ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
52
53 54 55
56 57 58
59 60 61
62 63 64
65 66 67
68 69 70
71 72 73
74 75 76
77
55. เรื่องนี้ไม่ควรทำให้เราแปลกใจอะไรเลย การฆ่ามนุษย์
ซึ่งมีภาพลักษณ์ของพระเจ้าประทับอยู่ในตัวเขานั้น ถือเป็นบาปผิดหนัก
เพราะพระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นเป็นเจ้านายเหนือชีวิต ถึงกระนั้น
ตั้งแต่แรกเริ่มแล้วเมื่อต้องพบกับกรณีอันน่าเศร้ามากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตของมนุษย์แต่ละคนและในสังคมมนุษย์
การพิจารณทบทวนแบบคริสตชนก็แสวงหาความเข้าใจอันลึกซึ้ง
และสมบรูณ์กว่าของสิ่งที่บทบัญญัติของพระเจ้าสั่งห้ามและสั่งให้ปฏิบัตินั้น
อันที่จริงมีหลายสถานะการณ์ที่คุณค่าชีวิตซึ่งบทบัญญัติของพระเจ้าเสนอให้นั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันแท้จริง
(genuine paradox) สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเช่นในกรณีเรื่องการป้องกันตัวที่ถูกต้อง
ชอบธรรม (legitimate defense) ซึ่งในการป้องกันตัวนั้น สิทธิในการปกป้องชีวิตของตน
ในทางปฏิบัติก็ยากยิ่งนักที่จะไปได้กับหน้าที่ที่เขาจะต้องไม่ทำร้ายชีวิตของอีกฝ่ายหนึ่ง
แน่นอน
คุณค่าภายในของชีวิตและหน้าที่ที่จะต้องรักตนเองไม่น้อยไปกว่าที่จะต้องรักผู้อื่นนั้น
เป็นพื้นฐานของสิทธิแท้จริงในการปกป้องตนเอง
บทบัญญัติที่เรียกร้องให้รักเพื่อนมนุษย์ที่มีอยู่ในพันธสัญญาเดิมและได้รับการยืนยันจากพระเยซูเจ้านั้น
บ่งถึงว่ามนุษย์ต้องมีความรักตนเองเป็นตัวตั้งเปรียบนั้นเสียก่อน
ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง (มก 12:31)
ผลที่ตามมาก็คือไม่มีใครสามารถแยกสิทธิในการป้องกันตนเองออกจากการขาดความรักต่อชีวิตหรือต่อตนเองนั้นได้
สิ่งนี้สามารถทำได้ก็ด้วยความรักขั้นวีรกรรม
ซึ่งทำให้ความรักตนเองนั้นลึกซึ้งและเปลี่ยนรูปไปสู่การมอบตนเองจริงๆ
ตามจิตตารมณ์มหาบุญลาภแห่งพระวรสาร (เทียบ มธ 5:38-40)
แบบฉบับสุดยอดของการมอบตนเองนี้ ก็คือ พระเยซูเจ้า นั่นเอง
ยิ่งกว่านั้น
การป้องกันตนเองโดยถูกต้องชอบธรรมนั้นมิใช่เป็นแค่สิทธิเท่านั้น
แต่เป็นหน้าที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของคนอื่นๆ
และต่อผลประโยชน์ส่วนรวมของครอบครัว หรือของรัฐด้วย
แต่ก็โชคไม่ดีนักที่เกิดขึ้นมาว่า
ความจำเป็นต้องจัดการกับผู้ก้าวร้าวที่ไม่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้
บางครั้งก็ถึงขั้นเอาชีวิตของเขาผู้นั้นทีเดียว
ในกรณีเช่นนี้ผลร้ายที่เกิดขึ้นนั้นก็ถูกโยนให้กับผู้ก้าวร้าวนั้นที่เป็นผู้ก่อให้เกิดเรื่องขึ้นจากการกระทำของเขา
ถึงแม้ว่าทางด้านศีลธรรม เขาอาจไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะว่าเขาขาดการใช้เหตุผล