วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
เรื่อง พระอภัยมณี
ต่อจากคำกลอน
หน้า 8
ทางเมืองรัตนา ว่างเว้นกษัตริย์มาช้านาน
พวกเสนาจึงพากันไปเฝ้าศรีสุวรรณที่เมืองรมจักร ทูลขอให้ตั้งใครไปปกครอง
ศรีสุวรรณจึงไปเฝ้าพระอภัยที่เมืองลังกา จึงให้มีสารไปเชิญพระมังคลา วลายุดา
วายุวพัฒน์ และหัสกันมาปรึกษา แต่ไม่มีใครเต็มใจไปครองเมืองรัตนา
ศรีสุวรรณจึงจะให้นรินรัตน์ลูกสุดสาครที่เกิดกับเสาวคนธ์ไปปกครอง
พระอภัยเห็นชอบด้วยจึงให้จัดการอภิเษกนรินทร์รัตน์ให้ครองเมืองรัตนา
ต่อมานรินทร์รัตน์ได้ตั้งอาจารย์พรหมเมศไว้ในที่ปุโรหิต
และมีหนังสือไปถึงพระมังคลาขอราเมศร์มาเป็นอุปราช
สุดสาครเห็นชอบด้วยจึงจัดการอภิเษกให้
ครั้งนั้น ยังมีกษัตริย์องค์หนึ่งทรงนามว่ากัมพลรัตน์ครองเมืองเหมรา มีมเหสีชื่อว่าบุปผา มีธิดาชื่อว่าเกศพัฒน์ บรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ พาสกันมาสู่ขอท้าวกำพลรัตน์ก็ไม่ยอมยกให้ เป็นเหตุให้เกิดศึก จากเจ็ดนครมาล้อมเมืองเหมรา
ฝ่ายนรินทร์รัตน์กับราเมศร์ และอาจารย์ได้ทราบข่าวว่า เจ็ดนครไปล้อมเมืองเหมราจึงยกทัพไปช่วยท้าวกัมพลรัตน์ตีทัพเจ็ดนครแตกไป ท้าวกพลรัตน์มีความพอใจคิดจะยกธิดาให้นรินทร์รัตน์ จึงมีหนังสือถึงพระอภัย และวงญาติให้มาช่วยงาน ทั้งหมดพร้อมใจกันไปช่วยจัดงานที่เมืองเหมรา เสร็จแล้วก็กลับไปยังบ้านเมืองของตน ส่วนท้าวกำพลรัตน์ คิดจะตอบแทนบุญคุณรามเมศร์ จึงได้จัดการขอนางประภาธิดา ท้าวอภัยนุสินเจ้าเมืองสารัน ซึ่งเป็นญาติให้แก่ราเมศร์
ยังมีกษัตริย์ทรงนามว่าเจตรัตน์ เป็นเชื้อพราหมณ์ ครองนครวายุภักษ์ มีมเหสีพระนามว่าอุทุมพร มีโอรสทรงนามภัทวงศ์ เมื่อภัทวงศ์อายุได้สิบห้าปี ท้าวเจตรัตน์คิดจะให้โอรสครองราชย์สมบัติ แต่ตามประเพณีของเมืองนี้จะต้องให้โอรสไปไหว้พระอิศวรที่เมืองรามราชก่อน เมื่อไปบวงสรวงเสร็จแล้วเดินทางกลับ เรือถูกคลื่นลมพัดพาไปเข้าอ่าวเมืองลังกา สุดสาครประทานเข้าของที่ต้องการให้ และรับรองให้พักอยู่ในเมืองลังกา ได้ไปชมเพชรนิลที่ท้ายเกาะลังกา ได้พบนางสุมาลัยธิดาที่เกิดกับนางสุลาลีวัน ก็เกิดความรักใคร่ เมื่อกลับถึงเมืองแล้วก็ขอให้ท้าวเจตรัตน์ไปขอนางให้ สุดสาครพาท้าวเจตรัตน์ไปเฝ้าพระอภัยทูลความให้ทราบ พระอภัยเห็นชอบจึงให้จัดงานอภิเษกภัทวงศ์กับนางสุมาลัย ณ เมืองลังกา


