ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
52
53 54 55
56 57 58
59 60 61
62 63 64
65 66 67
68 69 70
71 72 73
74 75 76
77
72.
ข้อความเชื่อในเรื่องที่จำเป็นจะต้องให้กฎหมายบ้านเมืองสอดคล้องกับกฎศีลธรรมนั้น
มีมาอย่างต่อเนื่องกับธรรมประเพณีทั้งหมดของพระศาสนจักร
สิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนอีกครั้งในพระสมณสารเดียวกันนี้ของพระสันตะปาปา ยอห์น ที่ 23
ตอนหนึ่งที่ว่า
อำนาจถือเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของระเบียบทางศีลธรรมและอำนาจมาจากพระเจ้า
ผลที่ตามมาก็คือ
กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ออกมาละเมิดระเบียบทางศีลธรรมก็ย่อมผิดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วย
ฉะนั้นจึงไม่มีอำนาจผูกมัดในมโนธรรมได้...อันที่จริงการผ่านกฎหมายแบบนั้นออกมา
ก็ทำลายธรรมชาติของอำนาจนั้นเองและส่งผลออกมาเป็นการใช้อำนาจไปในทางที่ผิดที่น่าละอายยิ่ง
นี่เป็นคำสอนที่ชัดเจนของท่านนักบุญโทมัส อาควีนัส ที่เขียนไว้ว่า
กฎหมายของมนุษย์ถือเป็นกฎหมายตราบเท่าที่มันสอดคล้องกับเหตุผลอันถูกต้องและเช่นนี้ก็มาจากกฏนิรันดรนั้น
แต่เมื่อกฎหมายหนึ่งขัดกับหลักเหตุผล ก็เรียกว่าเป็นกฎหมายอยุติธรรม
แต่ในกรณีนี้ก็ถือว่ามันไม่เป็นกฎหมายอีกต่อไป และกลับเป็นการกระทำรุนแรงแทน
และอีกที่หนึ่งท่านเขียนไว้ว่า
กฎหมายทุกกฎหมายที่มนุษย์ออกมาสามารถเรียกเป็นกฎหมายได้ก็ต่อเมื่อกฎหมายนั้นมาจากกฎธรรมชาติแต่ถ้ากฎหมายนั้นขัดกับกฎธรรมชาติแล้ว
มันก็ไม่ใช่กฎหมายที่แท้จริงแต่กลับ เป็นการทำลายกฎหมายมากกว่า
การนำเอาคำสอนนี้ไปประยุกต์ใช้แรกสุดและเร่งด่วนที่สุดก็คือในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายของมนุษย์ที่ไม่ยอมรับสิทธิพื้นฐานนั้นและบ่อเกิดของสิทธิอื่นๆ
ซึ่งก็คือสิทธิการมีชีวิตอยู่ อันเป็นสิทธิที่เป็นของบุคคลมนุษย์ทุกคน
ผลที่ตามมาก็คือ กฎหมายต่างๆ ที่ยอมให้การฆ่ามนุษย์ผู้บริสุทธิ์ด้วยการทำแท้ง
หรือการทำ
การุณยฆาตเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายก็เป็นกฎหมายที่ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับสิทธิที่จะมีชีวิตของมนุษย์ทุกคน
ซึ่งเป็นสิทธิอันมิอาจถูกล่วงละเมิดได้
กฎหมายเหล่านั้นไม่ยอมรับความเสมอภาคของบุคคลมนุษย์ทุกคนต่อหน้ากฎหมาย
อาจมีบางคนโต้แย้งว่าในกรณีการทำการุณยฆาตมิใช่เป็นเช่นนี้ในเมื่อถูกขอร้องให้ช่วยโดยที่บุคคลผู้ร้องขอก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ดี
แต่รัฐใดก็ตามที่ทำให้การร้องขอนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย
และให้อำนาจที่จะกระทำการเช่นว่านี้ได้ ก็กำลังกระทำการฆ่าคนตายนั่นเอง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับหลักการพื้นฐานของการที่ต้องให้ความเคารพยิ่งต่อชีวิต
และต้องปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์ทุกชีวิต
ในการทำเช่นนี้ฝ่ายรัฐก็มีส่วนบั่นทอนการให้ความเคารพต่อชีวิต
และเปิดประตูนำไปสู่การกระทำต่างๆ
ที่ทำลายความไว้วางใจในความสัมพันธ์ต่อกันระหว่างมนุษย์
กฎหมายที่อนุญาตและส่งเสริมให้มีการทำแท้งและการทำการุณยฆาตจึงขัดแย้งอย่างถึงรากถึงโคน
มิใช่กับความดีของบุคคลมนุษย์เท่านั้น แต่ยังขัดแย้งกับความดีส่วนรวมด้วย
และเมื่อเป็นเช่นนี้ กฎหมายเหล่านั้นก็ไม่มีอำนาจบังคับใช้อันถูกต้องตามกฎหมายได้
การไม่ใช้ความเคารพต่อสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่
เพราะว่ามันนำไปสู่การฆ่ามนุษย์ที่สังคมมนุษย์มีอยู่ก็ เพื่อรับใช้มนุษย์นั้น
ถือเป็นสิ่งที่ขัดแย้งโดยตรงกับความเป็นไปได้ที่จะบรรลุผลความดีส่วนรวมขึ้นมา
ผลที่ตามมาก็คือว่ากฎหมายบ้านเมืองที่ให้อำนาจทำแท้งหรือทำการุณยฆาตได้นั้น
ก็ไม่เป็นกฎหมายที่แท้จริง ไม่มีผลบังคับผูกมัดทางด้านศีลธรรมใดๆ เลยทั้งสิ้น