ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
52
53 54 55
56 57 58
59 60 61
62 63 64
65 66 67
68 69 70
71 72 73
74 75 76
77
76. บทบัญญัติ อย่าฆ่าคน
นี้จึงเป็นจุดหักเหที่เริ่มต้นนำเราไปสู่อิสรภาพแท้จริง
บทบัญญัตินี้ชี้นำให้เราส่งเสริมชีวิตอย่างแข็งขัน
และให้เราพัฒนาวิธีเฉพาะขึ้นมาในการคิดและการกระทำการเพื่อรับใช้ชีวิต
เช่นนี้เองที่เราแสดงออกซึ่งความรับผิดชอบของเราต่อบุคคลทุกคนที่ถูกมอบฝากไว้กับเรา
และในกิจการและในความจริงเราก็แสดงการโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตอันเป็นของประทานใหญ่ยิ่งนั้น
(เทียบ สดด 139:13-14)
องค์พระผู้สร้างทรงมอบชีวิตมนุษย์ให้อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของมนุษย์
มิใช่เพื่อให้เขาใช้ประโยชน์ตามอำเภอใจของตน
แต่เพื่อเขาจะได้พิทักษ์รักษาชีวิตนั้นไว้ด้วยสติปัญญา
และดูแลชีวิตนั้นด้วยความซื่อสัตย์อันเปี่ยมด้วยความรัก
พระเจ้าแห่งพันธสัญญาทรงมอบชีวิตของบุคคลมนุษย์ทุกคนไว้ให้พี่น้องเพื่อนมนุษย์ชาย-หญิงของเขาช่วยดูแลด้วย
ตามกฎของการสนองตอบซึ่งกันและกัน (law of reciprocuty) ทั้งการให้และการรับ
ทั้งการยอมมอบตัวเองแด่ผู้อื่น และการยอมรับผู้อื่นด้วยเช่นกัน
เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้
โดยการรับเอาเนื้อหนังเป็นมนุษย์และโดยการมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเรามนุษย์
พระบุตรของพระเจ้าก็ทรงแสดงให้เห็นว่ากฎของการสนองตอบซึ่งกันและกันนี้สามารถบรรลุถึงความสูงส่งและความลึกซึ้งได้สักเพียงใดพร้อมกับของประทานคือองค์พระจิตเจ้า
พระคริสตเจ้าทรงมอบเนื้อหาและ
ความหมายใหม่แก่กฎการสนองตอบซึ่งกันและกันนี้ให้แก่การที่ตัวตนของเราถูกมอบให้แก่กันและกันพระจิตเจ้าผู้ทรงสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาในความรักก็ทรงเนรมิตสร้าง
ภราดรภาพและความสมานฉันท์ใหม่ขึ้นมาในระหว่างพวกเรา
เป็นภาพสะท้อนแท้จริงแสดงถึงธรรมล้ำลึกของการมอบตัวเองให้และการรับซึ่งกันและกัน
อันเป็นคุณสมบัติเฉพาะขององค์พระตรีเอกภาพ
พระจิตเจ้าทรงกลายเป็นบทบัญญัติใหม่ที่ให้พลังแก่ผู้ที่มีความเชื่อ
และทรงปลุกความรับผิดชอบในตัวพวกเขาที่จะแบ่งปันตัวเองเป็นของขวัญแด่ผู้อื่น
และยอมรับผู้อื่นด้วยเช่นกัน เป็นการร่วมส่วนในความรัก
อันไม่มีขอบเขตของพระเยซูคริสตเจ้าเอง