ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
29
30
31 32 33
34 35 36
37 38 39
40
41 42 43
44 45 46
47 48 49
50 51
46. ในเรื่องเกี่ยวกับช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตมนุษย์ด้วยเช่นกัน
ที่คงจะเป็นเรื่องผิดยุคผิดสมัยที่เราจะหวังเห็นการเผยแสดงจากพระคัมภีร์ที่บ่งบอกถึงเรื่องสำคัญๆ
ในยุคปัจจุบันในเรื่องการให้ความเคารพต่อชีวิตผู้สูงอายุและผู้เจ็บป่วย หรือ
เรื่องการประณามอย่างเปิดเผยต่อความพยายามต่างๆ
ที่จะบีบบังคับให้คนพวกนั้นตายไปโดยเร็ว
บริบทของพระคัมภีร์ทางด้านวัฒนธรรมและด้านศาสนานั้นไม่เคยสัมผัสการประจญให้ทำเช่นว่านี้เลย
ที่จริงแล้วในบริบทดังกล่าว
ความปรีชาและประสบการณ์ของผู้สูงอายุเป็นที่รับรู้ว่าเป็นบ่อเกิดของการช่วยเสริมสร้างครอบครัว
และสังคมมนุษย์ให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย
วัยสูงอายุมีศักดิ์ศรีเป็นลักษณะเด่นและมีผู้ห้อมล้อมให้ความเคารพนับถือ (เทียบ 2
มคบ 6:23) คนชอบธรรมไม่หาทางพ้นจากวัยสูงอายุและภาระหนักตามวัยของตน
ตรงกันข้ามเขากลับอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นความหวัง
ความไว้วางใจของข้าพระองค์ตั้งแต่วัยหนุ่ม...แม้จะถึงวัยชราผมหงอกก็ตาม
ข้าแต่พระเจ้า
ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์จนกว่าข้าพระองค์จะประกาศถึงพระอานุภาพของพระองค์แก่ชาติพันธุ์ถัดไป”
(สดด 71:5,18) อุดมคติแห่งยุคพระเมสสิยาห์นั้นถูกนำเสนอเป็นยุคที่
“จะไม่มี...คนแก่ที่อายุไม่ครบกำหนดเลย” (อสย 65:20)
มนุษย์ควรจะเผชิญกับชีวิตอันเสื่อมถอยของตนในวัยชราอย่างไร?
มนุษย์ควรทำตัวเช่นไรยามที่ต้องเผชิญกับความตาย
ผู้มีความเชื่อรู้ว่าชีวิตของตนอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า “ข้าแต่ พระเจ้า
ขอทรงรักษาส่วนมรดกของข้าพเจ้าไว้” (เทียบ สดด 16:5) และเขายอมรับว่าเขาจำต้องตาย
“เป็นกฎที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้สำหรับมนุษย์ทุกคน
ไฉนเล่าเจ้าจึงกระด้างกระเดื่องต่อน้ำพระทัยพระผู้สูงสุด?” (บสร 41:3-4)
มนุษย์มิใช่เป็นนายเหนือชีวิตและเขาก็มิใช่เป็นนายเหนือความตายด้วยเช่นกัน
เขามอบตนเองโดยสิ้นเชิงทั้งชีวิตและความตายไว้
“แด่น้ำพระทัยเมตตาขององค์พระผู้สูงสุด” ให้เป็นไปตามแผนการความรักของพระองค์
ในยามที่เจ็บป่วยด้วยเช่นกันที่มนุษย์ถูกเรียกให้มีความไว้วางใจเดียวกันนี้ต่อพระเจ้า
และให้รื้อฟื้นความเชื่อของตนในองค์พระเจ้า “ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน” (เทียบ
สดด 103:3)
เมื่อความหวังทุกอย่างที่จะมีสุขภาพดีดูเหมือนจางหายไปต่อหน้าต่อตาเขา-เหมือนกับจะทำให้มนุษย์ต้องร้องออกมาว่า
“วันเวลาของข้าพระองค์เหมือนเงาเวลาเย็น ข้าพระองค์เหี่ยวไปเหมือนหญ้า” (สดด
102:11)-แม้กระทั้งเวลานั้น
ผู้มีความเชื่อก็ยังรักษาความเชื่อมั่นคงไม่หวั่นไหวในพลังที่ให้ชีวิตของพระเจ้า
ความเจ็บป่วยไม่ทำให้เขาท้อแท้สิ้นหวังและแสวงหาความตาย
แต่กลับทำให้เขาร้องออกมาด้วยความหวังว่า “ข้าพเจ้ายังเชื่ออยู่
แม้เมื่อข้าพเจ้าว่า ‘ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง’” (สดด 116:10)
“ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลขอความอุปถัมภ์จากพระองค์
และพระองค์ได้ทรงรักษาข้าพระองค์ให้หาย ข้าแต่พระเจ้า
พระองค์ทรงนำจิตวิญญาณของข้าพระองค์ขึ้นมาจากแดนผู้ตาย ทรงทำให้ข้าพระองค์มีชีวิต
จึงไม่ต้องลงไปขุมอเวจี” (สดด 30:2-3)