ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

พระวรสารแห่งชีวิต

    ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก

บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย

29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51

42. การปกป้องและส่งเสริมชีวิต การแสดงความเคารพรักต่อชีวิต เป็นภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบแก่มนุษย์ทุกคน โดยทรงเรียกเขาเป็นภาพลักษณ์ที่มีชีวิต เพื่อให้มนุษย์เข้ามาร่วมส่วนในการเป็นนายปกครองโลกร่วมกับพระองค์ “จงมีลูกมาก และ ทวีจำนวนขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงปกครองแผ่นดิน จงเป็นนายเหนือปลาในทะเล นกในอากาศ และสัตว์ทุกชนิดที่เคลื่อนไหวอยู่บนแผ่นดิน” (ปฐก 1:28)

พระคัมภีร์ตอนนี้แสดงให้เห็นชัดถึงมิติด้านกว้างและด้านลึกของการเป็นนายปกครองโลกซึ่งพระเจ้าทรงมอบให้มนุษย์ ก่อนอื่นหมด เป็นเรื่องของการที่มนุษย์เป็นนายปกครองเหนือผืนแผ่นดินและสรรพสิ่งที่มีชีวิต ดังที่หนังสือพระคัมภีร์พระ ปรีชาญาณกล่าวไว้ชัดเจนว่า “ข้าแต่พระเจ้าของบรรพบุรุษพระผู้ทรงเมตตา...ทรงปั้นมนุษย์ด้วยพระปรีชาญาณ เพื่อให้มนุษย์ครอบครองสรรพสัตว์ที่มาจากพระหัตถ์ของพระองค์ เพื่อให้ปกครองโลกด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ยุติธรรม และพิพากษาด้วยใจเที่ยงธรรม” (ปชญ 9:1,2-3) ผู้ขับเพลงสดุดีก็สรรเสริญความเป็นเจ้านายนี้ที่ถูกมอบให้มนุษย์ เพื่อเป็นเครื่องหมายบ่งถึงเกียรติและศักดิ์ศรีที่มนุษย์ได้รับจากองค์พระผู้สร้าง “พระองค์ทรงมอบอำนาจให้ครอบครองบรรดาหัตถกิจของพระองค์ พระองค์ทรง ให้สิ่งทั้งปวงอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา คือฝูงแกะและฝูงวัวทั้งสิ้น และสัตว์ป่าทั้งหลายด้วย ตลอดทั้งนกในอากาศ ปลาในทะเล และอะไรต่างๆ ที่ไปมาอยู่ตามทะเล” (สดด 8:6-8)

ในฐานะที่มนุษย์ถูกเรียกให้มาเพาะปลูกและดูแลสวนของโลกนี้ (เทียบ ปฐก 2:15) มนุษย์จึงมีความรับผิดชอบพิเศษต่อสภาวะแวดล้อมที่ตนอาศัยอยู่นั้น รับผิดชอบต่อสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงมอบไว้เพื่อให้รับใช้ศักดิ์ศรีของมนุษย์ รับใช้ชีวิตของมนุษย์ มิใช่เพื่อชนยุคปัจจุบันนี้เท่านั้น แต่เพื่อชนรุ่นหลังในอนาคตด้วย มันเป็นเรื่องระบบนิเวศ-นับตั้งแต่เรื่องการพิทักษ์แหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ชนิดต่างๆ และของรูปแบบชีวิตอื่นๆ ไปจนถึง “ระบบนิเวศของมนุษย์” โดยตรง28- ซึ่งในพระคัมภีร์ก็พบคำแนะนำด้านจริยธรรมอันเข้มแข็งที่นำไปสู่การแก้ปัญหาด้วยการ ให้ความเคารพต่อความดีงามยิ่งใหญ่ของชีวิตทุกชีวิต อันที่จริง “การเป็นเจ้านายปกครองที่องค์พระผู้สร้างทรงประทานแก่มนุษย์นั้นมิใช่เป็นอำนาจเด็ดขาด อีกทั้งไม่อาจกล่าวถึงเรื่องอิสรภาพในการ ‘ลองผิดลองถูก’ หรือจัดการสิ่งต่างๆ ตามใจชอบของตนได้ ข้อจำกัดที่องค์พระผู้สร้างเองทรงกำหนดให้มนุษย์นับแต่แรกเริ่ม และแสดงออกทางสัญลักษณ์ด้วยการห้ามกินผลไม้จากต้นไม้ต้นนั้น (เทียบ ปฐก 2:16-17) แสดงให้เห็นชัดพอแล้วว่า เมื่อกล่าวถึงโลกธรรมชาติ มนุษย์มิเพียงต้องอยู่ภายใต้กฎชีววิทยาเท่านั้น แต่ยังต้องอยู่ภายใต้กฎศีลธรรมด้วย ที่เรามนุษย์ไม่อาจละเมิดกฎเหล่านั้นได้โดยมิต้องถูกลงโทษ”

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย