ศาสนา
ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม
ขงจื้อ
ผลงานของขงจื้อ
ลัทธิขงจื้อ
การสืบทอดขนบขงจื้อ
ปรัชญาขงจื้อ
ผลงานของขงจื้อ
งานทางด้านการเขียนของขงจื้อปรากฏอยู่ในหนังสือ
สังเขปการสอนของขงจื้อ หรือที่จีนเรียกว่า ลันยู
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบันทึกและเรื่องราวต่าง ๆ เช่น คำพูด
คำสอนของขงจื้อและกิจกรรมต่าง ๆ
ที่ลูกศิษย์ของท่านได้ช่วยกันรวบรวมขึ้นหลังจากการจากไปของขงจื้อส่วนวรรณกรรมที่ท่านได้รวบรวมขึ้นมีดังนี้
1. ฉวนฉิว
เป็นบันทึกเหตุการณ์ระหว่างฤดูใบไม้ผลิและใบไม่ร่วง
เป็นคุณลักษณะของขงจื้อและเป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจการทางการเมืองของแคว้นลู้จากปี
723-481 ก่อนคริสตกาล และข้อสังเกตที่เกี่ยวกับพิธีกรรมได้รับการปฏิบัติ
อุปนิสัยของข้าราชการและความเสียสละที่แสดงออกและท่าทางทัศนคติที่แสดงออกในความสัมพันธ์ต่าง
ๆ นอกจากนั้นยังได้แจกแจงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมาย
นับตั้งแต่การเจรจาตกลงทางการทูต จนถึงปรากฎการณ์ธรรมชาติ เช่น อุปราคา เป็นต้น
2. ชิจิ
เป็นหนังสือเกี่ยวกับบทกวีนิพนธ์ต่าง ๆ
หนังสือเล่มนี้สามารถนำไปเปรียบเทียบกับ Song of Solomon ในคัมภีร์ใบเบิ้ล โคลงต่าง
ๆ เป็นเพลงพื้นเมืองที่ร้อนกันในสมัยแรก ๆ โดยทั่วไปแล้วเป็นบทพรรณนาถึงหนุ่ม ๆ สาว
ที่กำลังร้องรำทำเพลงและเล่นหยอกล้อกันด้วยความเสน่หาในฤดูใบไม้ผลิและในฤดูเก็บเกี่ยว
3. ฉูชิง
เป็นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่ารวมโดยขงจื้อเอง
ดังนั้นจึงมีความสำคัญอย่างลึงซึ้ง เป็นการประมวลคำปราศรัย คำสัตย์ปฏิญาณในพิธีกรรม
4. อิชิง
เป็นหนังสือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเป็นตำนานลึกลับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ
อำนาจ ศักดิ์สิทธิ์และพลังแห่งจุดหมายปลายทาง
เป็นงานชิ้นแรกซึ่งได้รับความนิยมและจัดเข้าเป็นขั้นคลาสิคในสมัยต่อ ๆ มา
ลักษณะเด่นตำราเล่มนี้คือ ปากัวหรือรอยสลักแปดตัวซึ่งโหรจีนให้ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ
และเอ้อหยา
ซึ่เงป็นปทานุกรมฉบับแรกที่พยายามอธิบายความมืดมนของตำราว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงและตำราว่าด้วยพิธีกรรม
5. ลิจี่
เป็นหนังสือเกี่ยวกับพิธีการต่าง ๆ
เป็นการสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น
วิธีที่ควรจะถือและเหนี่ยวคันศรในระหว่างที่แสดงศิลปะของสุภาพบุรุษในการยิง
นอกจากนั้นก็กล่าวถึงการเรียกอันยิ่งใหญ่และทฤษฎีแห่งมัชฌิม
เมื่อพวกมองโกลเข้ายึดจีนได้คือในราว ค.ศ.
1278-1368 จักรพรรดิกุบไล่ข่านก็มิได้ขัดขวางลักธินี้ ทรงยึดหลักของขงจื้อ
ต่อมาในสมัยราชวงศ์เหม็งได้พยายามล้มล้างอิทธิพลของพวกมองโกล
และรื้อฟื้นการตั้งยศฐาบรรดาศักดิ์ตลอดจนมีพิธีการบูชาขงจื้อและเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาตำราขงจื้อเป็นอย่างมาก
สมัยราชวงศ์เหม็งได้รื้อฟื้นการสอบแบบขงจื้อคือเปิดให้มีการสอบชั้นสูงถึง
89 ครั้ง มีผู้สอบผ่านการสอบชั้นสูงเพียง 280 คน มีการยกส่วนต่าง ๆ
ของตำราขงจื้อมาเขียนตีความและวิจารณ์
โดยยึดแบบของชูชีตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ้องเป็นหลัก
ลักธิขงจื้อนี้มีชื่อเสียงมาก
และเผยแพร่เข้าไปในหมู่พวกแมนจูโดยพวกแมนจูใช้หลักของขงจื้อในการปกครองจีน
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าพวกมองโกลหรือแมนจูก็ตามที่มีอำนาจยึดครองจีนได้
ต่างก็ตระหนักดีว่า
การที่จะปกครองจีนได้จะต้องธำรงไว้ซึ่งอารายธรรมตลอดจนลักธิขงจื้อที่ชาวจีนยึดถือปฏิบัติกัน