ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ชีวิตมนุษย์มีต้นกำเนิดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์จึงมาจากพระเจ้าและเป็นของพระเจ้า ทุกชีวิตมนุษย์เป็นของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่โลก
บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทส่งท้าย
78 79
80 81 82
83 84 85
86 87 88
89 90
91 92 93
94 95 96
97 98 99
100 101
92. ภายใน ประชากรแห่งชีวิตและประชากรเพื่อชีวิต
นี้เองที่ครอบครัวมีความรับผิดชอบอันสำคัญยิ่ง
ความรับผิดชอบนี้มาจากธรรมชาติของครอบครัวที่เป็นหน่วยรวมของชีวิตและ ความรัก
ที่มีพื้นฐานจากการสมรสและจากพันธกิจที่จะต้อง พิทักษ์ เผยแสดง และสื่อความรัก
นี่เป็นเรื่องความรักของ พระเจ้าเองที่ผู้เป็นพ่อแม่เป็นผู้ร่วมงานกับความรักนี้
และเป็น
ผู้ให้ความหมายแก่ความรักนี้
เมื่อทั้งสองส่งผ่านชีวิตและเลี้ยงดูชีวิตนั้นตามแผนการดุจบิดาของพระเป็นเจ้า
นี่เป็นความรัก ที่กลายเป็นความไม่เห็นแก่ตัว
เป็นการยอมรับและเป็นของขวัญภายในครอบครัว สมาชิกแต่ละคนได้รับการยอมรับ ได้รับการ
เคารพ และได้รับเกียรติ ทั้งนี้เพราะเขาเป็นบุคคลมนุษย์ และ
ถ้าสมาชิกครอบครัวคนใดมีความจำเป็นมากกว่า เขาก็จะได้รับ
การดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษยิ่งขึ้นด้วย
ครอบครัวมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อชีวิตทั้งชีวิตของสมาชิกครอบครัวนับแต่เกิดมาจนกระทั่งตาย
ครอบครัวเป็น สักการะสถานแห่งชีวิต จริงๆ
นั่นคือเป็นสถานที่ที่ชีวิต-ของขวัญจากพระเจ้าแก่มนุษย-สามารถได้รับการต้อนรับจริงๆ
และได้รับการปกป้องให้ต่อสู้กับการโจมตีต่างๆ ที่ชีวิตนั้นต้องเผชิญ และสามารถ
พัฒนาให้สอดคล้องตามสิ่งที่ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตเป็นมนุษย์นั้นด้วย
ผลที่ตามมาก็คือบทบาทของครอบครัวในการสร้างเสริมวัฒนธรรมแห่งชีวิต
จึงเป็นสิ่งสำคัญและไม่อาจมีสิ่งใดมา แทนที่ได้
ในฐานะที่ครอบครัวเป็นพระศาสนจักรระดับบ้าน (domestic church)
ครอบครัวจึงอยู่ร่วมกันเพื่อประกาศ เฉลิมฉลองและรับใช้พระวรสารแห่งชีวิต
นี่คือความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับคู่สามีภรรยาเป็นอันดับแรก
ผู้ถูกเรียกมาเป็นผู้ให้ชีวิต บนพื้นฐานของการตระหนักยิ่งขึ้น
ถึงความหมายของการให้กำเนิดมนุษย์ว่าเป็นเหตุการณ์พิเศษยิ่งที่เผยแสดงอย่างชัดเจนว่า
ชีวิตมนุษย์ เป็นของประทานที่ได้รับมา เพื่อจะได้มอบให้เป็นของขวัญต่อไป
ในการให้กำเนิดชีวิตใหม่ ผู้เป็นพ่อแม่สำนึกดีว่าบุตร
เป็นผลอันเกิดมาจากการที่ทั้งสองมอบความรักเป็นของขวัญให้แก่กันและกัน
และก็ได้รับของขวัญนั้นจากกันและกัน อันเป็นของขวัญที่มา จากทั้งสองฝ่าย
เหนืออื่นใดในการเลี้ยงดูบุตรนั้นเองที่ครอบครัวบรรลุผลพันธกิจของตนในการประกาศพระวรสารแห่งชีวิต
ด้วยคำพูดและด้วยแบบอย่างของพ่อแม่ในการมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันและในการเลือกต่างๆ
ในชีวิตประจำวัน และโดยอาศัยการกระทำและเครื่องหมายต่างๆ ตามที่เป็นอยู่จริงๆ นั้น
พ่อแม่ก็ช่วยนำบุตรของตนไปสู่อิสรภาพแท้ ที่ทำให้เป็นจริงขึ้นมาได้ในการเต็มใจ
มอบตัวเองเป็นของขวัญ และพ่อแม่ก็ช่วยเพาะปลูกขึ้นในตัวบุตร
ซึ่งการมีความเคารพต่อผู้อื่น การมีสำนึกถึงความยุติธรรม การเปิดใจตนเอง
การเสวนากับผู้อื่นการรับใช้ด้วยใจกว้าง การมีความสมานสามัคคี และคุณค่าอื่นๆ
ทั้งหลายที่ช่วยให้มนุษย์เจริญชีวิตแบบเป็นของขวัญแด่ผู้อื่นได้
ในการอบรมเลี้ยงดูบุตร พ่อแม่ คริสตชนต้องเอาใจใส่สนใจในเรื่องความเชื่อของบุตร
และต้อง ช่วยให้เขาเติมเต็มกระแสเรียกที่พระเจ้าทรงมอบให้เขานั้นด้วย
พันธกิจของพ่อแม่ในฐานะผู้ให้การศึกษาอบรมบุตรควรรวมถึงการอบรมสั่งสอน
และการมอบแบบอย่างที่ดีแก่บุตรถึงความหมายแท้ของความทุกข์และความตายด้วย
พ่อแม่จะสามารถทำเช่นว่านี้ได้หากรับรู้ได้เร็วถึงความทุกข์หลากหลายชนิดที่เกิดขึ้นอยู่รอบ
ตัว และยิ่งกว่านั้นหากพ่อแม่จะสนับสนุนให้บุตรมีทัศนคติขอบอยู่ใกล้ชิด
ชอบให้ความช่วยเหลือ และร่วมส่วนกับสมาชิกที่เจ็บป่วย
หรือผู้สูงอายุของครอบครัวของตนด้วย