วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>

พระอภัยมณี

ตอน นางเสาวคนธ์ยิงแก้ม

ฝ่ายองค์วัณฬาเสียสองหน่อนาถไปเหมือนในฝัน จึงปรับทุกข์กับนางรำภาผกา สุลาลีวัน แล้วคิดถึงบาทหลวงจะไปหาเพื่อขอวิชาช่วย แล้วจึงพากันไปหาบาทหลวง บาทหลวงเห็นก็ร้องด่าทั้งสี่นางด้วยประการต่าง ๆ และต่อว่าองค์วัณฬาว่า

ครั้นมาถึงมึงครองไอศูรย์
ผ่าประยูรเสียศักดิ์กูรักหลง
เสียดายเหลือเชื่อกษัตริย์ขัตติยวงศ์
ไม่ดำรงรักศักดิ์รักแต่ตัว
ฯลฯ

นางได้เล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฟัง แล้วหยิบธงกับดอกไม้ให้บาทหลวงดูด้วยอยากรู้ความ บาทหลวงเห็นอักษรผิดกับของลังกาและสยาม เคยเรียนรู้มาว่าเป็นภาษาพราหมณ์ แล้วอ่านตามปริศนา พออ่านออกดอกไม้นั้นก็ร่วงยับลง จากนั้นจึงดูธงยันต์ที่ประจุเสกล้างเสน่ห์ ก็รู้ว่าทิศาปาโมกข์ผู้วิเศษเมืองการะเกด เสกมาให้จึงนึกใคร่จะลองฤทธิ์ไม่คิดกลัว แล้วจึงให้ทั้งสี่นางทำสัตย์ปฎิญาณ

ทั้งสี่นางรับคำแล้วทำสัตย์
ไม่ข้องขัดคิดคดให้อดสู
มิสัตย์ซื่อถือมั่นกตัญญู
พระเยซูจงสังหารผลาญชีวี ฯ

แล้วบาทหลวงก็จัดทำพิธีให้บรรดาผัวของสองนางกลับมา

จะต้องเชือดเลือดอกออกประสม
กับน้ำนมฝิ่นเสกเมฆฉาย
แม้ใครกินโลหิตไม่คิดกาย
รักจนตายทั้งชาติไม่คลาดคลา

ในตอนค่ำให้ยุพาผกากับสุลาลีวัน เอายาพาย่องตอดดอดออกไปเป่ามนต์สะกดทัพ ถ้าไม่หลับสองนางยิงเกาทัณฑ์ข้ามมันไป พอมนต์ไสยเสื่อมหายให้พรายทับ แล้วให้เอายาทาลิ้นสินสมุทรกับสุดสาคร ทั้งที่นอนหลับ แล้วปลุกให้ตื่นกลืนน้ำนมอาคมลงไปก็จะรักกลับตามมา องค์ละเวงกับนางรำภาก็ทำอย่างสองนางเช่นกัน

ฝ่ายทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์
เสกทรายเวทอาถรรพ์ให้กันผี
โรยรอบค่ายควายธนูประตูมี
ในราตรีตรวจตราเรียกหากัน
ฯลฯ

ฝ่ายสุวรรณมาลีปราณีบุตร
กลัวจะไม่ชื่นคิดคืนหลัง
เหมือนนกผู้คู่พรากมาจากรัง
ใจจะยังปั่นป่วนถึงนวลนาง
ฯลฯ

ฝ่ายยุพาผกาสองพี่น้อง เมื่อถึงยามสองต่างพากันขึ้นม้าออกไปนอกกำแพง ให้ย่องตอดแต่งตัวนำช่วยกำบัง พอมาถึงที่ฝังอาถรรพ์เป็นควันโพลง เหมือนเพลิงลามไหม้ ย่องตอดกระโดดหลบหลีกไป ม้าของสองนางต่างก็เต้นตะโพงฉุดรั้งไว้ไม่อยู่ พอออกห่างจากค่ายเพลิงก็ดับหมด สองนางกับย่องตอดจึงกลับมายังพลับพลา แล้วยิงธนูข้ามหลังคาพราหมณ์ ภูมิเจ้าที่ก็หนีออกนอกพลับพลา

พอเสื่อมมนต์คนเล่นเห็นประหลาด
เสียงหวีดหวาดเฝืองฝาหลังคาไหว
ย่องตอดเข้าเป่ามนต์ดลฤทัย
ทั้งนายไพร่สามทัพหลับระเนน
ฯลฯ

สองพี่น้องขับม้าเข้าไปพร้อมย่องตอด เข้าประตูธนูควาย มันขวิดย่องตอดจนกระดูกแหลกแต่กลับหาย

แล้วฟันฟาดพลาดมือกระบือสู้
สองนางรู้แยบคายว่าควายหมอ
ง้างธนูคู่มือแล้วถือรอ
หมายแต่พอตรงข้างสองนางยิง

พอถูกควายหายเห็นเป็นเส้นตอก
มนต์ต้องออกหนีธนูอีผู้หญิง
พลทั้งหลายนายไพร่ไม่ไหวติง
ระเนนนิ่งนอนหลับทุกทัพชัย

แต่ปาโมกข์โลกเชษฐวิเศษขลัง
ร่ายมนต์บังนิ่งระงับไม่หลับใหล
แต่ความรู้ผู้หญิงแก้สิ่งไร
ก็เสื่อมไปเป็นว่าแก้ได้แต่ตัว ฯ

สองนางเข้าไปหาสินสมุทรกับสุดสาคร จนพบแล้วใส่ยาที่เตรียมมาทั้งสองหน่อกษัตริย์ก็กลับหลงใหลในตัวนาง แล้วสองนางก็พาสองหน่อกษัตริย์กลับเข้าวังใน นางสุลาลีวันได้เขียนหนังสือทำลายมือให้เหมือนสุดสาคร วางไว้ข้างเสาวคนธ์ มีความกล่าวค่อนว่าเสาวคนธ์ด้วยประการต่าง ๆ ก่อนจะพาสุดสาครไป

ครั้นรุ่งขึ้นฤทธิ์มนต์สร่างต่างพากันเที่ยวหา สุดสาคร นางเสาวคนธ์ได้อ่านลิขิตที่นางสุลาลีวันแปลง เป็นสารของสุดสาครแล้วก็เสียใจ จนคิดจะฆ่าตัวตาย

เดี๋ยวนี้พี่เข้ารีตฝรั่งแล้ว
จะคลาดแคล้วเสาวคนธ์อย่าหม่นหมอง
จะรับเจ้าเข้ามาเลี้ยงเคียงประคอง
ฝรั่งสองเมียห้ามบอกตามจริง
ฯลฯ

หรือรักเราเจ้าไม่กลับจะรับเลี้ยง
อย่าทุ่มเถียงทะเลาะเขาเป็นเจ้าของ
จงวันทาลาลีเป็นที่รอง
จะเลี้ยงสองไว้สักครั้งที่ลังกา ฯ

พอจบคำนางรำพึงคะนึงคิด
ความนี้ผิดทรงเดชพระเชษฐา
ชะรอยอีลีวันมันมารยา
มาแกล้งว่าจะให้ขาดญาติวงศ์
ฯลฯ

เป็นสาวแส้แร่วิ่งมาชิงผัว
อันความชั่วดังเอามีดมากรีดหิน
ถึงจะคิดปิดหน้าสิ้นฟ้าดิน
ก็ไม่สิ้นสุดอายเป็นลายลือ

มิขออยู่สู้ตายวายชีวิต
นางชักกริชข้างองค์มาทรงถือ
คิดจะแทงที่คอแล้วรอมือ
อารมณ์รื้อรักน้องเป็นสองใจ
ฯลฯ

<< ย้อนกลับ || สารบัญ || หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย