ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
52
53 54 55
56 57 58
59 60 61
62 63 64
65 66 67
68 69 70
71 72 73
74 75 76
77
57.
ถ้าหากถึงกับจำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแลให้มีการเคารพต่อชีวิตมนุษย์ทุกชีวิตแม้กระทั่งชีวิตของอาชญากรและผู้ข่มเหงผู้อื่นอย่างยุติธรรมแล้วไซร้
บทบัญญัติ อย่าฆ่าคน
นั้นก็ย่อมมีคุณค่าสูงสุดเมื่อคำนึงถึงผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีความผิด และยิ่งเป็น
เช่นนั้นกับกรณีของมนุษย์ผู้อ่อนแอและไม่อาจปกป้องตนเองได้ที่พบการต่อสู้กับความหยิ่งยโส
และอารมณ์ตามใจของผู้อื่นได้
มากที่สุดก็ในกฎบังคับให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้าประการนี้เท่านั้น
ผลที่เกิดขึ้นก็คือ
การห้ามล่วงละเมิดชีวิตของผู้บริสุทธิ์โดยเด็ดขาดนี้เป็นความจริงทางศีลธรรมที่พระคัมภีร์สอนเราไว้อย่างชัดเจน
และอำนาจสั่งสอนของพระศาสนจักรก็ได้เสนอแนะเช่นนี้เรื่อยมา
คำสั่งสอนอันมั่นคงนี้เป็นผลที่เห็นได้ชัดจาก
การมีสำนึกแบบเหนือธรรมชาติในเรื่องความเชื่อ
ซึ่งเมื่อได้รับการดลใจและค้ำชูจากพระจิตเจ้า
ก็ช่วยพิทักษ์รักษาประชากรของพระเจ้าให้พ้นจากความหลงผิด เมื่อ
คำสั่งสอนนี้แสดงให้เห็นถึงการเห็นพ้องต้องกันไปทั่วโลกในเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อและศีลธรรม
เมื่อพระศาสนจักรต้องพบกับสภาพอ่อนแอยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ในมโนธรรมของมนุษย์แต่ละคนและในสังคมมนุษย์
ในเรื่องการสำนึกถึงความไม่ถูกต้องอย่างยิ่งทางศีลธรรมที่จะกำจัดชีวิตมนุษย์ผู้บริสุทธิ์โดยตรง
เป็นต้น ชีวิตตอนเริ่มต้นและชีวิตตอนวาระบั้นปลายของมนุษย์
อำนาจสั่งสอนของพระศาสนจักรจึงประกาศออกมาบ่อยครั้งยิ่งขึ้นเพื่อปกป้องชีวิต
ว่าชีวิตมนุษย์นั้นศักดิ์สิทธิ์ และมิอาจถูกล่วงละเมิดได้
อำนาจสั่งสอนของพระสันตะปาปา (The Papal Magisterium)
ที่ยืนยันเน้นย้ำในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ก็ได้รับการสนับสนุนอยู่เสมอจากคำสั่งสอนของบรรดาพระสังฆราช
ด้วยเอกสารทางด้านข้อความเชื่อและด้านการอภิบาลที่กระชับชัดเจนจำนวนมาก
ออกมาจากสภาพระสังฆราชหลายแห่ง หรือจากบรรดาพระสังฆราชเป็นการส่วนบุคคลด้วย
สภาพระสังคายนาวาติกัน ที่ 2
ก็ได้กล่าวยืนยันเรื่องนี้ไว้อย่างหนักแน่นด้วยข้อความที่กระชับชัดเจนไว้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น โดยอาศัยอำนาจที่พระคริสตเจ้า
ทรงมอบไว้แด่ท่านนักบุญเปโตรและผู้สืบตำแหน่งจากท่าน
และในความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกันกับบรรดาพระสังฆราชแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก
ข้าพเจ้าขอประกาศยืนยันว่า การจงใจฆ่ามนุษย์ผู้บริสุทธิ์นั้นผิดหนักทางศีลธรรมเสมอ
ข้อความนี้ที่มีพื้นฐานอยู่บนกฎที่มิได้เขียนไว้ แต่ภายใต้แสงสว่างแห่งเหตุผล
มนุษย์ก็พบกฎนี้ได้ในใจของตนเอง (เทียบ รม 2:14-15)
กฎนี้ได้รับการยืนยันอีกครั้งจากพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกมอบผ่านต่อๆ
กันมาทางธรรมประเพณีของพระศาสนจักร และได้รับการสอนด้วยอำนาจสั่งสอนแบบ
ปกติและแบบสากลของพระศาสนจักร51
การตัดสินใจตามอำเภอใจที่จะคร่าชีวิตไปจากมนุษย์นั้นเป็นความชั่วทางศีลธรรมเสมอ
และไม่อาจเป็นสิ่งที่ถูกต้องได้เลย
ไม่ว่าจากจุดมุ่งหมายที่ฆ่าโดยตรงหรือที่ใช้การฆ่าเป็นเครื่องมือเพื่อจุดมุ่งหมายที่ดีกว่าก็ตาม
อันที่จริงการฆ่าคนเป็นการกระทำผิดความนบนอบต่อกฎศีลธรรม
และการกระทำผิดต่อพระเจ้าโดยตรงด้วย
เพราะพระองค์เป็นเจ้าชีวิตและเป็นผู้ให้ประกันกฎศีลธรรมนี้
การฆ่าคนเป็นการกระทำผิดต่อคุณธรรมพื้นฐานความยุติธรรมและความรัก ไม่มีอะไร
และไม่มีใครจะสามารถปล่อยให้มีการฆ่ามนุษย์ผู้บริสุทธิ์ได้ไม่ว่าทางใดก็ตาม
ไม่ว่าจะเป็นตัวอ่อนมนุษย์หรือทารกที่อยู่ในครรภ์มารดา
ไม่ว่าจะเป็นทารกที่เกิดมาแล้วหรือคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุหรือผู้เป็นโรคเจ็บป่วยที่มิอาจรักษาให้หายได้
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของตนเอง หรือชีวิตของผู้ที่ถูกมอบไว้ให้เขาดูแลรักษาก็ตาม
อีกทั้งมนุษย์ไม่สามารยินยอมให้มีการฆ่าคนเกิดขึ้นได้
ไม่ว่าจะกระทำโดยเปิดเผยหรือกระทำโดยซ่อนเร้นก็ตาม
อีกทั้งผู้ที่มีอำนาจก็ไม่สามารถแนะนำหรือยินยอมให้การกระทำผิดเช่นนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้แบบถูกต้องตามกฎหมายด้วย
ในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องสิทธิการมีชีวิตอยู่นั้น
มนุษย์ผู้บริสุทธิ์ทุกคนมีสิทธินี้เท่าเทียมกันกับมนุษย์คนอื่นทั้งหลาย
ความเสมอภาคนี้เป็นพื้นฐานสำหรับความสัมพันธ์แท้จริงทางสังคมทุกชนิด
ซึ่งจะให้เป็นไปได้เช่นนี้ ก็จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริงและความยุติธรรม
โดยรับรู้และปกป้องมนุษย์ชาย-หญิงทุกคนในฐานะเป็นบุคคลมนุษย์
และมิใช่เป็นสิ่งของที่ผู้อื่นจะใช้หาประโยชน์ได้
ก่อนที่จะมีกฎศีลธรรมที่ห้ามการคร่าชีวิตของมนุษย์ผู้บริสุทธิ์โดยตรงนั้น
ก็ไม่มีเอกสิทธิ์พิเศษ หรือการยกเว้นใดๆ สำหรับมนุษย์ผู้ใดเลย
ไม่แตกต่างกันเลยไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นเจ้านายของโลกหรือเป็น คนยากจนที่สุด
บนผืนแผ่นดินโลกก็ตาม ต่อหน้ากฎเรียกร้องทางศีลธรรมแล้ว
มนุษย์ทุกคนเท่าเสมอกันทั้งสิ้น
พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นส่วนประกอบ
ที่ยังไม่เป็นตัวของข้าพระองค์(สดด 139:16) :
การทำแท้งเป็นอาชญากรรมที่น่าชิงชังที่สุด