ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

พระวรสารแห่งชีวิต

    ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก

บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย

29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51

51. แต่ยังมีเหตุการณ์เฉพาะอีกอย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึกสะเทือนใจอย่างมากเมื่อพิเคราะห์ดูอยู่นั้น “เมื่อพระเยซูเจ้าทรงจิบน้ำองุ่นเปรี้ยวแล้ว ตรัสว่า ‘สำเร็จบริบูรณ์แล้ว’ พระองค์ทรงเอนพระเศียรสิ้นพระชนม์” (ยน 19:30) หลังจากนั้น ทหารโรมันคนหนึ่ง “ใช้หอกแทงด้านข้างพระวรกายของพระองค์ โลหิตและน้ำก็ไหนออกมาทันที” (ยน 19:34)

บัดนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็มาถึงซึ่งความสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว “การมอบ” จิตของพระองค์บ่งถึงการสิ้นพระชนม์ เป็นการตายเหมือนการตายของมนุษย์คนอื่นๆ ทุกคน แต่ก็เป็นการตายที่บ่งถึง “การมอบพระจิต” ที่พระเยซูได้ทรงใช้ไถ่ถอนเรามนุษย์จาก ความตายนั้น และเปิดทางชีวิตใหม่ให้แก่เราด้วย

นี่คือชีวิตของพระเจ้าที่ทรงร่วมแบ่งปันให้มนุษย์เป็นชีวิตที่ โดยทางศีลศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร-ซึ่งมีน้ำและพระโลหิตที่ไหลจากพระสีข้างของพระคริสตเจ้าเป็นสัญลักษณ์-ยังถูกมอบให้แก่บรรดาบุตรของพระเจ้าเรื่อยมา ทำให้พวกเขาเป็นประชากรแห่งพันธสัญญาใหม่ จากไม้กางเขนนั้น ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิต “ประชากรแห่งชีวิต” ก็ถือกำเนิดมาและทวียิ่งขึ้น

การพิศเพ่งรำพึงถึงไม้กางเขนช่วยนำเราเข้าถึงแก่นแท้ (หัวใจ) ของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อพระเยซูเสด็จมาในโลก พระองค์ทรตรัสว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้ามาเพื่อปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์” (เทียบ ฮบ 10:9)

พระองค์เสด็จมา “มิใช่เพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์” (มก 10:45) และทรงบรรลุถึงความรักสูงสุดนั้นบนไม้กางเขน “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13) และพระคริสตเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา ขณะที่เรายังเป็นคนบาป (เทียบ รม 5:8)

เช่นนี้เองที่พระเยซูเจ้าทรงประกาศว่าชีวิตพบศูนย์กลาง ความหมาย และความสมบูรณ์เมื่อชีวิตนั้นถูกมอบให้ผู้อื่น

ณ จุดนี้เองที่การรำพึงถึงเรื่องชีวิตกลายมาเป็นการสรรเสริญโมทนาคุณพระเจ้า และในเวลาเดียวกันก็กระตุ้นเราให้เลียนแบบพระคริสตเจ้า และเดินตามรอยเท้าของพระองค์ (เทียบ 1 ปต 2:2)

พวกเราถูกเรียกมาให้มอบชีวิตของเราเพื่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์ชาย-หญิงของเราเช่นกัน และเมื่อทำเช่นนี้เราก็จะได้สำนึกถึงความจริงสมบูรณ์ของความหมายและจุดหมายแห่งการเป็นอยู่ของเราได้

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายจะทำเช่นนี้ได้ก็เพราะพระองค์ทรงมอบแบบฉบับไว้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายและได้ทรงประทานพลังแห่งพระจิตของพระองค์แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายแล้ว ข้าพเจ้าทั้งหลายจะสามารถทำเช่นนี้ได้ทุกวัน ร่วมกับพระองค์ และเหมือนกับพระองค์ได้ หากข้าพเจ้าทั้งหลายนอบน้อมเชื่อฟังพระบิดา และทำตามน้ำพระทัยของพระองค์

ดังนั้นขอพระองค์ทรงโปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รับฟัง และเปิดใจให้กว้างรับฟังพระวาจาทุกคำที่มาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าด้วย ข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้เรียนรู้มิใช่ปฏิบัติตามบทบัญญัติ “อย่าฆ่าคน” เท่านั้น แต่ให้ความเคารพรักและส่งเสริมชีวิตมนุษย์ทุกชีวิตด้วย พระเจ้าข้า

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย