วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา
ข้อตกลงโลกร้อนที่เป็นธรรม
ความเป็นธรรมด้านภูมิอากาศ
เศรษฐกิจ
ความช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อการป้องกันและปรับตัว
เกษตรกรรมและประมง
สุขภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพและถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ
ชายฝั่งและประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก
ทรัพยากรน้ำ
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ความยากจนและหิวโหย
พลังงานและอุตสาหกรรม
ความขัดแย้ง ผู้อพยพจากปัญหาสิ่งแวดล้อม สิทธิของชนพื้นเมือง
เกษตรกรรมและประมง
20. ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา
ผลผลิตธัญพืชหลายแห่งในเอเชียได้ลดลงไปเนื่องจากปัญหาขาดแคลนน้ำซึ่งมีสาเหตุบางส่วนจากภาวะโลกร้อน
(ภัยแล้งที่รุนแรงกว่าเดิมจากปรากฎการณ์เอล นีโน่ อุณหภูมิที่อุ่นขึ้น
และฝนขาดช่วง)
21.
มีการคาดการณ์ว่าผลผลิตของพืชเศรษฐกิจในเอเชียใต้และเอเชียกลางอาจตกลงไปถึง 30
เปอร์เซ็นต์ในปี 2050 และจะก่อให้ิเกิดความเสี่ยงเรื่องความอดอยากมากขึ้น ที่ผ่านมา
ผลผลิตข้าวได้ลดลงไป 10 เปอร์เซ็นต์ในทุกๆ การเพิ่มของอุณหภูมิ 1
องศาเซลเซียสช่วงฤดูการเพาะปลูก
22.
ได้มีการคาดการณ๋ว่าอุณหภูมิในเอเชียตะวันออกจะเพิ่มขึ้น 1 องศาในช่วงปี 2020
และจะทำให้ความต้องการน้ำเพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์
23.
มีแนวโน้มอย่างมากว่าน้ำท่วมชายฝั่งจะส่งผลกระทบต่ออุตสหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์และพืชน้ำ
โดยเฉพาะในลุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น
24.
การประมงถือเป็นวิถึชีวิตหลักของครอบครัวยากจนจำนวนมากในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายได้ของพวกเขาเหล่านั้นจะถูกกระทบอย่างหนักถ้าภาวะโลกร้อนทำให้จำนวนปลาลดลง
มีการคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวจะลดลงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยใน 4
ประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และ ประเทศไทย) ในปี 2100
โดยมีผลผลิตของปี 1990 เป็นฐาน ถ้าไม่มีการปรับตัวหรือพัฒนาเทคโนโลยีด้านเทคนิค
25.
เกษตรกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดและคิดเป็นจำนวนกว่าร้อยละ
50 ของเกษตรกรรมในเขตใต้เส้นรุ้ง
มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ความเสียหายของโลกที่เกิดจากภาวะโลกร้อนจะตกอยู่กับภาคเกษตรในภูมิภาคนี้