ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

พระวรสารแห่งชีวิต

    ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก

บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย

29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51

40. ความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตก่อให้เกิดการห้ามละเมิดชีวิต ซึ่งจารึกอยู่ในใจมนุษย์ตั้งแต่แรกเริ่ม แล้วในมโนธรรมของเขา คำถามที่ว่า “ท่านทำอะไรงลงไป?” (ปฐก 4:10) ซึ่งพระเจ้าทรงตรัสถามกาอินหลังจากที่เขาฆ่าอาแบลน้องชายนั้น มีความหมายต่อประสบการณ์ของมนุษย์ทุกคน กล่าวคือ ณ ส่วนลึกสุดของมโนธรรม มนุษย์ถูกเตือนอยู่เสมอมิให้ล่วงละเมิดชีวิต-ทั้งชีวิตของตนเองและชีวิตของผู้อื่น-อันเป็นสิ่งที่มิใช่เป็นของของเขา เพราะชีวิตเป็นสมบัติของพระเจ้า และเป็นของประทานของพระเจ้าองค์พระผู้สร้าง และพระบิดา

บทบัญญัติที่ห้ามการล่วงละเมิดชีวิตมนุษย์นั้นสะท้อนก้องอยู่ในใจมนุษย์ถึง “บทบัญญัติสิบประการ” ในพันธสัญญา แห่งภูเขาซีนายนั้น (เทียบ อพย 34:28) ในตอนแรก บทบัญญัตินั้นห้ามการฆ่าคน “อย่าฆ่าคน” (อพย 20:13) “อย่าประหารผู้บริสุทธิ์หรือผู้ชอบธรรม” (อพย 23:7) แต่ในการออกกฎหมายภายหลังของชนอิสราเอล บทบัญญัตินี้ยังห้ามการทำร้ายใดที่ กระทำต่อบุคคลอื่นด้วย (เทียบ อพย 21:12-27) แน่นอนเราต้องรู้ด้วยว่าในพระคัมภีร์พระธรรมเดิมนั้น สำนึกถึงคุณค่าของชีวิต แม้ว่าจะปรากฏค่อนข้างชัดเจนก็ตาม แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยมแบบที่พบได้ในคำเทศนาบนภูเขานั้น นี่เป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นเป็นบางด้านในเรื่องการออกกฎหมายกำหนดบทลงโทษในยุคนี้ที่ให้มีกาลงโทษทางกายรุนแรงหลายรูปแบบและถึงขั้นให้มีโทษประหารชีวิตด้วย แต่สารโดยรวมที่พระคัมภีร์พระธรรมใหม่จะนำไปสู่ความสมบูรณ์นั้น เป็นการเรียกร้องอย่างแข็งขันให้เคารพต่อการห้ามละเมิดชีวิตฝ่ายร่างกาย และให้เคารพต่อบูรณภาพของบุคคล มนุษย์ด้วย บทบัญญัติด้านบวกบังคับให้เราต้องรับผิดชอบต่อเพื่อนบ้านเหมือนรับผิดชอบต่อตนเอง “ท่านจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (ลนต 19:18)

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย