วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน พระอภัยมณีเกี้ยวนางสุวรรณมาลี
พระอภัยคิดถึงนางสุวรรณมาลี ออกเดินตามหานางไปในเรือ แต่ไม่ได้พบนาง
กล่าวถึง อุศเรนเตรียมยกทัพไปทำศึกได้เสร็จสรรพแล้วตรัสสั่ง สารวัดหัศเกนว่า
รบคราวนี้ตีทัพเหมือนจับเสือ
ถึงเสียเกลือแต่ให้ได้พิมเสน
ทหารเราเล่าก็หัดไว้จัดเจน
หัศเกนเห็นใครถอยมึงคอยแทง ฯ
จากนั้นได้ให้ เรือใช้ไปสืบข่าวข้าศึก ได้รับแจ้งว่าเรือใหญ่แล่นไปทางทิศพายัพ อุศเรนก็รู้ว่าพระอภัยยังไม่ไปเมืองรัตนา แต่เห็นจะไปเมืองผลึก จึงคิดตามไปแก้แค้น โดยจะตามไปให้อยู่เหนือลม เพื่อจะได้เผากำปั่นของข้าศึก แล้วออกเรือตามไป ตั้งแต่ตอนพลบค่ำ เรือได้ลมอุตราก็แล่นไปทันกำปั่นนางสุวรรณมาลี เมื่อตอนเที่ยงคืนเกิดรบกัน
อุศเรนเร่งโยธาเข้าตีจนถึงเรือใหญ่ จึงเอาไฟโยนเข้าใส่เรือ เกิดรบกันอุศเรนต้องอาวุธและแตกทัพ
บ้างทิ้งผ้าน้ำมันยางบ้างขว้างคบ
บ้างตลบปีนป่ายตะกายโหน
จนเพลิงพลุ่งรุ่งโรจน์ขึ้นโชติโชน
ทหารโจรรบรับบ้างดับไฟ
บ้างอุดช่องสองข้างเอาวางถัง
ให้น้ำขังดาดฟ้าชลาไหล
ถึงจะทิ้งเพลิงเผาสักเท่าไร
ก็ไม่ไหม้สำเภาเสากระโดง
ฯลฯ
ให้พลขึ้นยืนเยื้องยิงประดัง
ถูกพลลังกาตายเสียหลายพัน
ทั้งพระชงฆ์องค์อุศเรนหัก
เลือดทะลักลมถลาแทบอาสัญ
พอเกิดคลื่นลมกล้าสลาตัน
ตีกำปั่นพรัดพรายกระจายไป
ฯลฯ
ฝ่ายโยธีศรีสุวรรณ
ต้องอาวุธเจ็บป่วยม้วยตักษัย
ที่ยังเหลือเรือรบสำหรับใช้
ให้นับได้ห้าร้อยมาลอยเรียง
ฯลฯ
ไปตามเข็มเล็มเลี้ยวแหลมสุหรัด
แล้วแล่นลัดปากน้ำสำปั้นหนา
ล้อมถนนพ้นกำแพงลังกามา
หมายพาราผลึกแล่นตามแผน ฯ
อุศเรนแตกทัพแล้ว จึงหารือกับบรรดาฝรั่งนายทหาร ก็ได้รับคำแนะนำให้กลับไปรักษาองค์ที่กรุงลังกาก่อน แล้วค่อยคิดอ่านยกทัพกลับมาทำศึกใหม่ อุศเรนก็เห็นด้วย จึงให้เลิกทัพกลับไปลังกา