ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

พระวรสารแห่งชีวิต

    ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก

บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย

7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28

27. ในเรื่องกฎหมายที่ยอมให้มีการทำแท้งและในเรื่องความพยายามต่างๆ ที่ได้รับความสำเร็จในบางแห่งในการออกกฎหมายรับรองการทำการุณยฆาตนั้น ขบวนการและงานริเริ่มต่างๆ เพื่อปลุกจิตสำนึกของสังคมให้ตระหนักถึงการปกป้องชีวิตมนุษย์ก็เกิดมีขึ้นมาทุกหนแห่งทั่วโลก เมื่อขบวนการเหล่านั้นมุ่งกระทำการตามหลักการของตนโดยไม่ใช้ความรุนแรง พวกเขาก็ ช่วยส่งเสริมการสำนึกถึงคุณค่าชีวิตมนุษย์ให้กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น และช่วยกระตุ้นให้มีการลงมือกระทำการอันเด็ดเดี่ยวเพื่อปกป้องชีวิตมนุษย์

ยิ่งกว่านั้น เราจะไม่ยอมพูดถึงได้อย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกต่างๆ เหล่านั้นในชีวิตประจำวัน ที่บ่งบอกถึงการเปิดใจรับผู้อื่น การเสียสละ และการดูแลเอาใจใส่แบบไม่เห็นแก่ตัวที่ผู้คนนับไม่ถ้วนปฏิบัติอยู่ด้วยความรักในครอบครัว ตาม โรงพยาบาล บ้านเด็กกำพร้า บ้านสำหรับผู้สูงอายุ หรือหมู่คณะที่ปกป้องชีวิตมนุษย์ เมื่อพระศาสนจักรยอมให้แบบฉบับของพระคริสตเจ้า “ชาวสะมาเรียผู้ใจดี” (เทียบ ลก 10:29-37) ช่วยนำทาง และได้รับพลังจากพระองค์ พระศาสนจักรก็พร้อมอยู่ แนวหน้าเสมอในเรื่องการจัดเตรียมให้ความช่วยเหลือด้านเมตตาจิต นั่นคือ บรรดาบุตรชาย-หญิงของพระศาสนจักร โดยเฉพาะนักบวชชาย-หญิงทั้งหลายก็ได้มอบและยังมอบถวายชีวิตของตนแด่พระเจ้าอยู่ ทั้งในรูปแบบตามธรรมประเพณีที่สืบต่อกันมา และในรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยมอบตัวเองอย่างอิสระด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้อ่อนแอและผู้ขัดสน กิจการเหล่านี้ช่วยเพิ่มพลังให้แก่พื้นฐานของ “อารยธรรมแห่งความรักและชีวิต” ซึ่งหากปราศจากสิ่งนี้ ชีวิตของมนุษย์แต่ละคนและชีวิตของสังคมมนุษย์ก็จะสูญเสียคุณภาพมนุษย์ที่แท้จริงไปสิ้น ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นไม่เป็นที่สังเกตเห็นและยังคงซ่อนเร้นจากผู้คนส่วนใหญ่ก็ตาม ความเชื่อก็ทำให้เราแน่ใจได้ว่า พระบิดาเจ้า “ผู้ทรงเห็นในที่ลับ” (มธ 6:6) จะไม่เพียงแต่ประทานรางวัลตอบแทนการกระทำเหล่านี้เท่านั้น แต่พระองค์จะทรงทำให้สิ่งเหล่านั้นบังเกิดผลถาวร เพื่อความดีงามของทุกคน แม้แต่บนโลกนี้ในขณะนี้แล้ว

ในบรรดาเครื่องหมายต่างๆ ที่แสดงถึงความหวัง เราควรจะตั้งความหวังไว้กับการเกิดมีความสำนึกใหม่ๆขึ้นในหลายระดับของความคิดเห็นของประชาคมแพร่กระจายต่อต้านสงครามกันมากยิ่งขึ้น โดยที่มนุษย์ใช้สงครามเป็นเครื่องมือจัดการกับปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ระหว่างประชาชาติทั้งหลาย และมุ่งมาก ยิ่งขึ้นที่จะค้นหาวิธีการอันมีประสิทธิภาพแต่ “ไม่รุนแรง” เพื่อจัดการกับผู้รุนแรงที่ใช้อาวุธ ในมุมมองเดียวกันนี้เอง ก็มีหลักฐานแสดงให้เห็นถึงการที่ผู้คนพากันต่อต้านการลงโทษประหารชีวิตกันมากขึ้น แม้แต่เมื่อโทษเช่นนั้นจะถูกมองจากฝ่ายของสังคมว่าเป็น “การปกป้องสังคมอันชอบด้วยกฎหมาย” ก็ตาม อันที่จริง สังคมยุคใหม่ก็มีเครื่องมือที่ช่วยกำจัดการกระทำผิด ที่ได้ผลอยู่มากมาย โดยช่วยให้ผู้กระทำผิดเหล่านั้นหมดพิษภัยได้โดยไม่จำเป็นต้องปฏิเสธโอกาสให้เขาเหล่านั้นปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น

เครื่องหมายด้านดีอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ มีการให้ความสนใจกันมากขึ้นในเรื่องคุณภาพชีวิตมนุษย์และเรื่องนิเวศวิทยา โดยเฉพาะในสังคมมนุษย์ที่พัฒนาดีแล้ว ซึ่งความคาดหวังของผู้คนเหล่านั้นมิได้เน้นถึงเรื่องปัญหาความอยู่รอดของมนุษย์ มาก เท่ากับให้ความสนใจในเรื่องการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของการดำรงชีวิตของมนุษย์โดยรวมให้ดีขึ้นเป็นสำคัญ ที่เด่นชัดเป็นพิเศษ ก็คือ มีการปลุกกระแสให้มีการพิจารณาทบทวนด้านจริยธรรมในเรื่องสำคัญๆ อันส่งผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ความเร่งด่วน และพัฒนาการด้านชีวจริยธรรม (bioethics) ที่กระจายไปทั่วมากขึ้นนั้นก็กำลังส่งเสริมให้มีการพิจารณาทบทวนและการเสวนากัน ระหว่างผู้มีความเชื่อกับผู้ไม่มีความเชื่อ รวมทั้งผู้นับถือศาสนาที่แตกต่างกันด้วย ในเรื่องปัญหาด้านจริยธรรม รวมทั้งเรื่องพื้นฐานสำคัญอื่นๆ อันเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ด้วย

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย