วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>

พระอภัยมณี

ตอน นางสุวรรณมาลีหึงหน้าป้อม

นางสุวรรณมาลี เมื่อสุดสาครเข้าไปเมืองลังกาแล้วก็เฝ้าคอยหา พอเห็นหัสไชยกลับมา ทูลความให้ทรงทราบว่า สุดสาครไปสมสู่อยู่กับนางสุลาลีวัน ก็เสียใจยิ่งนัก รำพันว่าถ้าไม่ห่วงพระธิดาก็จะกลืนยาพิษเสียให้บรรลัยวาญ

อยู่เป็นคนทนอายนั้นหลายอย่าง
อุราพ่างเพียงระบมด้วยคมขวาน
ยิ่งคิดแค้นแม้นกายจะวายปราณ
คำโบราณว่าเอาชื่อให้ลือชา
ฯลฯ

แม้ไม่เลี้ยงเที่ยงแท้แล้วแม่นี้
ถวายชีวีตามความประสงค์
จะเชือดคอให้ตายทำลายลง
จำเพาะตรงพักตราพระสามี ฯ

แล้วสั่งพราหมณ์สามนายอยู่ค่ายใหญ่
เราจะไปรบพุ่งชาวกรุงศรี
ทหารเราชาวผลึกล้วนฝึกดี
ช่วยกันตีชาวลังกาค่าอย่าช้านาน
ฯลฯ

ให้ทหารเดินทัพขับพลโห่
ทหารโล่เขนดั้งหน้าหลังสลอน
ประโคมฆ้องกลองแห่สังข์แตรงอน
เสียงสะท้อนสะท้านทุ่งมากรุงไกร ฯ

เมื่อกองทัพยกมาถึงที่ป้อมก็หยุดรถทรงตรงหน้าพลับพลานอกปราการ พระมเหสีจึงตรัสสั่งให้หัสไชยเข้าไปทูลแจ้งจอมกษัตริย์ว่าจะขอเข้าเฝ้า ถ้าไม่ให้พบจะทำสงคราม

หัสไชยรีบอภิวาทแล้วก็เข้าไปในวัง ขึ้นไปบนมณเฑียร ทูลสองกษัตริย์ให้ทราบตามเนื้อความหลัง

พระอภัยใหลหลงทรงพระสรวล
เฝ้ารบกวนเกรงมเหสี
ให้พวกเราเข้าสู้ดูสักที
ไหนจะตีเข้าได้ในประตู ฯ

นางละเวงเกรงศึกทีฮึกหึง
จะอื้ออึงอัปยศให้อดสู
คิดผ่อนปรนกลศึกฝึกต่อครู
จะลองสู้ศึกรักให้หักทบ
ฯลฯ

คิดจะออกรับหน้าพาผัวไปยั่งเล่น ให้คนขี้หึงต้องหมองใจ แล้วแกล้งว่าเมื่อเขามาพบก็ขอให้พระองค์ออกไปรับ

แม้จะรักครองสัตย์จงตัดเขา
มิโปรดเกล้ายั่งยืนจงคืนกลับ
จะตามไปให้เห็นกายนางนายทัพ
ได้ยินกับสองหูดูกับตา

หรือว่าพระจะไม่ไปอย่างไรเล่า
พลางหยิกเพลาเป่ามนต์ดลคาถา
พระโอนอ่อนผ่อนผันตามวัณฬา
ไปสิพากันไปล้อให้พอการ ฯ

องค์ละเวงรับสั่งพระอภัยแล้วก็ออกมาเตรียมกำลังแต่งองค์ทรงเครื่อง แล้วเชิญให้พระอภัยทรงเครื่อง

ล้วนเครื่องดำสำคัญวันอาทิตย์
ตามจริตศักราชพระศาสนา
อร่ามเรืองเครื่องสำหรับประดับประดา
พระมาลาสวมสอดใส่ยอดเพชร

ทรงรองบาทชาติฝรั่งนวมหนังนุ่ม
พระชงฆ์หุ้มคลุมสนับแล้วสรรพเสร็จ
กระบี่พระองค์ทรงกุดั่นกัลเม็ด
แล้วเสด็จนำนางจากปรางค์ทอง
ฯลฯ

เห็นกองทัพนับหมื่นดูดื่นดาษ
วรนาฎนางกษัตริย์ทรงรถา
เห็นลูกน้อยสร้อยสุวรรณ
จันทรสุดา ชลนาแนวนองจะร้องทัก

กลับเคลิ้มองค์หลงลืมพระลูกแก้ว
จักแล้วก็ดูไม่รู้จัก
นางเสแสร้งแกล้งเมียงเข้าเคียงพักตร
ทำชวนชักชี้ให้ดูหมู่โยธา
ฯลฯ

ฝ่ายโฉมยงนงลักษณ์อัคเรศ
ทอดพระเนตรบนพลับพลาหลังคาสี
ไม่รู้จักพักตรพระอภัยมณี
ด้วยภูมีเหมือนฝรั่งเมืองลังกา

นีกว่าใครไหนหนอมาคลอหญิง
ดูเย่อหยิ่งกั้นกลดมียศถา
สองนงเยาว์เข้าชิดทูลกิจจา
พระบิดานะพุคะพระชนนี
ฯลฯ

ยิ่งแสนแค้นแน่นอัดตรัสไม่ออก
เหมือนเสี้ยนยอกเนตรสลายทั้งซ้ายขวา
สุดจะขืนกลืนกลั้นตันอุรา
ทรงโศกากรรมเอ๋ยไม่เคยเป็น
ฯลฯ

พระอภัยได้เห็นพักตร์อัคเรศ
ยังชื่นเนตรนึกคิดสนิทสนม
พอลูกสาวเจ้าลังกาเป่าอาคม
เคลิ้มอารมณ์รื้อค้อนว่างอนเกิน

กระต่ายแก่แร่ข้ามมาตามติด ช่างไม่คิดขวยอายระคายเขิน
เขาเบื่อใจไม่อยู่จนสู้เมิน มาก้ำเกินดูเบาเพราะเมามัว
ฯลฯ

ได้เริดร้างต่างคนก็ต่างอยู่
ยังไม่รู้สึกตัวมามัวหึง
ชะร้องไห้ไม่ฟื้นสะอื้นอึง
ชาติหน้าจึงจะช่วยปลอบให้ชอบใจ

มเหสีตีทรวงเข้าฮักฮัก
อกมิหักแล้วหรือกรรมจะทำไฉน
นางแสนแค้นแสนละห้อยน้อยพระทัย
สลบไปแล้วเป็นครู่จึงรู้องค์
ฯลฯ

ไม่มีโทษโกรธตรัสถึงตัดขาด
เหมือนพระบาทฟาดฟันบั่นเกศา
แต่ลูกน้อยสร้อยสุวรรณ จันทร์สุดา
มาวันทาพระไม่ทักเลยสักคำ
ฯลฯ

อันฝรั่งลังกาเป็นข้าศึก
ไม่เคยนึกว่าพระองค์จะหลงไหล
แม้พวกอื่นหมื่นแสนทั้งแดนไตร
น้องมิได้ข้องขัดพระอัชฌา

นี่ศัตรูงูพิษมันคิดคด
ให้เสียยศเสียชาติพระศาสนา
เสียโอรสหมดทั้งพระอนุชา
แต่ธิดาเด็กนิดยังคิดชัง ฯ

<< ย้อนกลับ || สารบัญ || หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย