วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน พระอภัยตีเมืองใหม่
พระอภัยเมื่อรบชนะแล้วก็ปูนบำเหน็จผู้ที่มีความชอบในสงคราม ตามยศศักดิ์อัครฐานโดยถ้วนหน้าตั้งแต่ชั้นไพร่ขึ้นไป
ฝ่ายทหารพลเรือนได้เลื่อนที่
เจียดกระบี่ยศศักดิ์เครื่องปักขาว
เงินภาษีปีละแสนทั้งแดนดาว
ให้ยกคราวศึกมาถึงธานี
ถึงโยธาการะเวกเมืองรมจักร
ได้เงินทองของรักเป็นศักดิ์ศรี
พลทมิฬสินสมุทรฝีมือดี
ได้ของที่ต้องใจทั้งไพร่นาย ฯ
ฝ่ายเสนาเมืองการะเวกที่เป็นเอกอำมาตย์เห็นพระอภัยมีพระทัยสบายดีแล้วจึงได้ทูลมูลความว่า เจ้าเมืองการะเวกคิดถึงโอรสทั้งสาม ได้ให้คนติดตามมาจนกว่าจะได้พบพระอภัย แล้วให้ตนถวายราชไมตรี ขอให้สุดสาครได้ขึ้นครองเมืองการะเวก และเจ้าเมืองการะเวกประสงค์ที่จะให้พระอภัยเป็นเชษฐา
ประการหนึ่งพระองค์ประสงค์สนิท
บาทบพิตรภูวเรศเหมือนเชษฐา
แม้นบอกได้ได้ความจะตามมา
ร่วมสุธาสันทมิตรสนิทใน ฯ
พระอภัยตอบอำมาตย์เมืองการะเวกว่าได้ทราบเรื่องจากโอรส แล้วก็ขอบใจ และคิดที่จะได้รู้จัก และรักเหมือนญาติ ถ้าจะให้พระน้องมานั้นดูดังถือยศไม่งดงาม พระองค์ไปหาจึงจะชอบ
จะบอกไปให้พระน้องนั้นต้องมา
ดูดังว่าถือยศไม่งดงาม
เราจะไปให้ถึงจึงจะชอบ
เหมือนรักตอบตามสุภาพไม่หยาบหยาม
ฯลฯ
หลังจากนั้นได้มีผู้นำหนังสือลับมาแจ้งว่า บุตรท้าวเจ้าพาราสุลาไล ได้ยกกองทัพมาตั้งอยู่ที่ลังกา กับบุตรท้าวระเด่นที่เป็นแขก ถึงหน้าแล้งคงจะมาเข้าตีเมืองผลึก พระอภัยได้ฟังข่าวก็ร้อนพระทัย นึกสงสัยว่าบรรดาประเทศเขตแคว้นต่าง ๆ นั้น อยู่แห่งหนตำบลใดบ้าง จึงไต่ถามพราหมณ์พฤฒา
เมืองทมิฬถิ่นประเทศทุกเขตแคว้น
ในภูมิแผนที่มีกี่ภาษา
ได้ฟังถามพราหมณ์เฒ่าเจ้าตำรา
จึงวันทาทูลความตามโบราณ
อันวิสัยไตรเพทประเทศถิ่น
บูรพ์ทักษิณปัจจิมทิศและอิสาน
แผ่นดินงอกออกทุกวันเป็นสันดาน
เขาสร้างบ้านสร้างเมืองเนื่องกันไป
อันแว่นแคว้นแดนดินถิ่นมนุษย์
ไม่รู้สุดสิ้นอย่างต่างวิสัย
เป็นเหมือนแสนแผนที่ซึ่งมีไว้
จนถึงใกล้เขตถิ่นเมืองกินรา
ยังนอกนั้นตะวันตกยกขึ้นเหนือ
พูดเหมือนเนื้อนกคล้ายหลายภาษา
แต่พวกเขาเหล่าฝรั่งข้างลังกา
เคยไปค้าขายถึงทางครึ่งปี
ที่ยังนอกออกไปนั้นหลายเพศ
ว่าเขตเปรตอสูรกายแลพรายผี
ซึ่งทราบความตามอ่านพระบาลี
ในคัมภีร์ภูมิประเทศเขตสุธา ฯ
พระอภัยได้ฟังแล้วก็มีความวิตกเห็นว่า นางละเวงวัณฬา จะเชิญท้าวด้าวแดนมารบเมืองผลึกได้อีกมาก ชาวเมืองจะเดือดร้อน จึงคิดจะข้ามไปปราบปรามแคว้นสิงหล เหมือนตัดต้นปลายก็จะตายตาม ให้เสนาอำมาตย์เมืองการะเวกพาโอรสทั้งสามกลับไปเมือง เมื่อเสร็จสงครามแล้วพระองค์จึงจะตามไป แล้วให้อาลักษณ์เขียนสาร กับประทานบรรณาการไปถวายเจ้าเมืองการะเวก จากนั้นจึงให้พระอนุชากับเสนาเมืองผลึกให้เตรียมพล เพื่อจะข้ามไปลังกา แล้วชวนสุดสาครมาบอก จำต้องให้สุดสาครกลับไปเมืองการะเวก
จะแลลับกลับเป็นลูกเขาอื่นไป
เหมือนดวงใจพ่อนี้พรากไปจากทรวง
จะขัดขวางอย่างไรก็ไม่ชอบ
ด้วยเธอมอบรักใคร่มาใหญ่หลวง
มิให้ไปไพร่พลคนทั้งปวง
จะลามล่วงติโทษว่าโหดไร้
ฯลฯ
สุดสาครทูลตอบว่า จะขอลาไปทูลมูลเหตุแล้วจะพาพลกลับมาช่วยพระบิดารบกับกรุงลังกา สุดสาครพร้อมกับสองกุมารก็ทูลลาพระพี่ พระชนนี และพระเจ้าอา นางกษัตริย์รับขวัญแล้วร่ำอาลัยสุดสาครและสองกุมาร
แล้วโลมลูบจูบพักตร์รักเหมือนบุตร
ล้วนแสนสุดซื่อตรงน่าสงสาร
เมื่อเติบใหญ่ไหนก็คงเป็นวงศ์วาน
กอดกุมารรับขวัญกลั้นโศกา
ฯลฯ
แม่รักน้องของเจ้านั้นเท่าไร
ก็รักใคร่ตัวเจ้านั้นเท่ากัน
ขอฝากน้องสองหญิงอย่าทิ้งขว้าง
ให้เหมือนอย่างร่วมอุทรให้ผ่อนผัน
ฯลฯ
เมื่อสุดสาครและสองกุมารออกเดินทางไปแล้ว พระอภัยก็เตรียมเรือรบครบถ้วนตามกระบวนศึก ให้กับพระอนุชาเป็นกองหน้า พระอภัยคุมทัพหลวง พราหมณ์วิเชียรคุมปีกขวา พราหมณ์โมราคุมปีกซ้าย พราหมณ์สานนอยู่รั้งท้ายได้เรียกลม ให้พัดพาเรือออกเดินทางไปได้สิบห้าวัน