วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน กษัตริย์สามัคคี
หน้า 4
ฝ่ายพวกนางละเวงก็เกรงหมด บรรดาไพร่พลได้ฝนช่วยจึงไม่ตาย แล้วก็พากันแลดูพระมุนี พระโยคีจึงเทศนาว่า
ถือรูปรสกลิ่นเสียงไม่เที่ยงแท้
ย่อมเฒ่าแก่เกิดโรคโศกสงสาร
ความตายหนึ่งพึงให้เห็นเป็นประธาน
หวังนิพพานพ้นทุกข์สนุกสบาย
ซึ่งชาวเมืองเคืองเข็ญถึงเช่นนี้
เพราะโลกีย์ตัณหาพาฉิบหาย
อันศีลห้าว่าอย่าทำให้จำตาย
จะตกอบายภูมิขุมนรก
ฯลฯ
อย่าโกรธขึ้งหึงสาพยาบาท
นึกว่าชาติก่อนกรรมจะทำไฉน
เหมือนดุมวงกงเกวียนวนเวียนไป
อย่าโทษใครนี่เพราะกรรมจึงจำเป็น
ประการหนึ่งซึ่งขาดพระศาสนา
ทั้งโลกาเกิดทุกข์ถึงยุคเข็ญ
ซึ่งจะกลับดับร้อนให้ผ่อนเย็น
ก็ต้องเป็นไมตรีปรานีกัน
ฯลฯ
อย่าโทษเขาเราก็ผิดให้คิดเห็น
จึงจะเป็นสัตย์ธรรม์ในสัณฐาน
จะปรองดองครองสัตย์ปฏิญาณ
ถือศึลทานเถิดอย่าหมายทำลายกัน
ฯลฯ
ฝ่ายกษัตริย์ขัตติยาสิบห้ากษัตริย์
ต่างจบหัตถ์สาธุสะพระฤๅษี
โปรดปรึกษาว่าให้เห็นเป็นไมตรี
ข้าเห็นดีพร้อมพรักจะรักกัน
ฯลฯ
ค พระโยคีปรีดาว่าสาธุ
สืบอายุยืนยงอสงไขย
แล้วเคลื่อนคลายหายวับไปฉับไว
อโณทัยใสสว่างกระจ่างตา
ฯลฯ
องค์ละเวงวัณฬาเชิญกษัตริย์ทุกองค์เข้าพักในนิเวศน์วัง แล้วขอให้ประทับอยู่ลังกาให้นานหน่อยแล้วค่อยไป
ฝ่ายพระอภัยได้ทรงสนทนาปราศรัยกับพระญาติพร้อมทั้งเสาวคนธ์และหัสไชย ฝ่ายสามนางต่างกราบไหว้ขอสมา นาง รัมภามาอภิวาทองค์เกษรา นางยุพาสุลาลีวันมาอัญชลีพระบุตรีเสาวคนธ์ ทั้งสององค์ก็รับคำนับรับคำแล้วพูดจาปราศรัยเป็นไมตรี ต่างสิ้นสิ่งหึงสากัน
ฝ่ายทิศาปาโมกข์เอาไม้เท้าที่ฤๅษีฝากไว้มาส่งให้สุดสาคร แล้วบอกความตามหนังสือที่พระฤๅษีเขียนไว้ที่แผ่นผาหน้าสิงขร แล้วลากลับไป สุดสาครดีใจยิ่งนักที่ได้ไม้เท้ากลับคืนมา
จบพระคุณมุนีเหนือศิโรตม์
ด้วยมาโนชกตัญญูต่อครูเฒ่า
เคยดับร้อนสอนสั่งแต่ยังเยาว์
ยังโปรดเกล้ากรุณาถึงครานี้ ฯ
ฝ่ายสิบห้ากษัตริย์ใคร่แจ้งอรรถตามหนังสือพระฤๅษี จึงพากันมาที่แผ่นผาหน้าคีรี เห็นบาลีจารึกไว้เป็นอักษรว่า
ว่าทุกข์สุขชั่วดีเป็นสี่สิ่ง
ให้ชายหญิงหยั่งคิดเป็นปริศนา
กับข้อหนึ่งซึ่งเกิดกำเนิดมา
มีหูตาปากจมูกสิ้นทุกคน
ฯลฯ
เมื่อใครไม่เห็นหน้าหากระจก
จะช่วยยกเงาส่องให้ผ่องศรี
อนึ่งนั้นตัณหาตาไม่มี
ไม่เห็นที่ทางสวรรค์เป็นสันดาน
อนึ่งว่าตาบอดสองตาเห็น
ให้คิดเป็นทางธรรมพระกรรมฐาน
สืบกุศลผลผลาปรีชาชาญ
ตามโบราณรักษาสัจจาใจ ฯ
แล้วกษัตริย์ทั้งหมดก็เข้าไปพักในวัง องค์ละเวงจัดแจงแต่งโต๊ะทองของเสวยสามเวลา เลี้ยงบรรดาพงศ์กษัตริย์ทั้งหมด แล้วทูลพระอภัยกับองค์อัครชายาว่า ที่ท้ายวังมีภูเขาที่เกิดเพชรนิล
อันรุ้งแก้วแวววาวเขียวขาวเหลือง
อร่ามเรืองรายงอกออกนอกหิน
แล้วร่วงหล่นกล่นกลาดดาษแผ่นดิน
ไม่รู้สิ้นสืบสำหรับกับลังกา
ฯลฯ
ต้องก่อกำแพงล้อมรอบมีคนเฝ้ารักษา สำหรับให้เจ้าแผ่นดินลังกาเก็บจินดาไปขาย เอาเงินมาให้ทาน แล้วเชิญทุกพระองค์ไปชมสถานที่ดังกล่าว


