ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
52
53 54 55
56 57 58
59 60 61
62 63 64
65 66 67
68 69 70
71 72 73
74 75 76
77
58. ในบรรดาอาชญากรรมที่กระทำผิดล่วงละเมิดชีวิตมนุษย์นั้น
การทำแท้งที่มีการเตรียมการไว้ (procured abortion)
ถือว่ามีลักษณะเป็นการกระทำผิดที่ร้ายแรงและเลวร้ายที่สุด สภาพระสังคายนาวาติกัน
ที่ 2 กล่าวประณามการทำแท้งรวมทั้ง การฆ่าเด็กทารกว่าเป็น
อาชญากรรมที่น่าชิงชังที่สุด
แต่ปัจจุบันนี้ ในมโนธรรมของผู้คนมากมาย
การมองเห็นถึงความหนักร้ายแรงของการทำแท้งยิ่งทีก็ยิ่งสลัวมัวยิ่งขึ้น
การยอมรับการทำแท้งในความคิดของผู้คนทั้งหลาย
ในพฤติกรรมและแม้แต่ในกฎหมายก็กำลังเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงวิกฤติที่เป็นอันตรายร้ายแรงยิ่งในเรื่องสำนึกด้านศีลธรรม
ซึ่งกำลังทำให้มนุษย์ยิ่งทีก็ยิ่งไม่สามารถแยกแยะระหว่างความดีกับความชั่วได้
แม้กระทั่งสิทธิพื้นฐานที่จะมีชีวิตอยู่ก็กำลังตกอยู่ในอันตรายด้วย
เมื่อเห็นสภาพการณ์ย่ำแย่เช่นนี้
เราจำเป็นต้องมีความกล้าหาญในเวลานี้ที่มากกว่าที่เคยเป็นมา
เพื่อมองจ้องเข้าไปในดวงตา เพื่อค้นหาความจริง และเพื่อจัดการทุกสิ่งให้ถูกต้อง
โดยไม่ประนีประนอมง่ายๆ หรือยอมให้ถูกประจญให้หลอกตนเองได้
ในเรื่องนี้ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวตำหนิไว้ตรงๆ ทีเดียวว่า
วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่เรียกความชั่วว่าความดี และความดีว่าความชั่ว
ผู้ที่ถือเอาว่าความมืดเป็นความสว่าง และความสว่างเป็นความมืด (อสย 5:20)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการทำแท้งนี้มีการใช้ศัพท์อันคลุมเครือกันไปทั่ว อาทิเช่น
ใช้คำว่า การขัดจังหวะการตั้งครรภ์ (interruption of pregnaney)
ซึ่งมุ่งปิดบังธรรมชาติแท้จริงของการทำแท้งและมุ่งให้ฟังรื่นหูดูไม่ร้ายแรงอะไรนักในความคิดเห็นของสาธารณชน
บางทีปรากฏการณ์ด้านการใช้ภาษาแบบนี้เองก็เป็นอาการบ่งบอกถึงความไม่สบายของมโนธรรมแล้ว
แต่ก็ไม่มีคำคำใดจะมีอำนาจมาเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของสิ่งต่างๆ ได้ กล่าวคือ
การทำแท้งที่มีการเตรียมการไว้ ไม่ว่าจะใช้วิธีการอะไรก็ตาม
ก็เป็นการจงใจฆ่ามนุษย์โดยตรง นับตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น
ความเป็นอยู่ของเขาแล้วเรื่อยไปจนถึงวาระที่เขาถือกำเนิดมานั้น
ความผิดหนักด้านศีลธรรมของการทำแท้งแบบมีการเตรียมการไว้นั้น
ปรากฏเป็นความจริงออกมา หากเราเห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการฆ่ามนุษย์
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราพิจารณาดูสาระสำคัญต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ผู้ถูกกำจัดนั้นเป็นมนุษย์ ณ ตอนแรกเริ่มชีวิตของเขา
เราไม่อาจจินตนาการถึงผู้ใดที่เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่มีความผิดเท่านี้อีกแล้ว
ไม่มีทางเลยที่ผู้เป็นมนุษย์ในสภาพเช่นนี้จะถือว่าเป็นผู้รุกรานได้
และยิ่งไม่อาจถือว่าเขาเป็นผู้รุกรานที่อยุติธรรมต่อผู้อื่นได้เลย
เขานั้นอ่อนแอยิ่งไม่อาจปกป้องตัวเองได้ เขาไม่มีแม้แต่พลังขั้นน้อยสุดเช่นเสียง
ร้องและน้ำตาของเด็กทารกที่เพิ่งคลอดออกมาเสียด้วยซ้ำ
ทารกที่ยังไม่เกิดมาก็อยู่ในการปกป้องดูแลของสตรีผู้เป็นมารดาที่อุ้มท้องเขาอยู่นั้นถึงกระนั้น
บางครั้งกลับเป็นสตรีผู้เป็นมารดานั้นเองที่ตัดสินใจ
และร้องขอให้กำจัดเด็กในครรภ์ของตน
และแสวงหาทางที่จะให้มีการลงมือทำแท้งนั้นเสียเอง
เป็นความจริงที่ว่า การตัดสินใจทำแท้งมักจะเป็นสิ่งที่น่าเศร้า
และเจ็บปวดยิ่งนักสำหรับผู้เป็นแม่
ในเมื่อการตัดสินใจที่จะต้องกำจัดผลของการตั้งครรภ์นั้นมิใช่มาจากเหตุผลอันเห็นแก่ตัวหรือเพื่อความสุขสบายของตัวเธอเอง
แต่ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนั้น เกิดมาจากความต้องการปกป้องคุณค่าสำคัญบางประการ
อาทิเช่น เพื่อสุขภาพของตัวเธอเอง หรือเพื่อว่าสมาชิกอื่นๆ
ในครอบครัวจะได้พอมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้พอสมควร บางครั้งมาจากความหวั่นเกรงว่า
เด็กที่เกิดมานั้นอาจต้องมีชีวิตอยู่ในสภาพที่แย่มาก
ซึ่งจะเป็นการดีกว่าหากเขาไม่ต้องเกิดมา ถึงกระนั้นก็ตามเหตุผลต่างๆ
เหล่านี้และเหตุผลอื่นๆ ทำนองนี้ แม้จะรุนแรงและน่าเศร้าเพียงไรก็ตาม
ก็ไม่อาจนำเอามาแก้ต่างให้การจงใจฆ่าชีวิตมนุษย์ผู้บริสุทธิ์นั้น
เป็นสิ่งอันชอบธรรมไปได้เลย