วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน หัสไชยตีด่านเมืองลังกา
กล่าวถึงเสวคนธ์กับสุดสาคร คอยฟังข่าวของสองท้าวไทอยู่ พอเรือใช้กลับมาทูลเรื่องฝรั่งลังกายกทัพมาเผาบ้านเมือง เอาเพชรแก้วเก็จไป พร้อมไพร่พลหญิงชายกลับไปสิงหล พระภูวนาถราษฎรได้รับความเดือดร้อนทุกตำบล องค์เสาวคนธ์ได้ทราบก็คั่งแค้นฝรั่งยิ่งนัก สุดสาครก็บอกอย่ารอช้าให้เกณฑ์ไพร่พลวาหุโลม เข้ามาสมทบยกไปรบเมืองลังกา แล้วจัดแจงแต่งหนังสือ ให้ทูตถือไปยังวาโหมเจ้าเมืองวาหุโลม
เจ้าวาโหมโสมนัสจบหัตถ์รับ
เป็นคำนับนับถือพระฤๅษี
แล้วให้อ่านสารว่าพระอัคคี
พบพระพี่มาแถลงให้แจ้งการ
ฯลฯ
ว่าฝรั่งลังกาบังอาจมารบถึงเมืองการะเวก พระบิดาพระมารดาทั้งวงศ์วาน เดือดร้อนรำคาญไปหมด
จะสึกออกบอกโยมวาโหมด้วย
ยกไปช่วยปราบปรามตามวิสัย
ทั้งสองเมืองเบื้องหน้าได้มาไป
เป็นมิตรไมตรีกันไม่ฉันทา ฯ
ฝ่ายวาโหมโสมนัสตรัสประภาษ
สั่งอำมาตย์มูลนายทั้งซ้ายขวา
พระอัคคีนี่เราคิดเหมือนบิดา
จะอาสาซื่อตรงต่อทรงธรรม์
ฯลฯ
แล้วให้จัดพหลพลโยธาได้ห้าหมื่น กับเรือใช้ใหญ่น้อยได้ร้อยเศษไปปราบประเทศลังกา แล้วยกทัพตัดทางไปยังด่านชานสมุทร องค์เสาวคนธ์ต้องแข็งใจ แต่งองค์เป็นอย่างพราหมณ์ ออกไปยังพลับพลาไชยพร้อมพี่ยาสุดสาคร บอกว่าตนต้องลาพรตด้วยจะต้องไปรบฝรั่งเมืองลังกา แล้วแนะนำสุดสาครแก่วาโหม
พระองค์พี่เราจงเคารพ
เลิศลบลือฤทธิ์ทุกทิศา
เป็นแม่ทัพรับสั่งฟังบัญชา
พึ่งพระเดชเชษฐาข้างหน้าไป ฯ
เจ้าวาโหมโสมนัสไม่ขัดข้อง
ประสานสองหัตถ์ประนมบังคมไหว้
หน่อกษัตริย์ตรัสช่วยอำนวยชัย
แล้วปราศัยสนทนาประสาชาย
ฯลฯ
แล้ววาโหม ก็รีบออกมาจัดกำลังพลนิกายทั้งซ้ายขวา ให้ลงเรือรบลำละห้าร้อย ให้เจ้าโอรสคุมทหารด่านปากน้ำ สิบห้าลำ ลำละร้อยเป็นกองหน้านำไป
ฝ่ายพระหน่อสุดสาครกับองค์เสาวคนธ์บอกเรื่องเมืองผลึกว่า ข้าศึกตีเมืองได้แล้วพาองค์พระมเหสีกับพระบุตรีไป ขังไว้เมืองลังกา ก็แค้นใจนัก
จึงทูลองค์ทรงฤทธิ์ปิตุราช
ลูกเป็นชาติเชื้อชายคิดอายเขา
จะนิ่งให้อ้ายศัตรูมันดูเบา
เหมือนหนึ่งเรารับแพ้ไม่แก้แค้น
แล้วทูลขอพาทหารไปรบ ถ้าหากเพลี้ยงพล้ำแก่ชาวลังกา ก็ขอให้ตัดศีรษะตน พระจอมวังการะเงกได้ฟัง พระลูกรักก็ตรัสว่า พระองค์ไม่ห้ามแต่เตือนว่า อย่าเบาความให้คอยรับทัพเมืองผลึกกับเมืองรมจักร ให้พร้อมกันทั้งสามกองทัพ อย่าประมาทในสงคราม
จงหยุดทัพยับยั้งบอกหนังสือ
ให้ทูตถือมาแจ้งแถลงไข
ไว้ธุระบิดาไม่นอนใจ
จะยกไปไล่ล้างให้วางวาย
ฯลฯ
องค์หัสไชยได้ฟังแล้ว บังคมลามารีบจัดพหลพลโยธา เป็นเรือห้าร้อยลำคนประจำลำละร้อย ยกออกจากปากน้ำเมืองการะเวกไป
เข้าแว่นแคว้นแดนลังกาเป็นฝรั่ง
ตระเวณระวังจังหวัดสะกัดกั้น
ไม่รอรั้งสั่งให้รุกรบบุกบัน
ยิงกำปั่นปืนปึงตูมตังตัง
ฯลฯ
เรือลังกาต่อต้านแต่มีกำลังน้อยกว่าต้องถอยไป กองทัพเมืองการะเวกก็ไล่ยิงจับได้เรือข้าศึก ได้สองร้อยยี่สิบลำ ก็พอตกพลบค่ำ
พระหน่อนาถฆาตกลองหยุดกองทัพ
ต่างตีรับเรียกกันเข้าบรรจบ
ทอดสมอรอรั้งตั้งสมทบ
ตามขนบนาคราชไม่คลาดคลา
ฯลฯ
ฝ่ายฝรั่งลังกาต่างหลีกหลบถอยทัพกันสับสน พวกพลบนบกต่างก็ตื่นตกใจ
ประจุปืนยืนรายทุกค่ายตั้ง
ออกคับคั่งคอยรบจุดคบไสว
ทุกหมู่หมวดตรวจพลสกลไกร
ทั้งนายไพร่พรั่งพร้อมป้อมเสมา
ฯลฯ
ฝ่ายพระมังคลา วลายุดากับทั้งวายุพัฒน์ หัสกัน ต่างรู้ว่าข้าศึกมาฮึกหาญตีเรือด่านแตก จึงให้คอยปล่อยปืนกะปิตัน ยิงกำปั่นเชิ้อไฟให้จมไป แล้เกณฑ์กำปั่นกันฝรั่ง ออกตั้งรับไม่ให้ข้าศึก กองทัพข้าศึกรุกเข้ามาในเวลากลางคืน