ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
บทนำ
1
2 3 4
5 6
4.
โชคไม่ดีที่สภาพอันน่าเป็นห่วงเหล่านี้แทนที่จะลดน้อยลง กลับแพร่กระจายไปทั่ว
กล่าวคือ พร้อมกับมุมมองใหม่ๆ ที่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปิดทางให้
ก็เกิดมีภัยคุกคามศักดิ์ศรีของมนุษย์ในรูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมา ในเวลาเดียวกัน
บรรยากาศใหม่ๆ ทาง วัฒนธรรมกำลังพัฒนาขึ้นมามีอิทธิพล
ทำให้อาชญากรรมล่วงละเมิดชีวิตนั้นมีลักษณะใหม่และ-ถ้า เป็นไปได้-ก็จะร้ายแรงยิ่ง
ก่อให้เกิดการให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก กล่าวคือ
ผู้คนแทบทุกวงการมีความเห็นพ้องต้องกันว่า
อาชญากรรมละเมิดชีวิตมนุษย์บางอย่างนั้นกระทำได้ไม่ผิด
โดยอ้างเรื่องสิทธิในการมีอิสระเสรีภาพของมนุษย์แต่ละคน
และจากพื้นฐานนี้เองคนพวกนั้นมิใช่อ้างแต่เพียงว่า
การล่วงละเมิดเหล่านั้นไม่ต้องมีการถูกลงโทษเท่านั้น
แต่ยังมีการให้การรับรองการล่วงละเมิดเหล่านั้นให้ถูกต้องจากทางฝ่ายรับด้วย
เพื่อพวกเขาจะได้กระทำสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยอิสระเต็มที่ทั้งนี้ด้วยการช่วยเหลือจากระบบทางด้านสาธารณสุขอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดกำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในเรื่องชีวิตมนุษย์และความสัมพันธ์กันของมนุษย์ทั้งหลาย
มีข้อเท็จจริงว่า การออกกฎหมายในหลายประเทศ
บางทีเป็นกฎหมายที่ขัดต่อหลักการของรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ
กลับกำหนดให้ไม่ต้องมีการลงโทษการกระทำผิดล่วงละเมิดชีวิตมนุษย์
และถึงกับทำให้การกระทำเหล่านั้นเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมายไปด้วยซ้ำ
จึงเป็นอาการที่น่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง และนี่เป็นสาเหตุเด่นชัดที่ทำให้ศีลธรรมเสื่อม
การเลือกกระทำการบางอย่างที่ครั้งหนึ่งผู้คนพร้อมใจกันถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด
และความสำนึกทางศีลธรรมกับปฏิเสธไม่ยอมรับกันโดยทั่วไปนั้น กลับค่อยๆ
เป็นที่ยอมรับกันทางสังคมมากขึ้น แม้กระทั่งผู้มีอาชีพทางด้านการแพทย์บางพวก
ซึ่งโดยกระแสเรียกของอาชีพแพทย์นั้นมุ่งเพื่อพิทักษ์ดูแลชีวิตมนุษย์เป็นสำคัญ
ก็ยังจงใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะกระทำการ ล่วงละเมิดต่อชีวิตมนุษย์ในแบบต่างๆ
เพราะเหตุนี้เอง ธรรมชาติของการมีอาชีพเป็นแพทย์จึงผิดเพี้ยนและขัดแย้งกัน
และศักดิ์ศรีของผู้ที่กระทำการต่างๆ เช่นนี้ก็ตกต่ำลงไปด้วย
ในสภาพการณ์ด้านการออกกฎหมาย และด้านวัฒนธรรมเช่นนี้เองที่ปัญหาเรื่องสถิติประชากร
ปัญหาสังคม และปัญหาครอบครัว ซึ่งเป็นปัญหาที่โถมทับมาบนประชาชาติต่างๆ ทั่วโลก
และเป็นปัญหาที่ต้องให้องค์กรต่างๆ
ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติให้ความสนใจเข้ามาร่วมรับผิดชอบทำให้เกิดประสิทธิภาพนั้น
กลับเปิดโอกาสให้มีการแก้ไขปัญหากันแบบผิดๆ และหลอกลวงกัน
เป็นการแก้ปัญหาอันขัดต่อความจริง และขัดต่อความดีของบุคคลมนุษย์
และความดีของชนชาติทั้งหลายด้วย
ผลลัพธ์สุดท้ายของเรื่องนี้น่าสลดใจยิ่ง กล่าวคือ
ไม่เพียงแต่มีข้อเท็จจริงที่ว่า การทำลายล้างชีวิตมนุษย์มากมายที่กำลังจะเกิดมา
หรือชีวิตมนุษย์ที่อยู่ในวาระสุดท้ายนั้นมีกันรุนแรงและน่าเป็นห่วงยิ่งเท่านั้น
แต่ที่รุนแรงและน่าเป็นห่วงไม่น้อย กว่ากัน ก็คือข้อเท็จจริงในเรื่องมโนธรรม
ที่ต้องมืดมนไป เพราะสภาพเงื่อนไขที่แผ่กระจายไปทั่วดังกล่าว ทำให้พบว่า
เป็นการยากลำบากยิ่งขึ้นที่จะแยกแยะระหว่างความดีกับความชั่วในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณค่าพื้นฐานของชีวิตมนุษย์