม้นั้น จะเกิดภัยรบพุ่งถึงกรุงศรี ส่วนที่พระเชษฐามาดับไฟ และประทานแก้วมณีนั้น แสดงว่าจะสิ้นเคราะห์ และจะได้ข่าวพระเชษฐา เป็นเรื่องที่ต้นร้ายปลายดี

ศรีสุวรรณฟังคำทำนายแล้ว ก็เห็นว่าท้าวอุเทนคงจะคิดอ่านยกทัพมาตีเมืองรมจักร จึงได้หารือกับสามพราหมณ์เตรียมการรับมือกับศัตรู โดยให้โมราไปอยู่ ณ ตำบลทางทิศตะวันออก ให้วิเชียรไปอยู่เมืองปราการเป็นฝ่ายเหนือ ส่วนเมืองทางตะวันตกเป็นทางบกให้สานนรักษาเมืองสายัณห์ ให้คุมพลคนละหมื่น วิเชียรกับนางจงกล โมรากับนางประภาวดี สานนกับนางอุบลต่างพากันไปตั้งอยู่ ณ เมืองทั้งสาม ซ่อมป้อมปราการ ฝึกทหารและวางกำลังคนไว้ตามด่าน

กล่าวถึงกำปั่นแล่นไปกลางสมุทร ตัดถนนพระรามข้ามแหลมเสี้ยว ก็ยังไม่ได้ข่าวเจ้ากรุงผลึก เดินทางค้นหาอยู่สามเดือนก็สิ้นเสบียง เหลืออยู่อีกไม่ถึงเดือน อังกุหร่าจึงทูลถามสองกษัตริย์ว่าจะทำประการใด

นางสุวรรณมาลีจึงถามว่าแต่ก่อนนี้หาข้าวปลามาได้อย่างไร อังกุหร่าทูลว่าแต่ก่อนก็ได้ปล้นชาวบุรี และเที่ยวตีเรือจนมีเงินทองข้าวของเหลือเฟือ แต่เมื่อได้สั่งห้ามไม่ให้จับเรือแพเหมือนแต่ก่อน จึงได้เกิดขัดสน นางจึงบอกว่าเงินทองของสุหรั่งยังมีอยู่มาก จะเอาไปซื้อหาของที่ต้องการไม่ได้หรือ อังกุหร่าทูลตอบว่า อันพวกพ้องโจรเรือเหมือนเสือกล้า ทุกถิ่นฐานบ้านเขตไม่เมตตา จะซื้อหาเห็นไม่ได้ดังใจจง

ใคร่จะหักหาญคึกจึงกราบทูลมารดาว่า ถ้าเมืองไหนใหญ่กว้างมีฉางข้าว ให้พวกเราขึ้นไปว่าซื้ออาหาร แม้นไม่ให้ไล่ขับให้อัประมาณ จึงรุกรานรบเร้าเอาธานี แล้วสั่งอังกุหร่าให้สังเกตดูทุกเมือง ถ้าเมืองใดใหญ่กว้างยุ้งฉางมี ก็ให้เข้าทอดสมอเรือที่ปากน้ำ

อังกุหร่าทูลว่าเรือของเราต้องตัดเข้าคุ้งค้อมอ้อมออกมา เป็นเมืองใหญ่แว่นแคว้นแดนเมืองรมจักรมีไพร่พลมาก แวะไม่ได้เพราะจะมีภัย แต่นึกสนุกบอกว่า ถึงเราจะมีกำลังน้อยก็ไม่ถอยหนี ถ้าขัดขวางก็จะเข้าตีชิงเมืองริบเอาข้าวปลา

<< ย้อนกลับ || สารบัญ || หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย