วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>

พระอภัยมณี

ตอน กษัตริย์สามัคคี

หน้า 2

เมื่อได้ยินเสียงปี่องค์ละเวงจึงหารือกับอาจารย์สังฆราชว่าควรกลับไปหาหรือว่าหลบไปเสีย พระบาทหลวงบอกให้กลับไปหา แล้วขอให้พระอภัยไปรบกับพี่น้อง

จะตั้งจิตคิดอ่านที่ราญรอน
ไปวิงวอนว่าผัวให้มัวมนต์
จะฆ่าตีพี่น้องพวกพ้องเขา
คงตามเราสารพัดไม่ขัดสน
ฯลฯ

ทั้งสี่นางต่างเข้าไปเฝ้าผัว
ทำสั่นรัวกลัวแกล้งกันแสงศัลย์
นางวัณฬาว่าพระองค์ให้พงศ์พันธุ์
มาฆ่าฟันไพร่ฟ้าไม่ปราณี
ฯลฯ

พระฟังนางทางว่านิจจาเอ๋ย
อย่าแคลงเลยพี่ไม่ทิ้งมิ่งสมร
ซึ่งเผ่าพงศ์วงศ์วานมาราญรอน
มีโทษกรณ์กฎหมายถึงวายวาง
ฯลฯ

ฝ่ายองค์ละเวงเห็นพระอภัยเมามัวมนต์จึงทูลให้พระอภัยเป่าปี่

พระโปรดเกล้าเป่าปี่ขึ้นดีกว่า
ให้โยธาทั้งหลายหญิงชายหลับ
พอให้หลายปราบปรามทั้งสามทัพ
เพียงแต่จับเอาไปส่งเสียคงคา ฯ

องค์ละเวงออกมาลอบสั่งชาวลังกาให้หาดินปืนและฟืนไฟ เมื่อเห็นกองทัพหลับสิ้นแล้วให้เอาดินออกไปจุดไฟคลอกทั้งกองทัพ แล้วให้สามกองทัพไปตั้งอยู่ชายทุ่งริมกรุง แล้วไปทูลความแก่พระอภัยมณี พระอภัยจึงตรัสสั่งน้องกับโอรสรวมทั้งยุพา สุลาลี และสะหรี ยกกำลังไปช่วยล้อมไว้

พวกฝรั่งลังกามัดหญ้าแฝก
บ้างก็แบกดินปะสิวหิ้วเขนง
จะไปเผาผัวไม่กลัวเกรง
นางละเวงสมถวิลก็ยินดี
ฯลฯ

ฝ่ายเก้าองค์พงศ์กษัตริย์ ให้พราหมณ์จัพลรบคอยป้องกันตนแล้ว พอได้รับแจ้งจากกองนอกว่าฝ่ายลังกายกพลออกมาเป็นอันมาก ท้าวทศวงศ์เห็นว่า ผู้คนฝ่ายพระองค์มีน้อยควรจะถอยหนี แต่พระมเหสีกับองค์เกษราขอสู้ตาย ท้าวทศวงศ์สงสารจึงตกลงใจอยู่รบไม่หลบหนี แต่เกรงปี่พระอภัย จะทำให้กองทัพหลับ จึงไปปรึกษาปาโมกข์โลกเชษฐ ปาโมกข์จึงคิดหาทางช่วยด้วยวิธีการต่าง ๆ

แต่จะช่วยด้วยวิชาสถาผล
อย่าให้คนเข่นฆ่าให้อาสัญ
ซึ่งเป่าปี่ขี้ผึ้งก้อนหนึ่งนั้น
เอาปิดกรรณเสียเห็นไม่เป็นไร
ฯลฯ

แล้วบอกว่าจะไปทำพิธีเชิญโยคีที่เกาะแก้วมาช่วย

แม้โยคีมิช่วยจะม้วยมอด
เอาตัวรอดเถิดท้าวเหล่าทหาร
ข้าจะอยู่ภูผาสมาทาน
กระทำการแก้ไขช่วยไพร่พล

แม้ข้าศึกมาอย่าเพ่อรบสงบอยู่
คอยเปิดหูดูสังเกตซึ่งเหตุผล
พระองค์กับมเหสีนีฤมล
เสาวคนธ์กับกษัตริย์หัสไชย
ฯลฯ

ให้ออกท้ามทัพรับพระอภัย ถ้าคลุ้มคลั่งเข้าชิงชัยจึงปล่อยให้ปักษาเข้าราวี แล้วเสกเข็มให้ใส่พกไว้จะกลายเป็นนกการวิกคอยจิกผี เสกสายกายสิทธิ์ให้ไพร่พลไว้จะได้คงกะพัน และแคล้วคลาด จากนั้นก็พาเด็กขึ้นไปบนเขาตั้งพิธีถึงพระฤๅษี

จึงจุดเทียนเขียนชื่อพระฤๅษี
ทำพิธีตั้งสัตย์อธิษฐาน
เอาจิตวางทางกสิณอภิญญาณ
ไปถึงท่านโยคีผู้ปรีชา ฯ

ฝ่ายลูกสาวเจ้าลังกา นางรำภาสะหรี นางผกา และสุลาลี ยกไพร่พลโยธาออกมาพร้อมสามี พอมาถึงค่ายใหญ่ก็เข้าล้อมไว้

ฝ่ายท้าวทศวงศ์ พระมเหสีและพระธิดา และพระหลานขึ้นทรงรถ มีสามพรามหณ์คอยรายระวัง ตรงออกไปยังทัพศรีสุวรรณ บอกฝรั่งว่าเจ้าเมืองรมจักรให้หาพระอนุชาลังกาพร้อมกับนางรัมภา พวกฝรั่งล้อมรถไว้แต่ไม่กล้าทำอันตรายด้วยเกรงเห็นว่าเป็นพงศ์พันธุ์ เกรงตนจะได้รับโทษทัณฑ์ จึงบอกต่อไปให้ทูลศรีสุวรรณ ศรีสุวรรณพร้อมนางรำภา สะหรี ออกมาเห็นพระบุตรีพร้อมชนนี ปิตุเรศ ก็รู้สึกองค์ลงจากม้าที่นั่ง แต่นางรำภาเข้าเป่าคาถาก็กลับคลั่งขึ้นหลังม้า แล้วตวาดไล่ลูกเมีย องค์เกษราเสียใจบอกว่านางจะยอมเป็นข้านางรัมภา ฝ่ายองค์อรุณรัศมีกลับแค้น

นางอรุณลมแค้นว่าแสนชาติ
กูหาปรารถนาเป็นข้าไม่
ถึงบิดาฆ่าฟันให้บรรลัย
กูก็ไม่คบหาสมาคม ฯ

นางรำภาตอบคำอรุณรัศมี หาว่านางเกี้ยวพระบิดา ท้าวทศวงศ์จึงตรัสห้ามหลานไว้ว่าอย่าไปพูดจากับทาสี ศรีสุวรรณนั้นฟั่นเฟือนคิดได้แล้วก็กลับไหลหลงใหม่ พราหมณ์พี่เลี้ยงจึงเข้าพูดจาปลอบศรีสุวรรณ

<< ย้อนกลับ || สารบัญ || หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย