ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

พระวรสารแห่งชีวิต

    ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก

บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย

78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90
91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101
  
86. ในฐานะที่เป็นส่วนของเครื่องบูชาฝ่ายจิต ซึ่งเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า (เทียบ รม 12:1) พระวรสารแห่งชีวิตก็ได้รับการเฉลิมฉลองเป็นต้นในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งควรจะเปี่ยมด้วยการแสดงความรักมอบตนเองเพื่อผู้อื่น เช่นนี้เองชีวิตของเราก็จะกลายเป็นการยอมรับชีวิตเป็นของประทานอย่างแท้จริงและอย่างมีความรับผิดชอบ และชีวิตก็จะเป็นบทเพลงจากใจของเราสรรเสริญโมทนาคุณพระเจ้า ผู้ทรงประทานของขวัญนี้แก่เรา สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วในกิจการต่างๆ ที่แสดงออกมาด้วยความใจกว้างไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งบ่อยครั้งเป็นสิ่งต่ำต้อยและซ่อนเร้นที่มนุษย์ ชาย-หญิง เด็กและผู้ใหญ่ คนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุคนที่มีสุขภาพ ดีและคนเจ็บป่วยได้แสดงออกมานั้น

กิจการเหล่านี้เองเป็นการเฉลิมฉลองพระวรสารแห่งชีวิตอย่างสง่าที่สุด เพราะว่าเป็นการประกาศด้วยการมอบตัวเองโดย สิ้นเชิง กิจการเหล่านี้เป็นการแสดงออกเด่นชัดให้เห็นถึงความรักในขั้นสูงสุด ซึ่งก็คือ การมอบชีวิตของตนเพื่อคนที่เรารัก (เทียบ ยน 15:13) กิจการเหล่านี้เป็นการร่วมส่วนในธรรมล้ำลึกแห่งกางเขน ซึ่งในกางเขนนี้พระเยซูเจ้าทรงเผยแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของมนุษย์ทุกคน และเห็นถึงวิธีที่ชีวิตจะบรรลุความสมบูรณ์ได้ ในการมอบตนเองอย่างจริงใจ นอกเหนือจากโอกาสเด่นชัดต่างๆ นั้นแล้ว ก็ยังมีวีรกรรมในชีวิตประจำวันอยู่อีกประการหนึ่ง เป็นการแสดงออกต่างๆ โดยการแบ่งปันไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม ซึ่งช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมแห่งชีวิตขึ้นมา ตัวอย่างที่น่าสรรเสริญยิ่งตัวอย่างหนึ่งของการแสดงออกเหล่านั้น ก็คือการบริจาคอวัยวะร่างกาย ที่กระทำด้วยลักษณะที่ยอมรับได้ทางด้านจริยธรรม โดยมีจุดหมายเพื่อให้ผู้ป่วยที่บางครั้งไม่มีความหวังอื่นใดอีกแล้ว กลับ มีโอกาสได้รับสุขภาพ หรือแม้กระทั้งชีวิตคืนมาใหม่ อีกส่วนหนึ่งของวีรกรรมในชีวิตประจำวัน ก็คือการเป็นสักขีพยานเด่นชัดแบบเงียบๆ แต่มีผลดีมากของผู้ที่เป็น “มารดาผู้กล้าหาญที่อุทิศตนทั้งหมดให้ครอบครัวของตน ยอมทุกข์ทรมานเมื่อให้กำเนิดบุตร และพร้อมเสมอที่จะพยายามทำทุกสิ่ง เสียสละทุกอย่าง เพื่อนำส่วนดีที่สุดของตนมอบเป็นแบบฉบับแก่บุตร ของตน” ในการเจริญชีวิตตามพันธกิจนี้ “วีรสตรีเหล่านี้มักจะไม่พบการสนับสนุนใดๆ จากโลกรอบตัวเธอ ตรงกันข้ามต้นแบบต่างๆ ทางวัฒนธรรมที่สื่อสารมวลชนมักจะส่งเสริมและออกอากาศ เผยแพร่กันอยู่นั้น ก็ไม่ได้ช่วยสนับสนุนเรื่องของการเป็นแม่เลย โดยการอ้างถึงความก้าวหน้าและความทันสมัย คุณค่าบางประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งความซื่อสัตย์ ความบริสุทธิ์ ความเสียสละ ซึ่งผู้เป็นภรรยาและมารดาคริสตชนพวกหนี่งได้ยึดถือและยังคงถือปฏิบัติเป็นสักขีพยานเด่นชัดเรื่อยมานั้นกลับถูกนำเสนอเป็นสิ่ง ล้าสมัยไปเสีย...เราขอขอบคุณพวกท่าน มารดาวีรสตรีทั้งหลายสำหรับความรักล้นเหลือของพวกท่าน เราขอขอบคุณสำหรับ ความไว้วางใจมั่นคงที่ท่านมีต่อพระเจ้าและต่อความรักของพระองค์ เราขอขอบคุณสำหรับการที่ท่านเสียสละชีวิตของตนเอง...ในธรรมล้ำลึกปัสกานั้น พระคริสตเจ้าทรงนำของขวัญที่พวกท่านมอบถวายแด่พระองค์มาคืนให้พวกท่านแล้ว อันที่จริง พระองค์ทรงมีอำนาจ ที่จะมอบชีวิตที่พวกท่านยกถวายแด่พระองค์คืนให้พวกท่าน ด้วย”

“จะมีประโยชน์ใด หากผู้หนึ่งอ้างว่ามีความเชื่อ
แต่ไม่มีการกระทำ” (ยก2:14) : การรับใช้พระวรสารแห่งชีวิต

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย