วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>

พระอภัยมณี

ตอน ศรีสุวรรณกับถูกเสน่ห์

หน้า 2

ศรีสุวรรณตรัสตอบไม่ถือโทษนาง ได้ตรัสเกี้ยวพาราสีนางด้วยประการต่าง ๆ แล้วถอดเพชรกุหร่าราคาพัน ให้รางวัลนาง ออกโอษฐประทานพานพระศรีแก่นาง

นางคำนับรับแหวนแสนสุภาพ
ทำเกรงกราบกิริยาอัชฌาสัย
ซึ่งออกโอษฐโปรดปรานประการใด
จะรับใส่เศียรสิ้นด้วยยินดี
ฯลฯ

นางก็ทูลถ่อมตนด้วยประการต่าง ๆ ทูลว่ามีรับสั่งให้มาเฝ้าแล้ว ขอให้พระอนุชาอ่านสารของพระอภัย ในสารนั้นมีความว่า พระเชษฐาประชวรจึงยังไม่ไปเมืองรัตนา ขอให้พระอนุชาไปเฝ้าพระชนกชนนีแทน ถ้าพระอนุชาสงสัยก็ขอให้ไปเยี่ยมพระองค์ในวัง ศรีสุวรรณอ่านแล้วก็รู้ทัน

พอเห็นเข้ามายังพลับพลาชัย จึงให้อ่านสารนั้น อ่านแล้วก็รู้ทัน จึงแกล้งพูดว่า เป็นโรคประหลาดดูอาการแล้ว ใกล้จะถึงสวรรค์ครรไล

พระอนุชาทัดทานนัดดาว่า อย่าได้กล่าวเช่นนั้นให้คอยฟังข่าวคราวดูก่อน แล้วแกล้งถามนางรำภาว่า เมื่อไรนางจึงจะออกมาบอกกันอีก นางรำภาทูลตอบว่า จะมาเฝ้าอีกได้ก็ต่อเมื่อสองกษัตริย์ จะโปรดใช้มา

ศรีสุวรรณตรัสเกี้ยวพาราสีนางรำภาอีก นางก็ทูลถ่อมตนด้วยประการต่าง ๆ ศรีสุวรรณจึงตรัสแก่นาง ให้ไปทูลพระมเหสีว่า จะไปเฝ้าพระเชษฐาพรุ่งนี้เช้า

ได้ฟังเห็นพระเจ้าอาสั่งซ้ำ จึงทูลว่าพระบิดาก็หลงคลั่งอยู่วังใน แล้วพระเจ้าอายังจะไปเข้าซองเป็นสองโรงอีก

แต่ศพเดียวเคี่ยวเข้มก็เต็มปล้ำ
ยังจะซ้ำตายต้องเป็นสองศพ
จนชั้นอีขี้ข้าไม่น่าคบ
ขืนเร้ารบรักใคร่เป็นไมตรี ฯ

พระอนุชาจึงตรัสกับว่า ไม่ต้องการให้ฝ่ายเขาอดสู ชั่วดีอย่างไรก็รู้อยู่

ก็ปราศัยไต่ถามไปตามเล่ห์
มาโมเวว่ากล่าวให้ร้าวฉาน
วิสัยชายหมายชู้คู่สำราญ
ก็เกี้ยวพานพูดจาให้น่าฟัง

เขาบอกกล่าวข่าวไข้มิไปเยี่ยม
ผิดธรรมเนียมเยี่ยงอย่างแต่ปางหลัง
ฯลฯ

แล้วศรีสุวรรณก็ให้ยกหีบทองเข้าไปในห้องไขประแจดู เห็นเครื่องต้นสุคนธ์ธารกับผ้าเช็ดหน้า ก็ต้องมนต์ของนาง กับสามพราหมณ์พี่เลี้ยง หมอบดูอยู่เห็นอาการของศรีสุวรรณแล้ว ก็ทูลเตือนให้ได้คิด แต่ศรีสุวรรณไม่ฟังคำจึงกลับมาปรับทุกข์กันว่า จะคิดอ่านแก้ไขอย่างไรดี เห็นว่าตอนนี้ต้องปล่อยไปก่อน พอปลายปีจึงจะมีผู้มาช่วย บอกว่า จะต้องตามไปช่วยระวัง ให้สามพราหมณ์คุมไพร่พลไปอยู่ที่ประตูวัง เมื่อพลาดพลั้งจะได้แก้ไขกัน

เจ้าพราหมณ์ตอบชอบอยู่อย่าดูหมิ่น
ชาติทมิฬเหมือนยักษ์มักกะสัน
แต่ครั้งนี้ฉันเห็นไม่เช่นนั้น
เป็นกลกันช้างโขลงเข้าโรงใน

จะทำต่อล่อลวงเหมือนบ่วงดัก
ด้วยความรักรัดตีนดิ้นไม่ไหว
พรุ่งนี้พระจะรักษาพระอาไป
ที่วังในนั้นเหมือนหลงเข้าดงรัก
ฯลฯ

แม้หลงเลยเชยชมเข้าสมทบ
เหมือนสองศพแล้วมิหนำยังซ้ำสาม
อันพวกพลมนตรีกับพี่พราหมณ์
จะถึงความมรณาชีวาลัย ฯ

บอกว่าในชาตินี้ตนไม่หลง แม้มีนางฟ้ามาล่อก็ไม่พอใจ จะตบเสียให้ย่อยยับไป แต่การที่พระอามาเป็นไปเช่นนี้ เป็นการเสียศักดิ์ศรีและน่าอดสู จะแก้ไขอย่างไรก็สุดรู้

ฝ่ายนางรำภามาถึงวังก็ไปทูลแถลงแจ้งคดีแก่องค์วัณฬาทุกประการ

นางละเวงเกรงกริ่งลงนิ่งตรึก
เห็นเสร็จศึกสมมาตปรารถนา
จึงว่าเจ้าเอาธุระที่พระอา
นางยุพาข้าจะวานผูกหลานไว้
ฯลฯ

แล้วนางกษัตริย์ก็ไปหานางยุพา เล่าความตามที่นางรำภาเล่าให้นางคิดอ่าน เอาไปขังไว้ในวัง

เจ้าช่วยล่อพอละเลิงด้วยเชิงรัก
คอยรับพักตรผูกจิตพิสมัย
พระมนต์ขลังสั่งสอนแต่ก่อนไร
ผู้ใดใกล้ได้กลิ่นก็ยินดี ฯ

นางยุพาได้ฟังก็สุดที่จะขัดคำได้ จึงทูลตอบว่าตนไม่รักยักษ์มาร แต่ถ้าลวงล่อพอให้ตายก็ยินดีทำได้ องค์ละเวงจึงว่ากล่าวแก่นางว่า ถ้าไปฆ่าก็จะเป็นที่ระคายเคืองแค้น เกิดทุกข์เข็ญ เพราะเหตุว่าเชื้อสายตายไม่หมด

อันสตรีนี้จะเลือกรูปบุรุษ
ก็ยากสุดแสนเข็ญไม่เป็นผล
เหมือนหนึ่งแม่แต่แรกไม่แปลกปน
แต่จำจนด้วยเจ้าทำให้จำเป็น
ฯลฯ

นางยุพาได้ฟังก็ยอมรับคำทำตาม

นี่เหล่ากอหน่อเนื้อเป็นเชื้อแถว
ไม่เลือกแล้วลูกจะรักให้หนักหนา
ถึงจะเถือเนื้อกินไม่นินทา
พระแม่อย่าเคืองขัดถึงตัดรอน ฯ

นางชื่นชอบตอบว่าอย่าประชด
เมื่อถึงบทกลัวจะรักไม่พักสอน
พรุ่งนี้ผัวตัวจะมาหาบิดร
เจ้าจงงอนให้ออกชดเป็นรถทรง

นางกษัตริย์มาเฝ้าพระอภัย ทูลแนะนำเรื่องที่จะกระทำในวันรุ่งขึ้น

<< ย้อนกลับ || สารบัญ || หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย