วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน นางเสวคนธ์ได้เมืองวาหุโลม
หน้า 2
ฝ่ายพระอัคคี เมื่อทัพหน้ายกออกไปได้ค่อนวัน แล้วก็ยกกำลังออกจากด่าน
รีบเดินทางกลางวันได้พันเส้น
ครั้นจวนเย็นทำพลับพลาอยู่อาศัย
ครั้นเช้าตามทัพหน้าเคลื่อนคลาไคล
ตลอดไปตามทางหว่างคีรี ฯ
ฝ่ายราหูเมื่อเข้าเขตด่าน ก็ห้ามชาวบ้านไม่ให้หนีไปไหน แล้วบอกเล่าเจ้าเมืองเอก โท ตรี ว่าพระมุนีมีบุญกรุณา
เมืองเล็กน้อยพลอยเป็นเช่นราหู
ไม่รบสู้สามิภักดิ์นั้นหนักหนา
คอยรับทัพคับคั่งตั้งบูชา
ล่วงด่านมาห้าชั้นไม่อันตราย ฯ
กล่าวถึงเมืองด่านมีทหารเอกชื่อ ตรีเมฆ คุมเหล่าทมิฬทั้งสิ้นอยู่ ครั้นรู้ว่าราหูคบผู้ร้าย แล้วมาชวนตนให้ไปเข้าด้วย จึงคิดช่วยเจ้าทำการปราบปรามราหู แล้วยกกำลังออกนอกด่านเป็นจำนวนสี่หมื่น เมื่อเผชิญหน้ากับราหูจึงร้องว่าไปว่า เหตุใดจึงไปเข้านับถือพระฤๅษี เสียแรงที่เจ้าเมืองประทานบ้านเมือง และเครื่องยศให้ เหตุไฉนจึงคิดคด ยกกำลังมาราวี
ฝ่ายราหูจึงเล่าเรื่องเดิมให้ฟัง แล้วบอกว่าฤๅษีมีประโยชน์จะโปรดสัตว์ ตนนำหน้ามาแถลงให้แจ้งการณ์ว่า ไม่ได้จะทำการรุกรานผู้ใด ขอให้ตรีเมฆ ยกทัพกลับไปแล้วทูลเจ้าเมืองให้ภักดีต่อพระดาบส
จะก่อศึกฮึกหาญเป็นการชั่ว
จะร้อนทั่วทุกประเทศทั้งเขตขัณฑ์
ท่านกับเราเล่าก็มีไมตรีกัน
จะผ่อนผันพอให้ควรอย่าลวนลาม ฯ
ตรีเมฆว่าราหูคบผู้ร้าย
คิดอุบายเบียดเบียนเป็นเสี้ยนหนาม
เป็นข้าครอกนอกเจ้าข้าวนอกชาม
ช่วยติดตามรบราญด่านเข้ามา
ฯลฯ
แล้วให้ราหูถอยทัพกลับไปให้พ้น พร้อมกับขู่จะตัดเอาศีรษะเสียบประจาน ฯ ราหูได้ฟังก็โกรธด่าว่าตรีเมฆ แล้วก็ขับกิเลนเข้ารบกับตรีเมฆ ไพร่พลของทั้งสองฝ่ายก็เข้ารบกัน พอนายด่านชานชลายกตามมาทันก็เข้าช่วยรุมรบ ตรีเมฆเสียทีตกจากหลังแรด ทหารจับตัวมัดไว้ได้
พอทัพของพระอัคคีมาถึงที่รบก็ให้ตั้งพลับพลา ทั้งสองทัพจับได้ชาวด่านมาได้ประมาณสามหมื่น ราหูนำตรีเมฆมาให้หมอบตรงหน้าพระอัคคี แล้วทูลความการสู้รบที่ผ่านมา พระอัคคีสั่งให้แก้มัดตรีเมฆออก แล้วบอกว่าตนถือศีลจินตนารักษากิจ เจ้านายของตรีเมฆไม่ควรทำลวนลาม นายด่านห้ามก็ไม่ฟัง จะฆ่านายด่านทั้งโคตร ตนจึงจำต้องช่วย แล้วหมายจะมาว่ากล่าวกับท้าวเจ้าเมือง
ให้ถือธรรมจำศีลสิ้นมานะ
แล้วเราจะขึ้นไปชมโรมวิสัย
ท่านซื่อตรงจงบำรุงเจ้ากรุงไกร
ให้อยู่ในศีลสัตย์สวัสดี ฯ
ตรีเมฆได้ฟังก็น้อมประณตนับถือพระฤๅษี และขอให้เป็นที่พึ่งของตน แล้วบอกว่าตนจะไปด้วยช่วยส่งถึงเมืองหลวง จะขอให้เปิดด่านชั้นเจ็ด แล้วจะไปทูลท้าวเจ้าแผ่นดินให้หายดุร้าย ไม่ทำบาปและรักษาศีล ให้ไพร่ฟ้าได้เย็นใจ และจะได้ภิญโญยศปรากฎไป จากนั้นก็เชิญพระอัคคีเข้าไปในด่าน ป่าวร้องให้ชาวด่านแต่งสำรับ ข้าวและเหล้ายามาเลี้ยงไพร่พลของพระอัคคี บอกให้เหล่าทมิฬทั้งสิ้นมานับถือพระฤๅษี แล้วบอกว่าพรุ่งนี้เช้า ตนจะเป็นที่ทัพหน้าเดินทางล่วงหน้าไปก่อน


