ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
29
30
31 32 33
34 35 36
37 38 39
40
41 42 43
44 45 46
47 48 49
50 51
49.
ประวัติศาสตร์ของชนอิสราเอลแสดงให้เห็นว่าช่างยากลำบากสักเพียงไรที่จะดำรงตนซื่อสัตย์ต่อบทบัญญัติแห่งชีวิต
ที่พระเจ้าทรงสลักไว้ในใจมนุษย์
และที่พระองค์ทรงมอบให้แก่ประชากรแห่งพันธสัญญาบนภูเขาซีนาย เมื่อชนชาติอิสราเอล
แสวงหาทางดำเนินชีวิตโดยเพิกเฉยต่อแผนการของพระเจ้า
บรรดาประกาศกก็ทำหน้าที่เฉพาะของพวกท่านในการตักเตือนพวกเขาอย่างรุนแรงกว่า
พระเจ้าเท่านั้นเป็นบ่อเกิดของชีวิต ประกาศกเยเรมีย์จึงเขียนว่า
“ประชากรของเราได้กระทำความชั่วถึงสองประการ เขาได้ทอดทิ้งเราเสีย
ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ให้ชีวิต แล้วสะกัดหินขังน้ำไว้สำหรับตนเอง
เป็นแอ่งแตกซึ่งขังน้ำไม่ได้” (ยรม 2:13)
บรรดาประกาศกพากันชี้นิ้วตำหนิพวกที่สบประมาทชีวิตและล่วงละเมิดสิทธิของผู้คนทั้งหลาย“เขาทั้งหลายเหยียบย่ำศีรษะของคนจนลงไปที่ฝุ่นบนพื้นดิน”
(อมส 2:7) “พวกเขาทำให้สถานที่นี้เต็มด้วยโลหิตของผู้ไม่ผิด” (ยรม 19:4)
ในบรรดาประกาศกทั้งหลาย ประกาศกเอเสเคียลมักจะกล่าวประณามกรุงเยรูซาเล็มอยู่บ่อยๆ
เรียกนครนี้ว่า “นครเปื้อนเลือด” (อสค 22:2 ; 24:6,9) เป็น
“นครที่หลั่งโลหิตผู้ไร้ความผิดให้ถึงตาย” (อสค 22:3)
แต่ในขณะที่บรรดาประกาศกประณามการกระทำผิดต่อชีวิต
พวกท่านก็ให้ความสนใจเหนืออื่นใดในเรื่องการปลุกความหวังในหลักการใหม่ของชีวิตที่สามารถก่อให้เกิดการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายขึ้นใหม่
และสามารถเปิดโอกาสพิเศษใหม่ๆ ให้เข้าใจ
และลงมือกระทำการตามข้อเรียกร้องทั้งหมดในพระวรสารแห่งชีวิต
สิ่งนี้จะเป็นไปได้ก็โดยทางของประทานคือองค์พระเจ้าผู้ทรงชำระให้สะอาดและฟื้นฟูขึ้นใหม่นั้น
“เราจะนำเอาน้ำสะอาดพรมเจ้า และเจ้าจะสะอาดจากมลทินทั้งหลายของเจ้า
และเราจะชำระเจ้าจากรูปเคารพทั้งหลายของเจ้า เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้า
และเราจะบรรจุจิตวิญญาณใหม่ไว้ในเจ้า เราจะนำใจหินออกไปเสียจากเนื้อของเจ้า
และให้ใจเนื้อแก่เจ้า” (อสค 36:25-26 ; เทียบ ยรม 31:34) “ใจใหม่”
นี้จะทำให้มนุษย์ชื่นชอบและเข้าถึงความหมายแท้จริงลึกซึ้งที่สุดของชีวิตได้ นั่นคือ
การเป็นของประทานที่เป็นจริงขึ้นมาในการมอบตนเอง
นี่เป็นสารยอดเยี่ยมในเรื่องของชีวิต
ซึ่งมาสู่เราทางรูปแบบการเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า (the Servant of the Lord)
“เมื่อพระองค์ทรงกระทำให้วิญญาณของท่านเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
ท่านจะเห็นพงศ์พันธุ์ของท่าน
ท่านจะยืดวันทั้งหลายของท่าน...ท่านจะเห็นผลแห่งทุกข์ลำบากแห่งวิญญาณจิตของท่าน
และพอใจ” (อสย 53:10,11)
การเสด็จมาของพระเยซูแห่งนาซาเร็ธทำให้ธรรมบัญญัติสมบูรณ์ไป
และใจใหม่ก็ถูกมอบให้มนุษย์โดยทางพระจิตของพระองค์
พระเยซูเจ้ามิได้ปฏิเสธธรรมบัญญัติ แต่พระองค์ทรงทำให้ธรรมบัญญัตินั้นสมบูรณ์ไป
(เทียบ มธ 7:12) ในพระเยซู ธรรมบัญญัติกลายมาเป็น “พระวรสาร”
เป็นข่าวดีของการเป็นเจ้านายของพระเจ้าปกครองโลก ซึ่งนำทุกชีวิตกลับมาสู่รากเหง้า
และจุดหมายเดิมของมัน นี่คือกฎบัญญัติใหม่เป็น
“กฎของพระจิตเจ้าซึ่งประทานชีวิตในพระคริสตเยซูนั้น” (รม 8:2)
และการแสดงออกเบื้องต้นที่ดำเนินตามแบบฉบับของพระองค์ผู้ทรงมอบชีวิตของตนแด่มิตรสหาย
(เทียบ ยน 15:13) ก็คือ
การมอบตนเองด้วยความรักต่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์ชาย-หญิงทั้งหลาย
“เรารู้ว่าเราผ่านพ้นความตายมาสู่ชีวิตแล้ว เพราะเรารักพี่น้อง” (1 ยน 3:14)
นี่เป็นกฎแห่งอิสรภาพ ความปิติยินดี และการได้ รับพระพร
“เขาทั้งหลายจะมองดูผู้ที่เขาแทง” (ยน 19:37) :
พระวรสารแห่งชีวิตสำเร็จสมบูรณ์ไปบนไม้กางเขนนั้น