ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
29 30
31 32 33
34 35 36
37 38 39
40
41 42 43
44 45 46
47 48 49
50 51
35.
ตำนานยาห์วิสต์เรื่องการเนรมิตสร้างโลกก็แสดงถึงความมั่นใจเดียวกันนี้
ตำนานโบราณนี้ กล่าวถึงลมของพระเจ้าที่ทรงเป่าลมเข้าสู่มนุษย์เพื่อเขาจะได้มีชีวิต
พระเจ้าทรงเอาฝุ่นจากพื้นดินมาปั้นเป็นมนุษย์
และทรงเป่าลมแห่งชีวิตเข้ามาในจมูกของเขามนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต (ปฐก 2:7)
ลมแห่งชีวิตอันมีต้นกำเนิดมาจากพระเจ้านี้ช่วยอธิบายถึงความไม่สมใจอยาก
(dissatisfaction) ที่มนุษย์ประสบอยู่เสมอตลอดวันเวลาที่เขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้
เนื่องด้วยมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาโดยพระเจ้า
และเขาก็มีภาพลักษณ์ของพระเจ้าอันมิอาจลบออกได้ฝังแน่นอยู่ในตัวเขา
มนุษย์จึงถูกดึงดูดเข้าหาพระเจ้าโดยธรรมชาติของมนุษย์เอง
เมื่อมนุษย์ค้นหาความปรารถนาสุดลึกของหัวใจตน
มนุษย์ทุกคนก็จำต้องนำเอาถ้อยคำแห่งความจริงของท่านนักบุญเอากุสตินมาใช้
ที่ท่านกล่าวว่า พระเจ้าข้า พระองค์ทรงสร้างเรามาเพื่อพระองค์
และหัวใจของเรามิอาจพักผ่อนได้ จนกว่าจะได้พักผ่อนอยู่ในพระองค์เท่านั้น"
ความไม่สมใจอยากนี้เห็นได้เด่นชัดยิ่งจากชีวิตมนุษย์ในสวนเอเดน
ที่มีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องสนใจ ก็คือ โลกของพืชและสัตว์ (เทียบ ปฐก 2:20)
การเกิดมีมนุษย์หญิงขึ้นมาเท่านั้น
ซึ่งเป็นเนื้อจากเนื้อของชายและกระดูกจากกระดูกของชาย (เทียบ ปฐก 2:23)
และเป็นผู้ที่จิตของพระเจ้าองค์พระผู้สร้างอยู่ในนางจึงทำให้นางมีชีวิต
จึงสามารถตอบสนองความต้องการการมีสัมพันธ์ต่อกันของมนุษย์
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการเป็นอยู่ของมนุษย์ ในอีกบุคคลหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม มีภาพสะท้อนถึงองค์พระเจ้าอยู่ในตัวผู้นั้น
ซึ่งเป็นเป้าหมายและความสมบูรณ์ของมนุษย์ทุกคน
ผู้นิพนธ์บทเพลงสดุดีอัศจรรย์ใจยิ่งร้องขับขานว่ามนุษย์เป็นผู้ใดเล่าที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขา
และบุตรของมนุษย์เป็นใครเล่า ซึ่งพระองค์ทรงเยี่ยมเขา (สดด 8:4)
เมื่อเปรียบกับจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาลนี้ มนุษย์ช่างเล็กเหลือเกิน ถึงกระนั้น
ข้อแตกต่างนี้ก็เผยแสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ของมนุษย์
พระองค์ทรงสร้างเขาให้ต่ำกว่าพระเจ้าหน่อยเดียว
และสวมศักดิ์ศรีกับเกียรติให้แก่เขา (สดด 8:5)
พระสิริของพระเจ้าส่องแสงอยู่บนใบหน้ามนุษย์
ในมนุษย์พระผู้สร้างทรงพบการพักผ่อนของพระองค์
ดังที่ท่านนักบุญอัมโบรซิโอกล่าววิพากษ์ไว้ด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น ในวันที่หก
พระผู้สร้างเสร็จสิ้นงานเนรมิตสร้างโลกของพระองค์ด้วยการสร้างผลงานชิ้นเอก
คือมนุษย์ ผู้มีอำนาจเหนือสรรพสิ่งสร้างที่มีชีวิต
และมนุษย์เป็นผลงานสุดยอดของการเนรมิตสร้างจักรวาล
และเป็นความงดงามสูงสุดของสรรพสิ่งสร้างทั้งหลาย เราจึงต้องสงบนิ่งแสดงความเคารพ
เพราะว่าพระเจ้าทรงพักจากงานทุกอย่างที่พระองค์ทรงกระทำในโลก
พระองค์จึงทรงพักผ่อนอยู่ในที่สุดลึกของมนุษย์พระองค์ทรงพักอยู่ในจิตใจของมนุษย์
เหนืออื่นใดพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ให้มีเหตุผล
ให้มนุษย์สามารถเลียนแบบอย่างพระองค์ ให้เขาลอกเลียนคุณธรรมของพระองค์
ให้เขาปรารถนาถึงพระพรแห่งสวรรค์ พระเจ้าทรงพำนักอยู่ในของประทานของพระองค์
พระองค์ตรัสว่า ที่พำนักของเราอยู่ที่ไหน
ที่นี่ต่างหากที่เราจะพำนักคือในเขาผู้ถ่อมตนและสำนึกผิดในใจ
และตัวสั่นเพราะคำของเรา (อสย 66:1-2) ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณพระเจ้าของเรา
ผู้ทรงสร้างงานอันน่าอัศจรรย์ยิ่ง พระองค์ทรงพักผ่อนอยู่ในผลงานชิ้นนี้ของพระองค์