วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน อภิเษกสินสมุทร
หน้า 2
ขอรับเลี้ยงเพียงบุตรสุจริต
ถนอมสนิทเหมือนหนึ่งในเชื้อไข
การวิวาห์ถ้าจะเลื่อนไปเดือนใด
ตามพระทัยไม่ขัดพระอัชฌา ฯ
พระอภัยทราบความในสารแล้ว ก็ชื่นชมโสมนัสจึงตรัสสั่งบรรดาเสนาอำมาตย์ให้เตรียม กำปั่นพันลำพร้อมผู้คน เครื่องเล่น พวกเต้นรำ รวมทั้งมวยปล้ำ และละคร โขน ไปร่วมงานแต่งงาน
มาทอดท่าหน้าแพเรือแห่แหน
อเนกแน่นในมหาชลาสินธุ์
บ้างร้องรำทำเพลงบรรเลงพิณ
คอยท่าบนปถพีด้วยปรีดา ฯ
ฝ่ายองค์พระอภัยพร้อมพระมเหสีและโอรส แต่งองค์ทรงเครื่องแล้วพากันมาลงเรือ ออกเดินทางไปเมืองรมจักร
พอออกจากปากน้ำก็ค่ำพลบ
จุดเพลิงคบโคมรายขึ้นปลายเสา
เป็นเดืนอสามยามหนาวลมข้าวเบา
พัดเพลาเพลาพอได้ใช้ใบสบาย
ลำที่นั่งดั้งกั้นเป็นหลั่นแล่น
ไปตามแผนที่ทะเลคะเนหมาย
ล้วนเคยคลื่นชื่นใจทั้งไพร่นาย
นั่งสบายบังลมแลชมดาว
ฯลฯ
บอกบุตรีชี้หัตถ์แล้วตรัสว่า
ที่กลางฟ้าเรืองยาวนั้นดาวไถ
โน่นดาวธงตรงหน้าอาชาไนย
ดาวลูกไก่เขาก็เรียกสำเหนียกนาม
ฯลฯ
ไม่ขัดข้องล่องลมถึงรมจักร
เสียงคึกคักฆ้องกลองแซ่ซ้องเสียง
ทหารโห่โล้ล้อมมาพร้อมเพรียง
เข้าทอดเคียงรายท่าหน้าธานี ฯ
ท้าวทศวงศ์ทรงจัดที่พักให้ฝ่ายพระอภัยตามฐานานุรูป
หยุดสบายหลายคืนต่างชื่นแช่ม
พอเดือนแรมฤกษ์ดีพิธีไสย
ให้หมายเวรเกณฑ์บอกสมนอกใน
ทั้งนายไพร่พร้อมพระวงศ์พงศ์ประยูร
ปลูกโรงราชพิธีสิบสี่ห้อง
มีมุขช่องมณฑปนภศูล
ประดับเครื่องเรืองแอร่มแจ่มจำรูญ
ที่พื้นพูนปูนลาดดาดศิลา
ฯลฯ
ฝ่ายพวกถูกปลูกโรงสำหรับเล่น
บ้างลากเข็นล้อเกวียนบ้างเขียนแผง
ผูกภูเขาเอาไม้ดัดขึ้นจัดแจง
ต่างคิดแต่งต่างกันประชันโรง
ฯลฯ
หุ่นละครมอญรำทำโรงงิ้ว
เป็นแถวทิวสองข้างทางถนน
เด็กผู้ใหญ่ไพร่ฟ้าประชาชน
มาเกลือนกล่นกลาดกลุ้มประชุมกัน ฯ
สมเด็จท้าวเจ้าบุรีรมจักร
เห็นพร้อมพรักยินดีจะมีไหน
ให้โหราหาฤกษ์เจริญชัย
ประจวบได้เจ็ดคำเป็นสำคัญ
ฯลฯ
ปุโรหิตติดเทียนคอยเวียนแว่น
พลูคะแนนจันทน์เจิมเฉลิมศรี
โหรคอยท่าหาฤกษ์เบิกบัดพลี
ระวังตีฆ้องสำคัญเป็นสัญญา ฯ
ฝ่ายองค์อรุณรัศมีมีความขุ่นข้องเมื่อรู้เรื่องการวิวาห์ ก็คิดถึงองค์เสาวคนธที่ได้ให้ทัณฑ์บนกันไว้ ที่วังเมืองลังกาว่าชาตินี้จะไม่มีคู่ แต่ก็กลัวพระบิดา และเชษฐา คิดจะมีดกรีดคอให้ตาย แต่ก็ไม่กล้าทำ
จะต้องดื้อถือสัตย์ขัดรับสั่ง
สู้ทนทั้งตีด่าประสาหญิง
แกล้งทำหลับจับไข้ไม่ไหวติง
บรรทมนิ่งนึกสะอื้นฝืนฤทัย ฯ
ฝ่ายองค์เกษราไม่เห็นอรุณรัศมีก็ไปตามเห็นลูกรักนอนอยู่จึงตรัสว่าเวลานี้กำลังตั้งพิธีวิวาห์อยู่ให้ไปเข้าพิธี นางก็ทูลตอบว่าตนไม่สบาย เมื่อถูกคาดคั้นก็จำต้องทูลความตามจริงว่า ตนได้สาบานตัวกับเสาวคนธ์ว่าจะไม่มีคู่ ตัวเองก็มีเมียแล้วมีลูกอยู่ในท้อง
ทั้งลูกเต้าเล่าก็ยังอยู่ในท้อง
จะไปต้องน้อยหน้าชาติทาสี
มิขออยู่สู้ตายวายชีวี
พระชนนีโปรดด้วยช่วยสักครา ฯ
องค์เกษราได้ฟังก็ทำเป็นโกรธพูดจาหว่านล้อมด้วยประการต่าง ๆ แต่ไม่เป็นผล
ฝ่ายโหรนั่งตั้งนาฬิกากำกับ
กำหนดนับนาทีสุริย์ฉาน
พอฤกษ์ดีตีฆ้องก้องกังวาน
พนักงานสังข์แตรขึ้นแซ่ซ้อง
ฯลฯ


